เชื่อว่าแม่น้ำคงคาเป็นแม่น้ำที่ใครหลาย ๆคน อยากเดินทางไปเยี่ยมเยือนสักครั้งในชีวิต เพราะเราต่างเคยได้ยินเรื่องราวของแม่น้ำสายนี้กันมาแต่เล็กแต่น้อยในฐานะของการเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์หรือแม่น้ำแห่งศรัทธาที่หล่อเลี้ยงหลายชีวิต โดยเฉพาะชาวอินเดียที่ทุกสิ่งทุกอย่าง และทุกการย่างก้าวของชีวิตล้วนอิงอาศัยและเชื่อมโยงกับแม่น้ำคงคาแทบทั้งสิ้น ซึ่งในครั้งนี้ผู้เขียนจึงขอพาไปชมแม่น้ำคงคา เพื่อให้เห็นถึงความเป็นจริงของแม่น้ำแห่งชีวิตแห่งนี้ว่าจะมีความงดงามและเต็มไปด้วยประกายความศรัทธาของประชาชนมากน้อยเพียงใด ซึ่งการไปชมแม่น้ำคงคาในครั้งนี้ ผู้เขียนขอพาไปที่เมืองพาราณสี รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย เริ่มต้นการเดินทางจากบริเวณใจกลางเมืองพาราณสีและเดินเท้าไปเรื่อย ๆ เพื่อมุ่งหน้าไปยังแม่น้ำคงคาตั้งแต่ช่วงเช้ามืด เพื่อจะได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนที่เมืองพาราณสีตั้งแต่แรกเริ่มของวัน รวมถึงต้องการลดทอนการเบียดเสียดของผู้คนที่คาดว่าในช่วงสายหรือช่วงกลางวันจะมีผู้คนเป็นจำนวนมากที่มาทำกิจกรรมรอบบริเวณแม่น้ำคงคาแห่งนี้ แน่นอนว่าในช่วงเช้ามืดแบบนี้บรรยากาศในเมืองพาราณสีย่อมปกคลุมไปด้วยหมอก และคุณภาพอากาศซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าสภาพอากาศในประเทศอินเดียนั้นไม่ค่อยสู้ดีนัก จึงยังไม่ค่อยเห็นทัศนียภาพหรือบริเวณโดยรอบของแม่น้ำคงคาในขณะนี้ได้อย่างชัดเจน เมื่อไปถึง ณ บริเวณท่าน้ำทศอัสวเมธ ซึ่งส่วนใหญ่นิยมล่องเรือไปยังบริเวณกลางแม่น้ำคงคาเพื่อลอยประทีปหรือกระทงดอกไม้ที่จุดเทียนลงในกระทงและนำไปลอยกลางแม่น้ำ ถือเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่นักท่องเที่ยวตลอดจนผู้จาริกแสวงบุญทั้งหลายนิยมเดินทางมาทำกันที่แม่น้ำคงคาแห่งนี้ เพื่อการถวายเป็นพุทธบูชา รวมถึงยังเป็นสัญลักษณ์ของการขอขมาและบูชาแม่น้ำคงคาอีกด้วย ภายหลังจากการลอยประทีปแล้ว ท้องฟ้าเริ่มสว่างไสว ก็จะเริ่มเห็นกิจกรรมต่าง ๆ โดยรอบแม่น้ำคงคาชัดเจนขึ้น เช่น การเผาศพยังริมแม่น้ำคงคา โดยชาวอินเดียเล่าว่า ที่เมื่อบ้านไหนมีคนตายจะไม่มีการจัดพิธีใด ๆ ส่วนใหญ่จะนำมาเผายังบริเวณแม่น้ำคงคานี้ทันทีหลังจากนั้นจึงมีการเขี่ยเถ้าธุลีลงไปยังแม่น้ำคงคา ซึ่งถือเป็นพิธีศพที่กลมกลืนกับธรรมชาติ และเข้าใจการละวางต่อวาระความตายว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะเหนือกว่าการตายคือ “การก้าวสู่ชีวิตใหม่” ซึ่งเป็นไปตามพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าที่คนฮินดูนับถือกราบไหว้ ซึ่งก็เหมือนคล้ายกับหลักธรรมของพระพุทธศาสนาในการระลึกถึงความตายหรือ “มรณานุสติ” ว่าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกหนีได้พ้น ถัดไปอีกด้านก็จะเห็นผู้คนมากมายลงไปอาบน้ำในแม่น้ำคงคา หรือแม้แต่การตักน้ำมาดื่ม ซึ่งถือเป็นการชำระล้างร่างกายให้บริสุทธิ์และเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตและจิตวิญญาณที่สูงขึ้น โดยถือเป็นความเชื่อของผู้คนมาช้านาน นอกจากนี้บริเวณดังกล่าวยังมีการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น การนั่งสวดมนต์ การนั่งสมาธิที่ริมแม่น้ำคงคา จึงกล่าวได้ว่า แม่น้ำคงคาแห่งนี้เป็นแม่น้ำแห่งชีวิตและความศรัทธาอย่างแท้จริง ท่ามกลางบริเวณโดยรอบที่ยังคงเต็มไปด้วยงานสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ ที่อยู่ริมแม่น้ำคงคา ซึ่งล้วนมีความเก่าแก่และสวยงามเป็นอย่างมาก ใครที่สนใจจะมาเที่ยวชมบริเวณริมแม่น้ำคงคา ณ เมืองพาราณสีแห่งนี้ก็สามารถมากันได้ โดยแนะนำว่าควรมาในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคมซึ่งจะมีอากาศที่เย็นสบายไม่หนาวมากนัก และควรเตรียมหน้ากากอนามัยมาให้พร้อมเพราะว่าสภาพอากาศของอินเดียส่วนใหญ่จะมีฝุ่นละอองและหมอกค่อนข้างมาก นอกจากนี้ที่เมืองพาราณสียังมีไกด์นำเที่ยวที่เป็นชาวท้องถิ่นมากมายพร้อมให้บริการ ซึ่งต้องบอกว่าคนอินเดียส่วนใหญ่มีอัธยาศัยไมตรีที่ดีมาก ซึ่งทำให้การเดินทางเต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาที่น่าจดจำยิ่ง ภาพถ่ายโดยผู้เขียน