5 ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ฉบับครอบครัว 2025 พาลูกเที่ยวรับซัมเมอร์ ชมวิวทะเล เดินป่า ครบ!

     พูดว่าหน้าร้อน หลายคนอาจจะคิดถึงทะเลเมืองไทย แต่ถ้าอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศไปสัมผัสหน้าร้อนแบบชิลๆ ที่ต่างประเทศ ญี่ปุ่นคือตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ช่วงซัมเมอร์ของที่นี่มีเสน่ห์ไม่แพ้ใคร ทั้งทุ่งดอกไม้สีสันสดใส ชายหาดที่เหมาะกับการพักผ่อน หรือแม้แต่ธรรมชาติอันบริสุทธิ์ วันนี้เราขอพาทุกคนไปปักหมุด 5 จุดเช็กอินสุดฮิต เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อนแบบเที่ยวได้ทั้งครอบครัว รับรองว่าถูกใจทั้งบ้านแน่นอน!

5 ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ฉบับครอบครัว 2025
พาลูกเที่ยวรับซัมเมอร์

1. ฟาร์มโทมิตะ ฟุราโนะ ฮอกไกโด
ทุ่งดอกไม้บานสะพรั่ง ดุจเทพนิยายกลางฤดูร้อน

     ถ้าพูดถึงฮอกไกโด หลายคนคงนึกถึงภาพหิมะขาวโพลน แต่ขอบอกเลยว่าฮอกไกโดหน้าร้อนก็สวยไม่แพ้ใคร โดยเฉพาะที่ ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) ในเมืองฟุราโนะ ที่นี่คือสวรรค์ของคนรักดอกไม้! ทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วง ทุ่งดอกไม้หลากสีสันละลานตาตัดกับท้องฟ้าสดใส ถ่ายรูปมุมไหนก็สวยเหมือนหลุดเข้าไปในเทพนิยาย เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ไม่ควรพลาดถ้ามาเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน

• พิกัด : 〒071-0704 Hokkaido, Sorachi District, Nakafurano Town, Kisen Kita 15
• เวลาทำการ : 8:30-17:30 น.
• ข้อมูลเพิ่มเติม : ฟาร์มโทมิตะ (เว็บไซต์ทางการ)
• ทิปส์การเดินทาง : ลองสัมผัสประสบการณ์ใหม่กับการเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่ Sunflower ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งร้านอาหาร อ่างอาบน้ำ และกิจกรรมบนเรือ เหมาะกับการพักผ่อนระหว่างทางไกล

2. หาด Yuigahama จังหวัดคานากาวะ
ชายหาดสุดชิล ใกล้โตเกียว วิวฟูจิสุดอลังการ

     หน้าร้อนทั้งที จะพลาดการลงเล่นน้ำได้ยังไง! ถ้าคุณกำลังมองหาชายหาดที่เดินทางง่ายจากโตเกียว และเหมาะสำหรับเด็กๆ หาดยุยกะฮามะ (Yuigahama) ที่คามาคุระ จังหวัดคานากาวะ คือคำตอบที่ดีงามค่ะ ที่นี่เป็นอีกหนึ่งหาดฮิตที่คนญี่ปุ่นนิยมมาเล่นเซิร์ฟ และในวันฟ้าใส คุณจะได้เห็นวิวเกาะเอโนชิมะ และภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังสวยๆ อีกด้วย จะนั่งรถไฟชิลๆ หรือเช่ารถขับเลียบทะเลก็เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย

• พิกัด : 〒248-0016 Hase 2-chome, Kamakura City, Kanagawa Prefecture
• การเดินทาง : จากโตเกียว นั่ง JR Yokosuka Line ไปลงที่ สถานี Kamakura (ประมาณ 1 ชม.) จากนั้นต่อรถไฟ Enoden ไปลงที่สถานี Yuigahama เดิน 5 นาทีถึงชายหาด

3. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุราอูมิ โอกินาว่า
ดำดิ่งสู่โลกใต้ทะเลกับฉลามวาฬยักษ์

     สัมผัสความอลังการของโลกใต้ทะเลแห่งโอกินาว่าที่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุราอูมิ (Okinawa Churaumi Aquarium) พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชื่อดังระดับโลก ไฮไลต์เด็ดคือแทงก์น้ำขนาดมหึมา "ตู้ทะเลคุโรชิโอะ" ที่จำลองระบบนิเวศใต้ทะเลได้อย่างน่าทึ่ง คุณจะได้พบกับคุณฉลามวาฬตัวโตที่แหวกว่ายอย่างสง่างาม รวมถึงสัตว์น้ำนานาชนิดที่เด็กๆ ต้องตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอน และอย่าพลาดชมโชว์การให้อาหารสัตว์ที่จัดแสดงทุกวัน!

