ไต้หวัน ไปทำไม มีอะไรดี ประเทศเล็กๆ ที่ไม่เคยอยู่ในลิสต์ท่องเที่ยวของเรากับเพื่อนเลย แต่ฮอตจริงๆ เมื่อปี 2558 รายการทีวีพาไปเที่ยวไต้หวัน มีกระทู้มากมายในพันทิป คนรีวิวส่วนใหญ่มักทิ้งท้ายด้วยวลีเด็ดคล้ายๆ กัน ทำนองว่า “อยากกลับไปอีก” อ่านรีวิวไปมา มาสะดุดตรงรูปอาหารละลานตา บรรยากาศสวยๆ ฤกษ์งามยามดี เพื่อนเดินทางพร้อม เงินพร้อม เริ่มการจองตั๋ว จองโรงแรม ทำวีซ่า (ต้นปี 2559 ยังไม่มีฟรีวีซ่าสำหรับคนไทย ซึ่งทางรัฐบาลไต้หวันได้ประกาศยกเว้นการตรวจลงตราวีซ่าให้คนไทย 1 สิงหาคม 2559 และมีการขยายฟรีวีซ่าเป็นระยะๆ) และวางแผนการเดินทาง เนื่องจากเราอยู่ต่างจังหวัดเลยทำวีซ่าผ่านทางบริษัทเอเจนซี่บริษัทหนึ่ง สะดวกดี ยื่นก่อนเดินทาง 2 สัปดาห์ แต่ๆ ติดตรุษจีน คืออะไร???? คนไทยหยุด 1 วัน สถานทูตไต้หวันหยุด 1 สัปดาห์ ลางร้ายเริ่มปรากฏ ลุ้นวีซ่า 1 วันก่อนออกเดินทาง บริษัทจะส่งมาให้เราทันไหม แต่ๆ ลางร้ายจริงๆ กำลังจะมา มีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น ทำให้ทริปที่วางแผนไว้อย่างดีล่มสลาย Bye bye Taiwan แบบอาลัยอาวรณ์ แต่อุปสรรค์แค่นี้ไม่สามารถทำอะไรนักท่องเที่ยวอย่างเราและเพื่อนได้ ถัดมาอีกไม่กี่วันการจองตั๋วครั้งใหม่ก็เกิดขึ้น แพลนยังเกือบคงเดิมเพิ่มเติม คือ จำนวนวันและสถานที่ท่องเที่ยว “Finally, I meet you. Taiwan” แพคกระเป๋าเรียบร้อย เรานัดเจอเพื่อนที่สนามบินดอนเมือง เพื่อรอขึ้นเครื่องพี่เสือ (Tiger Airways) เวลา 2 ทุ่ม แลนดิ้งไต้หวันประมาณเที่ยงคืน หลังจากนั้นเราก็หาที่นอนกันในสนามบินกัน พลาดแหละเสื้อหนาวที่เอามาอุ่นไม่พอ แอร์สนามบินที่นี่เย็นมาก (แอร์ภายในอาคารที่ไต้หวันจะมีความเย็นพอๆกับอากาศข้างนอกหรือเย็นกว่าคนส่วนใหญ่จึงไม่จำเป็นต้องถอดเสื้อหนาวเมื่อเข้าในตัวอาคาร) โดยปลายเดือนกุมภาพันธ์ ต้นเดือนมีนาคม อากาศที่นี่ยังหนาว ประมาณเลขตัวเดียวถึงสิบกว่าองศา ก็ทนๆ กันไปจนถึงเช้า มื้อแรกในไต้หวันเริ่มต้นด้วยมาม่าและโอเด้งในแฟมิลี่มาร์ท และมื้อเช้าวันต่อมาก็อาหารใน 7-11 เป็นส่วนใหญ่ และแล้วในที่สุดเรากับเพื่อนก็มาถึงไต้หวัน.. แค่เริ่มต้นทริปก็วุ่นวายเหลือเกินแล้ว ฮ่าๆ หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จ เรากับเพื่อนเริ่มหาตั๋วรถบัสของกงกวน เข้าเมืองไทเปกัน