หากมีโอกาสไปเที่ยวเกียวโต สถานที่หนึ่งซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คที่ไม่ว่าอย่างไรก็พลาดไม่ได้แน่ๆ คงเป็นศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ หรือที่คนไทยรู้จักกันจากภาพเสาประตูโทริอิสีแดงเรียงรายนับพันๆ ต้นตลอดทางเดิน และที่นี่ละที่เราจะชวนมาเที่ยวกันในวันนี้ Cr: Unsplash ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ เป็นศาลเจ้าชินโตสร้างขึ้นเพื่อสักการะเทพอินาริ-เทพแห่งกสิกรรม ผู้คนเชื่อว่าเทพอินาริจะช่วยบันดาลความอุดมสมบูรณ์จึงกลายเป็นเทพที่มีผู้นับถือมากที่สุดองค์หนึ่งในวัฒนธรรมญี่ปุ่น และด้วยความที่เทพอินาริมีจิ้งจอก (คิทสึเนะ) เป็นผู้รับใช้ส่งสาร ผู้คนจึงมักถือเสมือนว่าจิ้งจอกขาวเป็นตัวแทนของเทพอินาริด้วย และมักจะมีจิ้งจอกคู่อยู่ที่หน้าศาลเจ้าบูชาเทพอินาริ รวมทั้งที่ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริแห่งนี้เช่นกัน Cr: Unsplash ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริเชื่อว่าสร้างตั้งแต่พันปีก่อนโดยตั้งอยู่บนเชิงเขาอินาริ และสิ่งที่ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันคือเสาประตูโทริอิสีแดงสดเรียงรายตลอดเส้นทางนับพันๆ ต้น ทอดยาวไปบนภูเขาแห่งนี้ ซึ่งหากใครคิดจะเดินชมให้ทั่วอาจต้องเผื่อเวลาไว้สองถึงสามชั่วโมงทีเดียว Cr: Unsplash เสาประตูโทริอิก็มีความสำคัญในวัฒนธรรมญี่ปุ่นเช่นกัน เพราะเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่านี่เป็นเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้า เป็นสถานที่ของเทพเจ้า เราจึงมักเห็นเสาประตูสีแดงแบบนี้อยู่หน้าวัดและศาลเจ้าทั่วไปในญี่ปุ่น แต่ไม่ว่าจะไปวัดหรือศาลเจ้าไหน ก็คงไม่ได้เห็นภาพของเสาโทริอิตั้งเรียงรายเต็มสองทางเดินนับพันๆ ต้นได้แบบศาลเจ้าฟูชิมิอินาริที่เกียวโตอีกแล้ว นี่จึงเป็นความพิเศษที่ทำให้ใครๆ ต่างก็กล่าวถึงที่นี่ และกลายเป็นที่ติดตา ประทับใจของผู้มาเยือน Cr: Unsplash ทั้งนี้ ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริไม่ได้มีดีแค่บรรยากาศอันน่าตื่นตาแต่ชวนสงบของเสาโทริอิสีแดงสดเท่านั้น เนื่องจากศาลเจ้าแห่งนี้บูชาเทพอินาริ เทพเจ้าแห่งธัญญาหารและความอุดมสมบูรณ์ จึงได้ชื่อว่าเป็นเทพแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากได้มีโอกาสมาเยือนแล้ว ก็สามารถขอพรเรื่องโชคลาภและเงินทองจากเทพอินาริได้เช่นกัน Cr: Unsplash สำหรับการเดินทางสามารถมาได้ด้วย JR Nara Line ลงที่สถานที JR Inari โดยไม่เสียค่าเข้าชม