หากพูดถึงจังหวัดสุโขทัย หลาย ๆ คนมักนึกถึงราชธานีเก่าแก่ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ชาติไทยของเรามาช้านาน เนื่องจากจังหวัดนี้เคยเป็นเมืองหลวงในสมัยสุโขทัยยุครุ่งเรือง วันนี้เราเลยจะพาทุกคนมาปั่นจักรยานเที่ยวชมรอบ ๆ “อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย” กัน ซึ่งอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยนั้นนอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแล้วยังได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นแหล่งมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ภายใต้ชื่อ “เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร” ว่าแต่ภายในอุทยานฯ จะสวยงามแค่ไหน เราไปปั่นจักรยานเที่ยวชมและแชะภาพกันดีกว่าค่ะ ^^ หลังจากเช่าจักรยานบริเวณประตูทางเข้าอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยแล้ว ก็เริ่มจากปั่นจักรยานไปไหว้ “พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช” เพื่อความเป็นสิริมงคลกันก่อนเลย ซึ่งพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ตั้งอยู่ริมถนนจรดวิถีถ่องทางทิศเหนือของวัดมหาธาตุ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2518 สำหรับใช้ประดิษฐานพระบรมรูปของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช โดยพระบรมรูปนั้นหล่อด้วยโลหะทองเหลืองผสมทองแดงรมดำสูง 3 เมตร ประทับนั่งห้อยพระบาทบนพระแท่นมนังคศิลาบาตร พระหัตถ์ขวาถือคัมภีร์ ส่วนพระหัตถ์ซ้ายอยู่ในท่าทรงสั่งสอนประชาชนและมีพานวางพระขรรค์ไว้ข้าง ๆ บนพระแท่นด้านซ้าย พระพักตร์ของพระบรมรูปถ่ายทอดความรู้สึกถึงน้ำพระทัยที่เมตตากรุณา ยุติธรรม และเฉียบขาดในการปกครองแบบพ่อปกครองลูกของพระองค์ค่ะ นอกจากพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราชจะมีพระบรมรูปของพระองค์ท่านแล้วยังมี “กระดิ่งพ่อขุน” ตั้งอยู่ด้านหน้า กับ “ภาพแผ่นจารึก” ตั้งอยู่ด้านหลังทั้งด้านซ้าย-ขวาเยื้อง ๆ กันอีกด้วย ซึ่งกระดิ่งพ่อขุนดังกล่าวนี้จำลองแบบตามกระดิ่งที่ขุดได้จากฐานพระเจดีย์กลางเมืองสุโขทัย ส่วนภาพแผ่นจารึกเป็นภาพเหตุการณ์เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ในสมัยนั้นตามที่อ้างถึงในจารึกสุโขทัยค่ะ กราบไหว้พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราชกันแล้วก็ปั่นมาชม “วัดชนะสงคราม” กันต่อ ซึ่งวัดชนะสงครามตั้งอยู่ทางทิศเหนือของวัดมหาธาตุและใกล้กับโบราณสถาน “หลักเมือง” ภายในวัดมีเจดีย์ทรงระฆังขนาดใหญ่เป็นเจดีย์ประธานขนาบข้างด้วยเจดีย์ทรงวิมานทั้งสององค์ โดยเจดีย์ทรงวิมานเป็นเจดีย์รายที่มีหลังคาซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไปเป็นชั้น ๆ ตามด้วยโบสถ์ วิหาร และเจดีย์รายต่าง ๆ นอกจากนั้นยังมีสระบัวรายล้อมวัดอีกด้วยค่ะ ปั่นจักรยานมาอีกนิดก็ถึง “วัดมหาธาตุ” ซึ่งวัดมหาธาตุตั้งอยู่กลางเมืองสุโขทัย มีกำแพงและคูน้ำล้อมรอบ ถือเป็นวัดใหญ่ที่สำคัญมากที่สุด เปรียบได้กับวัดหลวงประจำเมืองสุโขทัยเลยทีเดียว สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัยตอนต้นค่ะ ภายในวัดมหาธาตุมีโบราณสถานมากมาย ประกอบด้วย “เจดีย์ประธาน” ที่เป็นเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์หรือทรงดอกบัวตูม สันนิษฐานว่าเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า, “พระอัฎฐารศ” พระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ประดิษฐานภายในมณฑปขนาบอยู่ทั้งสองข้าง, “วิหาร” ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ และ “วิหารพระศรีศากยมุนี” หรือ “วิหารหลวง” ก่อด้วยศิลาแลง ภายในเป็นที่ประดิษฐานของพระศรีศากยมุนี พระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยที่ถือเป็นพระพุทธรูปสำริดใหญ่สุดในไทย แต่ปัจจุบันย้ายไปประดิษฐานที่วัดสุทัศน์เทพวรารามในกรุงเทพฯ แทน นอกจากนั้นยังมีอุโบสถหรือโบสถ์ และเจดีย์รายจำนวนมากถึง 200 องค์ค่ะ ถัดจากวัดมหาธาตุก็คือ “วัดตระพังเงิน” ซึ่งบริเวณสระน้ำข้างวัดใช้เป็นขอบเขตของวัดแทนกำแพงเมือง เมื่อเดินเข้ามาภายในวัดก็จะพบกับโบราณสถานสำคัญ ๆ ได้แก่ “เจดีย์ประธาน” เป็นเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ (ทรงดอกบัวตูม) ตั้งอยู่ทางด้านหลังพระวิหาร มีลักษณะเด่นกว่าวัดแห่งอื่นตรงที่บริเวณเรือนธาตุมีพระพุทธรูปปูนปั้นประทับยืนประดิษฐานอยู่ทั้งสี่ทิศ, “พระวิหาร” ก่อด้วยอิฐและบริเวณเสาก่อด้วยศิลาแลง มีขนาด 7 ห้อง ภายในเป็นที่ประดิษฐานของพระประธาน พระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ส่วน “พระอุโบสถ” ตั้งอยู่ตรงข้ามกับพระวิหารบนเกาะขนาดเล็กที่ล้อมรอบด้วยน้ำของสระตระพัง อันเป็นที่ตั้งบริสุทธิ์ของเขตสังฆาวาสค่ะ ชมวัดตระพังเงินเสร็จแล้วก็ขี่จักรยานเพื่อแวะเข้าไปชม “วัดศรีสวาย” ซึ่งวัดศรีสวายตั้งอยู่ทางทิศใต้ของวัดมหาธาตุและอยู่ใกล้กับกำแพงเมืองสุโขทัยทางทิศใต้ มีโบราณสถานสำคัญอย่าง “ปรางค์ 3 องค์” รูปแบบศิลปะลพบุรีที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะขอม เพียงแต่ปรางค์มีลักษณะค่อนข้างเพรียวตั้งอยู่บนฐานเตี้ย ๆ ลวดลายปูนปั้นบางส่วนเหมือนลายบนเครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์หยวน , “ทับหลังสลัก” เป็นรูปพระนารายณ์บรรทมสินธุ์, ชิ้นส่วนของเทวรูป และศิวลึงค์ ส่วนทางด้านหลังขององค์ปรางค์มีวิหาร 2 หลังเชื่อมต่อกัน โดยโบราณสถานทั้งหมดล้อมรอบด้วยกำแพงที่ก่อด้วยศิลาแลงค่ะ หลังจากปั่นจักรยานเที่ยวชมโบราณสถานตามสถานที่ต่าง ๆ และบรรยากาศภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยไปเรื่อย ๆ จนเหนื่อยแล้ว บอกเลยว่าชิลล์สุด ๆ เลยล่ะ เพราะภายในอุทยานฯ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ มีสายลมพัดเย็น ๆ สบาย ๆ ที่สำคัญที่นี่ไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวเข้ามาภายในอุทยานฯ ทำให้ปั่นจักรยานได้อย่างเพลิดเพลิน แถมเป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วย จริง ๆ แล้วนอกจากที่นี่จะมีโบราณสถานที่เราได้ปั่นจักรยานเที่ยวชมกันแล้วยังมีสถานที่อื่น ๆ ให้ได้ชมกันค่ะ สำหรับใครที่ชื่นชอบการเที่ยวชมโบราณสถานแบบเราล่ะก็...ลองแวะมาปั่นจักรยานเที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยในจังหวัดสุโขทัยกันได้นะคะ เพราะนอกจากจะได้เรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ชาติไทยผ่านโบราณสถานสำคัญ แล้วยังเพลิดเพลินกับบรรยากาศสวย ๆ ร่มรื่น ๆ ภายในอุทยานฯ อีกด้วยค่ะ ^^ ปักหมุดได้ที่: อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย 498/12 หมู่ที่ 3 ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย 64120GPS: https://goo.gl/maps/TUuCrvUzSMcBiPPU7โทร: 055-697-527เว็บไซต์: https://www.finearts.go.th/sukhothaihistoricalpark/Facebook Fanpage: อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเสียค่าเข้าชม: คนไทย ราคา 20 บาท / ชาวต่างชาติ ราคา 100 บาท / นักเรียน-นักศึกษาในเครื่องแบบหรือแสดงบัตร, นักบวชทุกศาสนา, หน่วยงานราชการและสถานศึกษาที่ส่งหนังสือขอเข้าชมล่วงหน้า, ผู้สูงอายุ สัญชาติไทย อายุ 60 ปี เข้าชมฟรี / ค่ายานพาหนะ >> รถจักรยาน ราคา 10 บาท, รถจักรยานยนต์ ราคา 20 บาท, รถสามล้อ ราคา 30 บาท, รถสี่ล้อ ราคา 50 บาทเปิด: ทุกวันจันทร์-ศุกร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 06.30 - 19.30 น. / ทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 06.30 - 21.00 น. (มีการเปิดไฟส่องโบราณสถาน)ออกแบบหน้าปกใน Canva และ Photoshop โดย: Windy_55 (ผู้เขียน)เครดิตภาพประกอบบทความทั้งหมดโดย: Windy_55 (ผู้เขียน)ห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป