สวัสดีจร้า... วันนี้มารีวิวการเที่ยวคนเดียว ต่อจากบทความนี้นะคะ รีวิวเที่ยวมิวนิค ประเทศเยอรมนี 3 วัน 2 คืนหลังจาก Check Out ออกจากโรงแรมในเมือง Munich เราก็หอบหิ้วสัมภาระเดินไปสถานีรถไฟกลางมิวนิค เพื่อไปรอแฟนที่เมือง Nuremberg การเดินทางครั้งนี้เราจะเดินทางด้วยรถไฟเมื่อเดินไปถึงสถานีรถไฟ เราก็เดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ DB เพื่อซื้อตั๋วรถไฟ เมื่อซื้อเรียบร้อยแล้ว เราก็แวะหาซื้อเบอร์เกอร์และน้ำดื่มติดตัวไว้ทานด้วยDay 1 : นั่งรถไฟจาก Munich ไป Nuremberg ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที พอถึงสถานีหลัก Nuremberg เราก็เปิด Google Maps หาโรงแรมที่แฟนจองไว้ให้ โชคดีที่โรงแรมอยู่ใกล้สถานีรถไฟ ลากกระเป๋าเดินแค่ไม่กี่นาทีก็ถึง โรงแรมที่เราพักมีชื่อว่า IntercityHotel วันที่เราเข้า Check in ห้องว่างพอดี พนักงานเลยให้เช็คอินก่อนเวลา เข้าห้องเก็บของเสร็จพอหายเหนื่อยก็ออกไปเที่ยวต่อเราจะนั่งรถไฟไปเดินเล่นแถวๆ Old Town จริงๆ สามารถเดินไปได้นะ แต่ในเมื่อซื้อตั๋วรายวันมาแล้ว ก็ใช้ให้คุ้มหน่อย สิ่งปลูกสร้างที่นี่สีสันสวยสดมองดูไม่มีเบื่อเลย เห็นอะไรสวยๆ ก็แวะถ่ายรูปหมด อารมณ์แบบว่าทุกที่คือรันเวย์ของเราNuremberg Castle เป็นหมู่อาคารป้อมปราการในสมัยกลาง ตั้งอยู่บนสันเขาหินทรายในเมืองนูเรมเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ปราสาทแห่งนี้ร่วมกับกำแพงเมืองถือเป็นป้อมปราการยุคกลางที่น่าเกรงขามที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป แสดงถึงอำนาจและความสำคัญของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และบทบาทที่โดดเด่นของเมืองอิมพีเรียลแห่งนูเรมเบิร์กNuremberg Castle บริเวณรอบๆ กว้างมาก เราไม่ได้เดินเข้าไปดูด้านในของตัวปราสาทนะคะ เก็บภาพแค่บริเวณรอบๆ นอกปราสาทพอ เดี๋ยวถ้ามีโอกาสไปที่นั่นอีก เดี๋ยวเก็บรูปภาพมาให้ชมอีกวิวภาพที่ถ่ายบนปราสาท บรรยากาศภายในดีมาก ตอนที่เราไปนักท่องเที่ยวไม่เยอะ บรรยากาศดี แดดอ่อนๆ เหมาะกับเสื้อผ้าที่เราเตรียมไปพอดีเดินเล่นบริเวณรอบๆ เสร็จ แวะเก็บภาพตลาดและสถานที่ต่างๆ ในย่าน Old Town โชคดีที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะสามารถเดินเก็บภาพได้อย่างสบายใจไม่ต้องรีบSchoene Brunnen น้ำพุสีทองเหลืองอร่ามงดงาม มีความสูงประมาณ 19 เมตร เป็นน้ำพุสมัยศตวรรษที่ 14 เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในย่าน Old Town ว่ากันว่าที่นี่สามารถขอพรได้ด้วยนะFrauenkirche เป็นโบสถ์ที่ตั้งอยู่ในนูเรมเบิร์ก สร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระเจ้าชาร์ลที่ 4 จักรพรรดิแห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ระหว่างปี 1352 ถึง 1362 โบสถ์แห่งนี้มีประติมากรรมมากมาย ซึ่งบางชิ้นได้รับการบูรณะอย่างหนัก งานศิลปะจำนวนมากจากยุคกลางถูกเก็บรักษาไว้ในโบสถ์St. Sebaldus เป็นโบสถ์ยุคกลางในเมืองนูเรมเบิร์ก โบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งควบคู่ไปกับโบสถ์ Frauenkirche และ St. Lorenz ที่นี่ยังเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดอีกด้วย เดินถ่ายรูปเหนื่อยท้องก็เริ่มหิว เราเลยหาร้านอาหารไทยใกล้ๆ แถวนั้น