วันหยุดว่าง ๆ หากใครกำลังมองหาที่สงบจิต สงบใจ ในกรุงเทพมหานคร วันนี้ผมมีทริปเล็ก ๆ ดี ๆ มาฝาก "เที่ยววัดไหว้พระ 3 วัด ย่านคลองภาษีเจริญ" เสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต เรามาทำความรู้จัก "คลองภาษีเจริญ" กันสักหน่อย คลองแห่งนี้มีความยาว 28 กิโลเมตร เริ่มต้นจากปากคลองบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ไปจนถึงแม่น้ำท่าจีน จังหวัดสมุทรสาคร ไหลผ่านเขตภาษีเจริญ เขตบางแค และเขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร และอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร สร้างขึ้นในสมัย ร.4 แล้วทรงพระราชทานนามว่า "คลองภาษีเจริญ" แล้วเสร็จในสมัย ร.5 พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปเปิดคลองเมื่อปี พ.ศ. 2415สำหรับการเดินทางมาก็ง่ายมาก นั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงสถานีวุฒากาศ เดินออกจาก BTS มาตรงหน้าธนาคารไทยพานิชย์ จากนั้นจะเดินตรงไปถนนเทอดไท พอถึงแยกแล้วเดินเลี้ยวซ้ายไปครับ มองตรงไปจะเห็นวัดขุนจันทร์อยู่ขวามือครับ หรือจะนั่งรถสองแถว หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปก็ได้ครับ เดินเขาไปทางวัดขุนจันทร์จะมีสะพานเชื่อมไปทั้ง 3 วัดเลยครับ เพราะอยู่ใกล้กันครับ1. วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร📌... พิกัด : https://goo.gl/maps/bguZRLwjvCSTdjnCAเปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี เป็นวัดโบราณเก่าแก่ สร้างมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง ระหว่างปี พ.ศ. 2031 ถึง ปี พ.ศ. 2172 สถาปนาโดยพระราชวงศ์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ไม่ปรากฏพระนามแน่ชัด ชื่อของวัดจึงถูกเรียกขานตามตำบลที่ตั้งว่า "วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ" สถาปัตยกรรมและศิลปวัตถุที่อยู่คู่วัด ส่วนใหญ่เป็นฝีมือช่างหลวงสมัยพระนารายณ์มหาราช ที่งดงามยิ่งนักครับ จุดเช็คอินที่สำคัญจุดแรก ก็คือ การได้ไปสักการะขอพรพระประธาน ในพระอุโบสถ ซึ่งใช้เทคนิคการก่อสร้างในสมัยพระนารายณ์มหาราช ซึ่งงดงามมากครับจุดเช็คอินที่สำคัญจุดที่สอง ก็คือ การได้ไปสักการะขอพรหลวงพ่อสด หรือพระมงคลเทพมุนี พระเกจิชื่อดังที่ชาวบ้านและประชาชนทั่วไปให้ความเคารพนับถือ จะเห็นคนมานั่งเจริญสมาธิกรรมฐานกันเยอะครับ ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เคารพนับถือท่านมาก และมาสักการะขอพรหลวงพ่อสดอยู่เป็นประจำครับจุดเช็คอินที่สำคัญจุดที่สาม ก็คือ การได้ไปสักการะขอพรพระมหาเจดีย์มหารัชมงคล สถาปัตยกรรมภายนอกผสมผสานระหว่างรัตนโกสินทร์และล้านนา แบ่งออกเป็น 5 ชั้น มีความสูง 80 เมตร ภายในมีเจดีย์แก้วบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แนะนำให้เดินไปถึงชั้นบนสุด เพราะงดงามมาก แถมยังสงบ ร่มเย็น นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวคลองภาษีเจริญอีกด้วยครับจุดเช็คอินที่สำคัญจุดที่สี่ ก็คือ การได้ไปสักการะขอพรพระพุทธธรรมกายเทพมงคล พระพุทธรูปปางสมาธิ ทำด้วยทองแดงขนาดใหญ่ สูง 69 เมตร เทียบเท่าตึก 20 ชั้น จัดสร้างขึ้นตามนิมิตของหลวงพ่อสด ซึ่งเห็นลักษณะของพระพุทธรูปนี้ในขณะที่กำลังเจริญสมาธิกรรมฐาน พระพุทธรูปองค์นี้เพิ่งสร้างได้ไม่นานนัก เราสามารถมองเห็นพระพุทธธรรมกายเทพมงคล เด่นสง่ามาแต่ไกล ตั้งแต่บนสถานีรถไฟฟ้า BTS วุฒากาศ เลยครับ 2. วัดอัปสรสวรรค์วรวิหาร แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร📌... พิกัด : https://goo.gl/maps/AhNtT1DGBszSw2px5เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.วัดอัปสรสวรรค์วรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมชื่อ "วัดหมู" เพราะมีเศรษฐีจีนคนหนึ่งมีอาชีพเลี้ยงหมู และทำสวนปลูกผัก หมากพลูเป็นจำนวนมาก ได้ยกแปลงเลี้ยงหมูเพื่อสร้างวัดนี้ ต่อมา "เจ้าจอมน้อย" ได้มาปฏิสังขรณ์วัด ร.3 ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ให้สถาปนาวัดแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด และพระราชทานนามวัดนี้ว่า "วัดอัปสรสวรรค์" เพื่อเป็นที่ระลึกแด่ "เจ้าจอมน้อย" จุดเช็คอินที่สำคัญจุดแรก ก็คือ การไปสักการะขอพรพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัย ซึ่งมีความเหมือนและมีขนาดเท่ากันทั้งหมด ที่งดงามยิ่งนักจุดเช็คอินที่สำคัญจุดที่สอง ก็คือ การไปสักการะหลวงพ่อสมอ หรือ พระพุทธรูปปางฉันสมอ ประดิษฐานอยู่ภายในพระมณฑปสีขาว ซึ่ง ร.3 ได้พระราชทานไว้ที่วัดแห่งนี้ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และเก่าแก่อีกองค์หนึ่งที่มีพุทธศิลป์ที่งดงาม โดยได้อัญเชิญมาจากเวียงจันทน์ครับ จุดเช็คอินที่สำคัญจุดที่สาม ก็คือ การไปเยี่ยมชมหอพระไตรปิฎกเก่าแก่กลางน้ำ เป็นศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่สวยงามและหาชมได้ยากในกรุงเทพมหานครครับ 3. วัดขุนจันทร์ หรือวัดวรามาตยภัณฑสาราราม แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร📌... พิกัด : https://goo.gl/maps/bguZRLwjvCSTdjnCAเปิดบริการทุกวัน เวลา 07.00 – 18.00 น.วัดขุนจันทร์ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2370 โดยมีพระยามหาอำมาตย์ (ป้อม อมาตยกุล) หลังจากได้ยกทัพไปปราบขบถเวียงจันทน์ ในปี พ.ศ. 2369 และได้สร้างวัดขุนจันทร์ขึ้นมา ต่อมา ร.5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานชื่อวัดว่า "วัดวรามาตยภัณฑสาราราม" เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2497 สถาปัตยกรรมและศิลปวัตถุที่อยู่คู่วัด ส่วนใหญ่เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบไทยกับพม่า ได้อย่างลงตัวและงดงามมาก จุดเช็คอินที่สำคัญจุดแรก ก็คือ การไปสักการะขอพรหลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และเก่าแก่อีกองค์หนึ่งที่มีพุทธศิลป์ที่งดงาม ที่ชาวบ้านให้ความเคารพเลื่อมใสและศรัทธามาก ผมก็ไปไหว้หลวงพ่อโตองค์นี้เป็นประจำครับจุดเช็คอินที่สำคัญจุดที่สอง ก็คือ การได้ไปสักการะขอพรหลวงพ่อหยกขาว และพระเจ้าตากสินมหาราช ที่งดงามยิ่งนักครับจุดเช็คอินที่สำคัญจุดที่สาม ก็คือ การได้ไปสักการะขอพรพระนอน วัดขุนจันทร์ ศิลปะแบบพม่า เห็นครั้งแรกดูคล้าย ๆ พระนอนตาหวานที่ประเทศพม่า หรือเมียนมาเลยครับ น่าจะจำลององค์พระนอนตาหวานมาไว้ที่วัดแห่งนี้นะครับจุดเช็คอินที่สำคัญจุดที่สี่ ก็คือ การได้ไปสะเดาะเคราะห์ต่อดวงชะตา บูชาพระราหู เห็นคนไปกันเยอะครับ บริเวณข้าง ๆ จะเป็นจุดให้อาหารและปล่อยปลาครับก่อนกลับบ้านแว๊ะให้อาหารปลาชมวิวริมคลองภาษีเจริญสักนิดจิตแจ่มใสครับ สำหรับผมทริปนี้ผมประทับใจมากกับการได้เดินทางมาเที่ยววัดไหว้พระ 3 วัด ย่านคลองภาษีเจริญแห่งนี้ รู้สึกดีต่อใจมากได้มาไหว้พระอิ่มบุญ ถ่ายรูปภาพสวย ๆ อิ่มใจ ได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของวัดและคลองภาษีเจริญที่มีเรื่องเล่าดี ๆ มากมาย และเป็นการเติมพลังบุญให้กับตนเองให้ต่อสู้ต่อไปครับ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ ที่มาของข้อมูล : อ้างอิงมาจากป้ายที่ทางวัดและกรุงเทพมหานครแป๊ะประวัติของวัดไว้ครับเฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/teawwat/ภาพถ่ายทั้งหมด โดย เที่ยววัดห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป