สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านนะคะ วันนี้ดิฉันจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอีกเช่นเคย ถ้าในช่วงนี้ใครที่อยู่บ้านก็สามารถอ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่ดิฉันมาแนะนำได้นะคะ เพราะบทความของดิฉันนั้น ไม่เพียงแต่จะพาท่านไปท่องเที่ยว แต่ยังพาทุกท่านย้อนเวลาไปหาประวัติความเป็นมาของแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆอีกด้วย และในวันนี้สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำของดิฉันนั้นจะมาเอาใจสายพระ สายบุญกันสักหน่อย แต่หากท่านไม่ใช่สายนี้ก็สามารถอ่านได้เช่นกันนะ เพราะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพระพุทธรูปในวัดแห่งนี้ที่น่ารู้อีกมาก และถ้าทุกท่านพร้อมแล้ว เราไปกันเลย สถานที่ท่องเที่ยวในวันนี้ก็คือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก ดิฉันเชื่อว่าหลายๆท่านอาจจะไม่คุ้นชื่อสักเท่าไหร่แต่ถ้าดิฉันบอกว่า วัดพระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก ทุกคนอาจจะพอคุ้นชื่อขึ้นมาบ้างใช่ไหมคะ ทุกท่านรู้ไหมค่ะว่า จังหวัดพิษณุโลกเนี้ยเป็นส่วนหนึ่งของรอยต่ออาณาจักรสุโขทัยมาตั้งนานแสนนาน พูดง่ายๆคือเมื่อมีการสร้างเมืองสุโขทัยขึ้นมาไม่นานก็มีการสร้างเมืองพิษณุโลก หรือในชื่อเมืองสองแคว ที่เรียกกันในสมัยก่อน เมืองพิษณุโลกนี้แท้จริงแล้วมีความสำคัญในประวัติศาสตร์มากนะคะ และที่สำคัญยังส่งผลในยุครัตนโกสินทร์ยุคปัจจุบันอีกด้วย หลายๆท่านอาจจะไม่เคยไปพิษณุโลกเพราะทุกท่านคิดว่าจังหวัดแห่งนี้ไม่ค่อยมีอะไรใช่ไหมคะ หรือไม่หลายท่านก็คงเคยผ่านจังหวัดนี้แค่ขับรถผ่านเท่านั้น แต่หลังจากนี้ทุกท่านจะได้แวะไปที่นี้บ่อยๆแน่นอนค่ะ เพราะที่นี่มี พระพุทธรูปที่งามที่สุดในโลก นาม พระพุทธชินราช พระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูป ปรางมารวิชัย ศิลปะสุขโขทัยที่หล่อในสมัยพระมหาธรรมราชาที่1 (พญาลิไท) กษัตริย์ในสมัยสุโขทัย พระพุทธชินราชองค์นี้เป็นองค์ที่เก่าแก่ และเป็นองค์จริงไม่ใช่องค์จำลอง ทุกท่านรู้กันหรือไม่คะว่า พระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปที่ถูกจำลองมากที่สุดเพราะมีพุทธลักษณะที่งดงามทำให้เป็นที่ศรัทธาของผู้คนทั่วไปที่พบเห็น แต่องค์ที่มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยคือองค์พระพุทธชินราชที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลกเท่านั้น องค์จริงนั้นจะมีซุ้มเรืองแก้วเป็นสีทอง ดังที่ทุกคนเห็นในภาพ ความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปองค์นี้เชื่อกันว่าในตอนที่ตั้งเมืองพิษณุโลกนั้น ได้มีการหล่อพระพุทธรูป 3 องค์เพื่อมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้ ซึ่งทั้ง 3 องค์นั้นมีชื่อว่า พระพุทธชินสีช์ พระศรีศาสดา และพระพุทธชินราช สององค์แรกที่เริ่มหล่อนั้นก็เป็นไปด้วยดี แต่พอองค์ที่สาม กับหล่อยากจึงมีเรื่องเล่าว่าพระอินทร์ได้แปลงกายลงมาช่วยหล่อพระพุทธรูปองค์นี้ ทำให้พระพุทธรูปองค์นี้มีพุทธลักษณะที่สวยงามด้วยเพราะถูกหล่อด้วยเทพยดา ทำให้มีขนาดใหญ่และงดงามกว่าองค์อื่นๆ ทำให้ผู้ที่พบเห็นต่างหลงใหลในความงามของท่าน จนเกิดความศรัทธา และไม่ว่ากษัตริย์องค์ไหนที่จะขึ้นครองราชย์ ในสมัยอยุธยานั้นก็ต่างต้องมาสักการะและกราบไหว้พะรพุทธชินราชองค์นี้ จนถึงในสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงศรัทธาและอยากให้ช่างหล่อองค์ใหม่ขึ้น แบบที่เรียกว่าหล่อกันแบบปะจันหน้าที่บริเวณวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลกเลยทีเดียว ก่อนทำการชะลอพระมาประดิษฐานที่วัดเบญจมบพิตร เหตุที่พระองค์ท่านไม่ทรงเอาองค์จริงมานั้นด้วยชาวบ้านในเมืองพิษณุโลก ถือว่าพระพุทธชินราช เป็นหัวใจและที่ยึดเหนี่ยวของชาวเมืองพิษณุโลก ท่านจึงไม่อยากที่จะเอาองค์จริงไป แต่ให้หล่อองค์จำลองขึ้นแต่หล่อแบบให้เหมือนที่สุดเท่าที่จะเหมือนได้ หากทุกท่านเคยไปวัดเบญจมบพิตรที่กรุงเทพมานั้น จะเห็นได้ว่าตัวซุ้มเรืองแก้วจะเป็นสีฟ้าไม่ใช่สีทอง นี้ก็คือความแตกต่างนั่นเองค่ะ ตอนนี้ทุกท่านคงพอทราบประวัติของวัดแห่งนี้และความงดงามและศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระพุทธชินราชแล้ว ดังนั้นหากทุกท่านมีโอกาสแวะไปหรือขับรถผ่านก็อย่าลืมแวะกราบไหว้องค์พระพุทธชินราชกันด้วยนะคะ และดิฉันเชื่อว่าหากทุกท่านมีโอกาสได้ไปที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก แล้วทุกท่านจะสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ของพระประธานที่วัดแห่งนี้แน่นอนค่ะ. เครดิตปกและรูปภาพ:โดยผู้เขียน