ลงที่สถานีไทเปเมนสเตชั่น จากนั้นต่อด้วย MRT ไปยังที่พักแถว Ximending โชคดีตั้งแต่วันแรกเลยค่ะ ฝนตก ก็เปียกปอนกันไป ระหว่างเดินทางไปหาโรงแรมที่เราได้จองไว้แล้ว หลังจากเราเข้าพักที่โรงแรม E-House 155 hotel ที่พักสวยงาม สะอาด มีข้อเสียนิดหน่อยตรงห้องน้ำ จะเป็นกระจกขุ่นๆ มองเห็นรูปร่างลางๆ เหมาะกับฮันนีมูนหรือมากับแฟน ไม่ค่อยเหมาะสำหรับมากับเพื่อน เนื่องจากเรามาถึงก่อนเวลาเช็คอิน โรงแรมส่วนใหญ่จะให้เริ่มเช็คอินประมาณบ่าย 2 ดังนั้นเราเลยฝากกระเป๋าไว้ก่อน วันแรกไปกินติ่มซำ Din Tai Fong ที่ห้างโซโก้เขียว มาถึงต้นตำรับเราต้องลองชิม เมนูที่ต้องสั่งเลยคือเสี่ยวหลงเปาไส้ต่างๆ อร่อยสมคำล่ำลือ มีการโชว์ทำเสี่ยวหลงเปาหน้าร้าน ดูเพลินๆ ดี ถือว่าเป็นจุดหนึ่งที่เรียกลูกค้าให้เข้ามาทานอาหารค่ะ หลังจากนั้นก็เดินเล่นย่าน Ximending ซึ่งเป็นตลาดกลางคืนที่ค่อนข้างใหญ่ มีของกินเยอะมาก ที่นิยมก็จะเป็นบะหมี่อาจง อีกวันเราไปเดินเล่น อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค (CKS Memorial Hall) เป็นหนึ่งสัญลักษณ์ของประเทศไต้หวัน เดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT สายสีแดงลงที่สถานี Chiang Kai Shek Memorial Hall ทางออก 5 ค่าเข้าชมฟรี ข้างในกว้างมาก มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะแยะ พร้อมกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ โดยภายในอาคารสีขาวหลังหนึ่งจะมีรูปปั้นของเจียงไคเชก เพื่อรำลึกถึงท่าน มื้อเย็นเราไปเดินเล่นตลาดชิลิน (Shilin night market) ของกินเยอะมากพอๆ กับตลาดที่ Ximending จบทริปไต้หวันแบบงดงาม ทริปนี้แม้จะไม่ได้เป็นไปตามแผนตั้งแต่แรก แต่สุดท้ายเราก็มาถึงไต้หวัน ได้สัมผัสบรรยากาศหนาวๆ ชื่นชมกับวัฒนธรรมและอาหารที่หลากหลาย พอย้อนกลับมาคิด เฮ้ยมันจริงตามที่รีวิวบอกเลยนะ “อยากกลับไปอีก” ถ้าวันหยุดใครยังคิดทริปท่องเที่ยวไม่ได้ แนะนำไปไต้หวันนะคะ ใช้เวลาบินแค่ไม่กี่ชั่วโมง อาหารอร่อย สถานที่เที่ยวเยอะ แล้วจะหลงรักไต้หวันแบบเจ้าของบทความ สุดท้ายได้แต่หวังว่า หากสถานการณ์ดีขึ้น เราจะกลับไปเที่ยวไต้หวันอีกครั้ง เครดิตรูปภาพ : ภาพโดยนักเขียน / ภาพที่ 1 จาก Ekrulila from Pexels / ภาพที่ 3 จาก www.flickr.com / ภาพที่ 4 จาก VisionPic .net from Pexels