• พิกัด : 〒905-0206 424 Ishikawa, Motobu-cho, Kunigami-gun, Okinawa Prefecture
• เวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 8:30-18:30 น.
• ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 2,180 เยน | นักเรียนมัธยมปลาย 1,440 เยน | นักเรียนประถม 710 เยน | เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าฟรี
• ข้อมูลเพิ่มเติม : พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุราอูมิ (เว็บไซต์ทางการ)
• กิจกรรมพิเศษ : สำหรับสายแอดเวนเจอร์ ลองเข้าร่วมทัวร์ชมปลากระเบนและฉลามกลางทะเลกับ OSC (Okinawa Sakana Company) หรือกิจกรรมอื่นๆ เช่น การดำน้ำกับปลากระเบนแมนต้า ก็เป็นประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้

4. คามิโคจิ จังหวัดนากาโน่
เดินป่า สูดอากาศบริสุทธิ์ ณ แอลป์ญี่ปุ่น

     หากครอบครัวไหนที่ชอบการเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ ใกล้ชิดธรรมชาติ และหลงใหลในความสงบ คามิโคจิ (Kamikochi) คือคำตอบที่ใช่ ที่นี่ตั้งอยู่ในหุบเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือ (Northern Japanese Alps) จังหวัดนากาโน่ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ของอุทยานแห่งชาติชูบุซังกะคุ แม้จะเป็นหน้าร้อน แต่อุณหภูมิที่นี่จะเย็นสบายตลอดวัน (ประมาณ 15-25°C) เหมาะกับการเดินป่าเบาๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ ชมวิวภูเขา แม่น้ำ และป่าไม้ที่งดงาม ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมสำหรับคนญี่ปุ่นที่ต้องการหลีกหนีความร้อนมาพักผ่อนในช่วงฤดูร้อน

• พิกัด : 〒390-1516 Azumi Kamikochi, Matsumoto City, Nagano Prefecture
• ช่วงเวลาเปิดทำการ : กลางเดือนเมษายน - กลางเดือนพฤศจิกายน (ปิดช่วงหน้าหนาว) แนะนำให้ตรวจสอบวันเปิดปิดจากเว็บไซต์ทางการ เปิดให้เดินได้ตั้งแต่เวลา 05:00-19:00 น.
• การเดินทาง : นั่งรถบัสตรงจากโตเกียว → คามิโคจิ จากสถานีรถบัสชินจูกุ (Shinjuku Bus Terminal) ไปยังสถานีรถบัสคามิโคจิ (Kamikochi Bus Terminal)
• จุดถ่ายรูปห้ามพลาด : สะพานคัปปะ (Kappa-bashi) ที่มองเห็นวิวภูเขาโฮตากะและแม่น้ำอาซุสะได้แบบเต็มตา และทะเลสาบไทโช (Taisho Pond) ที่มีหมอกลอยอ้อยอิ่งในยามเช้า

5. หมู่บ้านชิราคาวาโก จังหวัดกิฟุ
สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิม ในหมู่บ้านมรดกโลก

     ปิดท้ายทริปหน้าร้อนด้วย หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) หมู่บ้านมรดกโลกที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่น่ารักที่สุดในญี่ปุ่น! ชมบ้านเก่าแก่สไตล์ กัสโชสึคุริ (Gassho-zukuri) ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยหลังคาทรงพนมมือ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อรองรับหิมะที่ตกหนักในฤดูหนาว แม้ในหน้าร้อน ที่นี่ก็ยังคงความสวยงาม และมนต์เสน่ห์ไม่แพ้กัน ปัจจุบันยังมีชาวบ้านอาศัยอยู่จริง และมีบ้านหลายหลังที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม เช่น Wada House ที่ยังคงสภาพดั้งเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์

• พิกัด : 〒501-5627 Ogimachi, Shirakawa Village, Ono District, Gifu Prefecture
• เวลาเปิดทำการ : สามารถเดินเที่ยวในบริเวณหมู่บ้านได้ตลอดทั้งวันและตลอดทั้งปี ยกเว้นร้านค้า บ้านโบราณที่เปิดให้เข้าชม และพิพิธภัณฑ์ที่มีเวลาเปิดปิดต่างกันออกไป
• การเดินทาง : ไม่มีรถไฟมาถึงตัวหมู่บ้านโดยตรง สามารถเดินทางมาได้ด้วยรถบัสจากสถานีโทยามะ(ประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที)

====================

ขอบคุณข้อมูลดีๆ และภาพจาก www.japankuru.com