"เชียงราย" พูดถึงจังหวัดนี้แล้ว คนมักจะนึกถึงอากาศที่เย็นสบาย จนบางครั้งอาจเย็นเกินไป และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งป่าเขาลำเนาไพร วันที่ผมไปเป็นช่วงหน้าหนาวเดือนธันวา ที่ภาคเหนือจะหนาวสุด ซึ่งก็หนาวสุดจริงๆ นี่คือ"หอนาฬิกาเชียงราย" ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กแห่งนึงของจังหวัดเชียงราย ความโดดเด่นของหอนาฬิกาแห่งนี้ก็คือ ในทุกชั่วโมงเมื่อเข็มยาวตีเลข12จะมีเพลงเชียงรายรำลึกดังขึ้น และนาฬิกาก็จะเปลี่ยนสีตัวเองตามจังหวะเพลงเหมือนในรูปที่มีหลายสี ผ่านคืนแรกไปแล้ว สำหรับที่พักในคืนแรกและคืนที่สองด้วยนั้น ผมจำชื่อที่พักไม่ได้ แต่จำได้ว่าอยู่แถวสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งบรรยากาศดีและวิวดีมาก งานดีสุดๆ ที่พักคือแบบเปิดประตูห้องออกมาเจอวิวเลย ไม่ต้องเดินไปไหนไกล แค่หน้าห้องก็ได้ซึ่งที่นี่จะทำให้เราเห็นวิวแบบพาโนราม่า กันเลยทีเดียว ถือว่าคุ้ม!! ซึ่งฝั่งตรงข้ามของที่พักอีกฝั่งของแม่น้ำจะเป็นประเทศพม่า ถ้าเราตั้งใจมองหรือมีกล้องส่องทางไกล เราก็จะเห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านฝั่งพม่าได้เลย สำหรับสถานที่แรกในวันนี้ที่เราจะไปนั่นก็คือ "วัดพระธาตุจอมกิตติ"วัดสวยบรรยากาศดี ที่ซ่อนตัวอยู่ในภูเขา เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความสงบ คนไม่เยอะ บรรยากาศดี แนะนำว่าให้ลองมาที่นี่ครับ และคุณอาจจะหลงรักที่นี่ก็ได้ สถานที่ต่อไป"พระตำหนักดอยตุง"สถานที่แห่งนี้คือที่ประทับของสมเด็จย่าเวลาท่านเสด็จประพาสเชียงใหม่ โดยรอบๆพระตำหนักแห่งนี้ จะเป็นสวนพฤกษชาติ ไว้ให้ผู้คนได้แวะมาเที่ยวชม และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ส่วนภายในพระตำหนัก ก็จะมีไกด์ไว้คอยนำและพาเราเดินชมห้องต่างๆภายในพระตำหนัก แต่เขาห้ามถ่ายรูปเด็ดขาดนะ ใครอยากรู้ว่าเป็นไง ลองไปเที่ยวและไปชมให้เห็นกับตาดูสักครั้ง รับรองว่าสวยมาก!! สำหรับสถานที่สุดท้ายในวันนี้ ก่อนที่เราจะขึ้นดอยกัน นั่นก็คือ"วัดห้วยปลากั้ง" ที่นี่นับเป็นวัดที่สวยมากอีกแห่งหนึ่งเลย โดยวัดนี้จะเป็นสถาปัตยกรรมแบบผสมไทยกับจีน นอกจากนี้ก็จะมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ไว้ให้คนมาเที่ยวได้สักการะกันด้วย หลังจากเที่ยวกันมาทั้งวันแล้ว ก็ได้เวลาพักผ่อน ที่พักของเราในคืนนี้ก็คือ"ยอดดอยแม่สลอง" ซึ่งวันที่เราไป พนักงานในที่พักแจ้งว่าอากาศ น่าจะ 0 องศาอีกคืนนึง เพราะคืนก่อนที่เราจะมาอากาศก็ 0 องศา คืนนี้ก็น่าเป็นงั้น ละก็เป็นจริงๆ เล่นซะหนาวฟันเหยินเลย สำหรับที่พักของเราในคืนนี้มีชื่อว่า"คุ้มนายพล" ซึ่งเป็นร้านอาหารและรีสอร์ทในตัว ซึ่งที่นี่ก็มีทั้งอาหารไทยจีน แต่ส่วนใหญ่จะจีน จะบอกว่าหมั่นโถวที่นี่ของดีที่ต้องลองเลยล่ะ เสียดายมัวแต่กินลืมถ่ายรูปมา เช้านี้ที่สดใสสสส!! ตื่นมาพร้อมอากาศเย็นๆ และวิวสวยๆแบบนี้ เป็นอะไรที่ดีจริงๆ แต่นั่งชิวได้สักแปปก็ต้องไปต่อละ ที่แรกของวันนี้ซึ่งเป็นวันกลับ นั่นก็คือ"ไร่ชาฉุยฟง"ซึ่งเป็นไร่ชาที้ตั้งอยู่ระหว่างทางบนดอยแม่สลอง ไร่ชานี้หลายคนอาจะเห็นผ่านๆตาจากละครหลายๆเรื่องในทีวี ซึ่งมักจะมาถ่ายทำที่นี่กันบ่อยๆ อยากรู้ว่าบ่อยแค่ไหน ใครที่ไปที่นี่ ก็ไปดูบอร์ดรูปภาพ ที่เขาจัดแสดงไว้ได้เลย ว่ามีละครเรื่องไหน ดาราคนไหนเคยมาบ้าง หนึ่งในนั้นอาจจะเป็นละครที่คุณชอบหรือดาราที่คุณชื่นชมก็ได้ สำหรับที่เที่ยวสุดท้ายก่อนกลับ ที่เป็นแลด์มาร์คสำคัญของเชียงรายเลยนั่นก็คือ... "วัดร่องขุ่น" มาเชียงรายทั้งที ถ้าไม่มาวัดนี้ ถือว่ามาไม่ถึง ก็อย่างที่รู้กันว่าวัดนี้สร้างโดย "อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์" ศิลปินแห่งชาติเป็นผู้สร้าง ภายในวัด ก็จะมีสถาปัตยกรรมมากมาย ซึ่งจะเกี่ยวกับสวรรค์ โดยแต่ละอย่างอลังการมาก นอกจากนั้น ก็จะมีจิตรกรรมฝาผนังภายในโบสถ์ และนิทรรศการแสดงโชว์รูปวาดผลงานของอาจารย์แต่เขาห้ามถ่ายรูปนะจ๊ะ พิมไปก็ไม่เห็นภาพ ไปดูภาพกันดีกว่า วันที่ผมไปเป็นวันธรรมดา นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาก็จะมีไม่เยอะมาก ส่วนใหญ่จะเป็นทัวร์ สำหรับใครที่จะมาเที่ยวแต่ไม่อยากเจอคนเยอะ แนะนำให้มาวันธรรมดา แต่ถ้าคุณไม่ซีเรียส จะมาเสาร์-อาทิตย์ก็ได้