สถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ที่ผมอยู่อาศัยมาตั้งแต่เล็กๆจนโต จนจำความได้ สมัยผมเด็กๆจะมีเพื่อนๆใกล้บ้านชวนกันไปเล่นกันข้างบ้านตามภาษาเด็กๆ ขี้ซน เล่นเพื่อความสนุกและมีความสุขที่ได้ใช้เวลากับการเล่นกับเพื่อนๆ ผมรู้สึกมีความสุขมากๆในช่วงเวลานั้น จนผมเติบโตเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เพื่อนๆก็ต่างแยกย้ายกันไปเรียนที่โรงเรียนคนละแห่ง ไม่ได้เจอกันนานๆครั้งถึงจะได้เห็นหน้ากันและนึกถึงช่วงวันเวลาเหล่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นความสัมพันธ์ของเราที่เคยมีความสุขกันก็ค่อยๆเลือนหายไปตามเวลาไม่ค่อยสนิทกันมากเหมือนเมื่อก่อน ไม่ค่อยจะได้คุยกัน เหลือไว้เพียงความทรงจำวันเวลาเก่าๆที่เราต่างเล่นกัน สนุกสนานด้วยกัน เป็นความทรงจำที่ดีสำหรับผมมากมาย แต่เมื่อเราทุกคนต่างโตขึ้น เราต่างมีเป้าหมายเป็นของตัวเองและมีสิ่งที่ตัวเองสนใจในเรื่องต่างๆที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละความชอบของคนเรา ตัวผมเองหันมาสนใจด้านการถ่ายรูป ซึ่งผมชอบและสนใจในการใช้กล้องฟิล์มมากๆเพราะให้อารมณ์และความเป็นต้นฉบับของภาพถ่าย อีกเหตุผลก็คือเราจะรู้สึกได้ถึงเหตุการณ์ต่างๆในภาพทุกภาพที่มีเรื่องราวที่เราบันทึกไว้บนแผ่นฟิล์ม ณ เวลานั้นและทำให้เราจดจ่อที่จะบันทึกเรื่องราวลงเป็นภาพถ่ายเก็บไว้ ทุกๆตอนเย็นผมจะออกจากบ้านมาเดินบริเวณริมชายหาดปากเมงแห่งนี้ เสมอ เป็นชายหาดที่ผมรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้ลุกจากการเรียนที่เหนื่อย ได้ออกมาฟังเสียงลม เสียงทะเล และได้ปลดปล่อยเรื่องที่เหนื่อยล้า โดยการมาฟังเสียงคลื่นที่ซัดเบาๆและชมพระอาทิตย์ตกดินในตอนเย็นๆ ซึ่งการได้ชมสีของท้องฟ้าในแต่ละวันสำหรับผม ต่อให้จะเป็นจุดๆเดียวกันและมองไปทางเดียวกันทุกครั้งและบันทึกภาพด้วยกล้องมือถือ มุมๆเดิม เวลาเดิมๆ จุดๆเดิม สีของท้องฟ้าก็ไม่เคยเหมือนกันสักวัน ทำให้ผมรู้สึกมีความสนใจและบันทึกภาพถ่ายท้องฟ้าที่แตกต่างกันในทุกๆวัน และได้บทเรียนที่สำคัญและเป็นแรงบันดาลใจให้ผม คือ ท้องฟ้าต่อให้จะมองในจุดๆเดิมหรือมุมๆเดิม สีของท้องฟ้าก็ไม่เคยเหมือนเดิมในทุกๆวัน จะเปลี่ยนไปทุกๆวันในแบบของธรรมชาติด้วยตัวมันเอง เปรียบกับปัญหาต่อให้เราจะเจอปัญหามากมายหลากหลายในแต่ละวัน เหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง แต่เชื่อเหอะว่ามันจะผ่านไปและท้องฟ้าที่เรามองในวันนั้นก็จะกลับมาสดใสเช่นเดิมครับ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !