หุบป่าตาด Unseen อุทัยธานี ป่าดึกดำบรรพ์เมืองไทย
ใครกำลังมองหาที่เที่ยวบรรยากาศเขียวชอุ่มในช่วงปลายฝนต้นหนาว แต่อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศจากป่าเขาทั่วไปล่ะก็ ขอแนะนำที่ หุบป่าตาด ป่าที่ให้ฟีลเหมือนเดินหลงเข้าไปยุคไดโนเสาร์ยังไงยังงั้นเลย ที่ จังหวัดอุทัยธานี นี่เอง
หุบป่าตาด เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
หุบป่าตาด เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์อยู่ที่ถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ที่เราจะต้องเดินผ่านเข้าไปเพื่อที่จะชมป่าโบราณที่ซุกซ่อนตัวอยู่ภายใน ซึ่งเขาหินปูนนี้มีอายุเก่าแก่ประมาณ 245-286 ล้านปีแล้ว เมื่อถูกน้ำฝนกัดเซาะเข้าก็ค่อยๆ กัดเซาะทะลุทะลวงไปตามรอยแตกของหิน จนเกิดเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่อยู่ภายในขุนเขา (กระบวนการนี้ใช้เวลานับแสนนับหมื่นปีเลยทีเดียว) จนกระทั่งเพดานถ้ำถล่มลงมาตามกาลเวลา ก็ทำให้พืชพันธุ์ไม้ด้านบนร่วงลงมาด้วย จากนั้นจึงเกิดป่าขึ้นอยู่ภายในถ้ำนั่นเอง
เมื่อป่าถูกล้อมด้วยภูเขาหินปูนรอบด้าน และมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเติบโตของพืช ทั้งอุณหภูมิ ความชื้น อากาศ แสงแดด ฯลฯ จึงทำให้เกิดเป็นระบบนิเวศน์เฉพาะตัวที่คล้ายกับเมื่อยุคร้อยล้านปีก่อน ทั้งสัตว์ป่า และพันธุ์ไม้ โดยเฉพาะต้นตาด หรือต๋าว เป็นพืชตระกูลปาล์มที่ไม่สามารถปลูกได้ จะขึ้นเองตามธรรมชาติเท่านั้น ต้องใช้เวลาถึง 10 ปีถึงจะออกผลได้
หุบป่าตาดถูกค้นพบโดย พระครูสันติธรรมโกศล หรือหลวงพ่อทองหยด เจ้าอาวาสวัดถ้ำทอง เมื่อปี 2522 ท่านได้ปีนเขาแล้วเข้าไปเห็นความแปลกและสวยงามของสถานที่นี้ ที่ด้านในเต็มไปด้วยต้นตาด และพันธุ์ไม้มากมาย ต่อมาจึงได้มีการเจาะภูเขาเป็นอุโมงค์ หรือถ้ำเข้าไปด้านใน
ผจญภัยในป่าโลกล้านปี
ชมถ้ำโบราณร้อยล้านปี
การจะเข้าไปเดินชมป่าตาดที่อยู่ด้านในขอเพียงมีไฟฉาย ยากันยุง (ที่นี่ยุงดุมาก แต่ถ้ามาหน้าหนาวยุงจะน้อยหน่อย) และรองเท้าผ้าใบ ก็พร้อมลุยแล้ว เพราะเขาทำทางเดินไว้สะดวกมาก ไม่ต้องมีการปีนป่ายอะไรแต่อย่างใด ตลอดทางจะมีป้ายให้ความรู้ของที่นี่ให้อ่าน
ระหว่างทางอาจได้พบเจอสัตว์ประจำถิ่นที่นี่ เช่น เลียงผา ไก่ฟ้า (ที่มักได้ยินแต่เสียง ไม่เจอตัว) แต่ที่เป็นไฮไลท์มากที่สุดของที่นี่ ก็คือ กิ้งกือมังกรสีชมพู ที่จะพบได้แค่ช่วงปลายฝนต้นหนาวของทุกปีเท่านั้น (ประมาณเดือนสิงหาคม – พฤศจิกายน) เป็นสัตว์หายากที่ถูกค้นพบที่ประเทศไทยในหุบป่าตาดแห่งนี้ และเป็นแห่งเดียวของประเทศไทยด้วย เมื่อโตเต็มที่จะมีลำตัวยาวประมาณ 7 เซนติเมตร ต้องสังเกตดีๆ เพราะตัวเล็กมาก
ระยะทางเดินชมธรรมชาติก็สบายๆ ไป-กลับ 700 เมตร ใช้เวลาชมประมาณ 30 นาที มีจุดชมวิวยอดนิยมอยู่ตรงปลายทางซึ่งเป็นปล่องขนาดใหญ่ที่มีแสงส่องลงมา ที่เราจะต้องผ่านโถงถ้ำที่มืดสนิท ประมาณ 40 เมตรไปซะก่อน
หลังจากผ่านอุโมงค์แล้วก็จะเข้าพื้นที่ของป่าตาด มีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ เดินชมวิว ศึกษาธรรมชาติกันได้ชิลชิล และมีโถงถ้ำกลางหุบป่าตาดที่มีหินงอกหินย้อย หินงอกเอน ให้ได้ดูกันด้วย ย้ำว่าให้ดูเฉยๆ ไม่ควรไปแตะต้องนะครับ ช่วยกันอนุรักษ์โลกดึกดำบรรพ์ใบนี้ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวน่าไปเช่นเดิม
- ที่ตั้ง : หุบป่าตาด อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี
- พิกัด : https://goo.gl/maps/63UmtVpYUDfvQNLWA
- เปิดเข้าชม : ทุกวัน ตั้งแต่ 08.30 น. – 16.00 น.
- ค่าเข้าชม :
- ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
- ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
- โทร : เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน 0-5698-9128
- การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางนครสวรรค์มุ่งหน้าไปที่ถนนหมายเลข 333 ตรงเข้าจังหวัดอุทัยธานี จากนั้นมุ่งหน้าสู่อำเภอลานสัก ก็จะถึงหุบป่าตาด ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จากตัวเมืองอุทัยธานี