ครั้งแรกกับสายการบิน Jet Airways สารภาพว่าไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศมาก่อน เต็มที่ก็ข้ามชายแดนแม่สาย ข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านเทือกๆนั้น ก่อนจะรวบรวมสติแล้วคิดว่า ไปไหนดีอยากไปต่างประเทศ ด้วยความที่เพื่อนต่างชาติที่มีเป็นคนอินเดียรู้จักกันมาร่วม 10 ปี ไม่เคยเจอหน้าค่าตากันเลย คุยกันตั้งแต่วัยเอ๊าะๆจนตอนนี้นางแต่งงานมีลูกมีศรีภรรยาไปเรียบร้อย คุยกันอัพเดทชีวิตกันและกันมาตลอด เรียกได้ว่าจากที่เราพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ไม่กล้าพูดจนตอนนี้เออ เอาสิ พูดๆไปถูกบ้างผิดบ้าง สื่อสารได้ก็โอเค เพื่อนคนนี้เรียกได้ว่าเป็นคนที่ทำให้เราพูดภาษาอังกฤษได้เลยค่ะ จากการหาข้อมูลเรามีแผนการเดินทางไปมุมไบ เพื่อนก็บอกว่าไม่ต้องเตรียมอะไรแค่บอกว่าอยากไปไหนจะพาไป เราเลยจัดแจงส่งรูปภาพสถานที่ต่างๆในมุมไบไปให้เป็นการแจ้งกลายๆว่า จะไปที่นี่นะวางแผนโน้นนี่ให้เราหน่อย เรื่องสถานที่เที่ยวจบไป เราก็มาจัดแจงจองโรงแรม จองตั๋วเครื่องบิน เอาละสิ โรงแรมไหนดีกลัวจองไม่ดีเจอโรงแรมแถมผีสางจะยุ่งเอา (มีเรื่องผีจากโรงแรมที่อัคราด้วยค่ะ เอาไว้จะมาเล่าให้ฟัง) แต่สิ่งสำคัญคือตั๋วเครื่องบินเราจะไปด้วยสายการบินอะไรดี คิดอยู่นาน ดูรีวิวแล้วรีวิวอีก จนมาลงเอยที่ Jet Airways สายการบินของอินเดีย ตอนจองตั๋วบอกเลย คลำๆเดาๆกับสกิลภาษาชั้นเทพของเรา (ภาษาเทพมากกว่าค่ะ แบบเข้าใจคนเดียว หึหึ) จองไปจองมาได้มาด้วยราคา 9 พันบาทกลางๆ พร้อมอาหารบนเครื่องบินทั้งไปทั้งกลับ แล้ววันเดินทางก็มาถึงค่ะ ตื่นเต้นพร้อมสติแตกไปถึงสนามบินก่อนเครื่องออกหลายชั่วโมงมากจ๊ะ ช่วงที่เราเดินทางตอนนั้นไฟล์เราออกประมาณ 6 โมงเช้า ต้องเช็คอินตี 3 ไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่ 5 ทุ่ม เพราะไม่อยากเสียค่าแท็กซี่นั่งไปเลยไปขึ้นรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์สะดวกค่ะ แต่เวลาอีกหลายชั่วโมงก็เนียนๆนอนๆไปตามที่นั่งในสนามบิน จนถึงเวลาเช็คอินตี 3 พนักงานที่เคาท์เตอร์เป็นคนไทยตอนขาไปยังสบายใจอยู่พูดคุยกันรู้เรื่อง แต่พอไปรอหน้าเกทแม่เจ้าเราไม่เห็นคนไทยร่วมทางในครั้งนี้เลยค่ะ ใจเริ่มตุ่มๆต่อมๆเอาแหละมาถึงตรงนี้แล้ว พอใกล้เวลาบรรดาแอร์ฯสาวสวยกับสจ๊วตรูปหล่อก็ทยอยเดินมาที่หน้าเกท แอร์โฮสเตทสวยจริงๆค่ะตาคมปากแดง ส่วนสจ๊วตก็สูง เท่ ดูดี รูปหล่อเลยค่ะ พอมองไปรอบๆไม่เห็นคนไทยจริงๆ เมื่อเค้าประกาศขึ้นเครื่องก็รีบเลยจ๊ะไปนั่งประจำที่เพราะเรานั่งริมหน้าต่างจะได้เข้าก่อนถ้าไปถึงช้าเดี๋ยวต้องรบกวนคนที่นั่งตรงกลางกับริมทางเดินลุกอีก พอนั่งประจำที่เครื่องทะยานขึ้นฟ้าได้สักพักอาหารก็มาค่ะ เราเลือกแบบไก่อบรสชาติพอได้ แล้วก็นั่งดูวิวไปเรื่อยๆค่ะ ในใจก็แบบมาทำอะไรที่นี่ ฮ่าๆ หลายคนอยากรู้ละสิเรื่องกลิ่นต่างๆ คือ ขอบอกว่าไม่ได้แย่ค่ะ กลิ่นแขกที่หลายคนกังวล เราว่าขึ้นอยู่แต่ละบุคคล อย่างคนที่นั่งข้างเราเป็นคุณลุงมีอายุก็จะมีแบบตุตุนิดนึงไม่แรงมาก ส่วนกลิ่นจากคนอื่นไม่มาถึงเราค่ะ ระหว่างทางลุงก็ชวนคุยเราก็ฟังออกบ้างไม่ออกบ้างยิ้มไว้เว้ย ยิ้มสยาม แฮ่ๆ จนใกล้จะถึงนักบินประกาศถ้าตามปกติเวลาบินในประเทศก็ประมาณว่าตอนนี้อยู่ที่ความสูงเท่านั้นเท่านี้อีกกี่นาทีจะถึงปลายทางแต่บอกเลยเราฟังออกแค่ Ladies & Gentlemen แล้วพี่นักบินก็กระดกลิ้นแล้วพูดรัวๆจนเราแบบ ตอนนี้ข้าอยู่ที่ใดบนโลกใบนี้กันเนี่ย แล้วในที่สุดก็ถึงสนามบินมุมไบ ลงจอดอย่างสวยงาม เครื่องบินบินใกล้บ้านคนมากแบบกลัวจะดูดหลังคาบ้านติดมาเชียวแต่สุดท้ายพี่ Jet Airway ก็พาเรามาถึงโดยสวัสดิภาพ ลืมบอกไปค่ะ ระหว่างทางที่มาเรานั่งมองแอร์โฮสเตทกับสจ๊วตเพลินเลยค่ะ พอมาถึงตม. อ้าวตายละหว่าไม่ได้ใบที่จะต้องกรอกเพื่อไปยื่น เราไม่เห็นจริงๆว่าเขาเอามาแจกตอนไหน อาจจะเพราะบนเครื่องมีแต่คนอินเดียซึ่งไม่ต้องกรอกใบนี้ พอลงมาแล้วเราเจอคนไทยที่ลงจากเครื่องเดียวกับเราค่ะ เป็นผู้หญิง 2 คน แต่เขาต้องรีบไปต่อเครื่องเพื่อไปเมืองอื่นอันนี้ไม่รู้จริงๆค่ะ ทักกันแค่ตรงระหว่างทางแค่ได้รู้ว่า อ่อ คนไทยค่ะ หลังจากนั้นเราก็ไปที่เคาท์เตอร์ของตม. ทำตามขั้นตอนไป สรุปนะคะ การเดินทางด้วยสายการบิน Jet Airways ไม่ได้แย่ค่ะ ที่นั่งอาจจะแคบไปนิด แต่ก็พอๆกับสายการบินหางแดงบ้านเราสำหรับที่นั่งธรรมดา บริการดีเยี่ยมเลยค่ะ หลังจากเสิร์ฟอาหารคือสามารถขอน้ำขอเครื่องดื่มได้ไม่หยุดเสิร์ฟ สังเกตุจากผู้โดยสารท่านอื่นๆ กดปุ่มเรียกพนักงานขอน้ำ ขอโน่นนั่นนี่กันสนุกเลยค่ะ สำหรับเราถือเป็นประสบการณ์ที่ดีทีเดียวค่ะ ตอนนี้สายการบิน Jet Airways หยุดให้บริการไปแล้ว แต่ยังมีสายการบินอินเดียอื่นๆให้บริการแต่ยังไงเช็คเที่ยวบินกันดีๆนะคะ เราโชคดีที่ไม่มีปัญหาอะไร มารีวิวเฉพาะขาไปก่อนนะคะขากลับจะมาเล่าให้ฟังอีกที ^_^ ปล.เราเดินทางทริป Jet Airways นี้ช่วงต้นเดือนมีนาคม 2562 ค่ะ ยังเปิดให้บริการ เครดิตรูปภาพ : โดยผู้เขียน