ร้านนี้มีชื่อว่า "ร้านอาหารไทย" เดินจากย่าน Old Town ไปทาง Nuremberg Castle เดินขึ้นไปอีกนิดก็ถึงร้านแล้ว มื้อนี้สั่งลาบไก่กับข้าวสวยมาทาน พนักงานในร้านก็จะเป็นคนไทยทั้งหมด พอทานข้าวเสร็จก็ขึ้นรถบัสกลับโรงแรม วันแรกของการเที่ยว Nuremberg ครั้งแรกก็จบลงแบบเหนื่อยๆ เพราะเดินทางข้ามเมืองและเดินเที่ยวเยอะไปหน่อย Day 2 : อาบน้ำแต่งตัว เช็คสภาพอากาศแล้ว สามารถแต่งตัวปกติเหมือนอยู่ไทยได้ วันนี้ก็ถึงคิวชุดแม่มดน้อยของเราแล้ว เมื่อวานว่าเดินไกลแล้ว แต่วันนี้เดินไกลกว่า เพราะตั๋วรถสาธารณะหมดเวลาแล้ว วันนี้เราก็จะทำการเดินทั้งวันไปเลยค่ะ แบบว่าเหนื่อยก็พักเพราะที่ๆ ไปก็เป็นบริเวณระแวกเดียวกันใน Old Town ที่เราไปเมื่อวาน ซึ่งห่างจากโรงแรมที่เราอยู่ประมาณ 2 กิโลกว่าSt. Lorenz โบสถ์ยุคกลางของอดีตเมืองจักรพรรดิอิสระอย่างนูเรมเบิร์กทางตอนใต้ของเยอรมนี อุทิศให้กับนักบุญลอว์เรนซ์ ซึ่งโบสถ์นี้ได้รับความเสียหายอย่างหนักในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับการบูรณะในเวลาต่อมา ที่นี่เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่โดดเด่นที่สุดของโบสถ์ Evangelical Lutheran ในรัฐบาวาเรียในระหว่างที่ตั้งกล้องถ่ายภาพ ก็มีหนุ่มพ่อลูกติดมาชวนไปดื่มกาแฟ ความพยายามของลูกชายนางคือ พูดภาษาอังกฤษไม่ได้แต่พยายามเป็นล่ามให้พ่อ ดื่มกาแฟเสร็จก็แยกย้ายกัน ไอ้เราก็ขอบคุณไปยกใหญ่ อุตส่าห์มีน้ำใจเลี้ยงกาแฟสะพานเก่า Hangman's Bridge ข้ามแม่น้ำ Pegnitz เป็นอีกหนึ่งสถานที่ๆ นักท่องเที่ยวให้ความสนใจแวะชมและถ่ายรูป จริงๆ สะพานนี้เรามาตั้งแต่วันแรกแล้วนะคะ แต่ว่าสถานที่ๆ มันตั้งอยู่บริเวณใกล้ๆ มันเลยทะลุหากันได้หมดวิวอีกฝั่งของแม่น้ำ Pegnitz แม่น้ำสายนี้เป็นแม่น้ำในฟรานโกเนียในรัฐบาวาเรียของประเทศเยอรมนีเดินถ่ายรูปรอบๆ Old Town เสร็จ ท้องก็เริ่มหิว เราเลยส่งข้อความไปบอกแฟนว่าหิวแล้ว ไม่รู้จะทานอะไรดี แฟนเลยแนะนำให้ไปทานอาหารเวียดนาม ร้านนี้มีชื่อว่า "Pho" เมนูที่สั่งก็จะเป็นเฝอไก่ ทานเสร็จก็เดินเล่นต่อสักพักก็เดินทางกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมDay 3 : วันสุดท้ายที่ต้องอยู่คนเดียว ถึงเวลาก็ Check out ก็ลงไปที่เคาน์เตอร์ กว่าแฟนจะมารับก็เกือบๆ บ่าย 3 วันนี้ฝนตกบรรยากาศไม่เหมาะกับการเดินเที่ยวในเมือง เราจึงฝากสัมภาระไว้ที่โรงแรม แล้วเดินไปนั่งเล่นที่สถานีรถไฟ รอสักพักแฟนก็เดินทางมาถึง ต่อไปนี้เราก็จะไม่ได้เที่ยวคนเดียวแล้ว... เมือง Nuremberg เป็นเมืองที่มีสีสันสวยสดงดงาม ถ้านักท่องเที่ยวไม่เยอะ เราว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนกันเลยทีเดียว ที่นี่เป็นอีกหนึ่งเมืองที่เรามองว่า สามารถเดินทางไปเที่ยวคนเดียวได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยใครอยากรู้ว่า Nuremberg สวยแค่ไหน ต้องลองไปเที่ยวเองจร้า บทความต่อไปเราจะไปเที่ยวที่ไหนต่อ มารอชมกันนะคะ #Nuremberg #Germany #เที่ยวเยอรมนี #เที่ยวยุโรป #นูเรมเบิร์ก #เยอรมนี #เที่ยงยุโรปคนเดียว #รีวิวอีหยั๋งดี อ้างอิงประวัติสถานที่จากเว็บไซต์ : Wikipediaกราฟฟิกภาพ : Canva และ Foodieเครดิตรูปภาพและเรียบเรียงบทความ : รีวิวอีหยั๋งดี อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !