เมื่อละครย้อนยุคของไทยที่หลายคนต่างเฝ้ารอเรื่อง"พรหมลิขิต" ภาคต่อของละครชื่อดังอย่างบุพเพสันนิวาส เริ่มออกอากาศทางช่องสามได้ไม่นาน อารมณ์ความเป็นออเจ้าก็กลับมาอีกครั้ง คิดถึง“วัดไชยวัฒนาราม” ที่ในละครจะกล่าวถึงบ่อยมากเพราะเป็นจุดเริ่มต้นการข้ามภพข้ามชาติและการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของตัวละครที่อยู่ในบริเวณนั้น เราเลยต้องไปเที่ยวตามรอยละคร เพื่อสัมผัสกับสถานที่จริงดูสักครั้ง และถ้าจะให้ได้บรรยากาศเหมือนหลุดไปในยุคกรุงศรีอยุธยาก็แต่งชุดไทยไปเที่ยวกันค่ะ“วัดไชยวัฒนาราม” เป็นวัดโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยาอายุเกือบสี่ร้อยปี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทางฝั่งตะวันตกนอกเกาะเมืองในต.บ้านป้อม อ. เมืองพระนครศรีอยุธยา จ. พระนครศรีอยุธยา สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พ.ศ.2173 โดยมีการนำรูปแบบแผนผังจำลองมาจากปราสาทนครวัด ที่มีปรางค์องค์ประธานอยู่ตรงกลางตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส และมีปรางค์บริวารอยู่รายล้อม แล้วก็มีระเบียงคดภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยจำนวน 120 องค์ และปัจจุบันสถานที่นี้ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อ พ.ศ. 2478 รวมอยู่ในอุทยานนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเรียบร้อยแล้วค่ะการเดินมาเที่ยวก็สะดวกมาก ถึงบริเวณหน้าวัดจะมีร้านให้เช่าชุดไทยสวยๆ พร้อมเครื่องประดับพร็อพครบ บางร้านก็แต่งหน้าทำผมให้พร้อมเลยค่ะ มีเยอะมากจนเลือกไม่ถูก ราคาก็มีตั้งแต่ 150-350 บาท เลือกได้ตามสไตล์ที่ชอบ เมื่อพร้อมแล้วก็ไปเดินชมบรรยากาศถ่ายรูปสวยๆ ตามแบบฉบับออเจ้ากันเถิดหนาในละครพรหมลิขิตมีฉากที่พุดตาน มายืนหน้าวัดไชยวัฒนารามแล้วพูดว่า "เป็นซากปรักหักพังยังดูยิ่งใหญ่ขนาดนี้ คิดไม่ออกเลยว่าเมื่อก่อนจะสวยงามยิ่งใหญ่ขนาดไหน" ซึ่งพอเรามาเห็นสถานที่จริงก็เห็นด้วยเลยทีเดียว พื้นที่ของวัดไชยวัฒนารามกว้างขวางมาก จะมองเห็นปรางค์ประธานองค์ใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง ดูยิ่งใหญ่โดดเด่นเป็นสง่า น่าเกรงขาม ส่วนปรางค์บริวารที่อยู่รอบๆก็ยังคงสวยงามเสริมความยิ่งใหญ่อลังการขึ้นไปอีกเมื่อเดินเข้าไปด้านใน กลุ่มปราสาททั้งหมดจะสร้างด้วยอิฐสีแดงเรียงต่อกันสร้างเป็นปรางค์เจดีย์ขนาดต่างๆคล้ายศิลปะขอม ข้างๆมีเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง เจดีย์บางองค์ก็มีพระพุทธรูปปูนปั้นประดิษฐานไว้ด้านบน มีทางเดินซุ้มประตูระหว่างเจดีย์แต่ละองค์ และมีกำแพงล้อมรอบ ตามแนวกำแพงก็มีพระพุทธรูปประดิษฐานไว้โดยรอบ ส่วนปรางค์องค์ประธานเป็นปรางค์ขนาดใหญ่ ที่มีบันไดเล็กๆทอดยาวขึ้นสู่ด้านบน น่าจะมีไว้สำหรับขึ้นไปประกอบพิธีสำคัญเมื่อเราใส่ชุดไทยแล้วมาเดินถ่ายรูปตามรอยละครพรหมลิขิตแบบนี้ ก็จะได้รูปสวยงามเข้ากันดีทีเดียวเลยค่ะ โดยเฉพาะมุมหน้าปรางค์องค์ประธานซึ่งส่วนใหญ่ในละครจะเป็นภาพระยะไกล ภาพหมู่ปรางค์เจดีย์ และมุมกำแพงที่จะเห็นผ่านๆในละคร เมื่อได้มาชมใกล้ก็ต้องถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันบ้าง ถ้ามาตอนเย็นๆ บรรยากาศดี ไม่ร้อนแสงสวยจะได้รูปที่สวยงามมากๆค่ะ และในช่วงระหว่างวันที่ 13 ตุลาคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 กรมศิลปากรมีการจัดงาน "ราตรีนี้...ที่วัดไชยวัฒนาราม Ayutthaya Sundown" ค่าธรรมเนียมเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 18.00 - 22.00 น. ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้นนะคะ ซึ่งจะมีการประดับไฟ แสดงแสง สี เสียง อย่างสวยงาม เปิดมิติความสวยงามของ“วัดไชยวัฒนาราม”โบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของไทยให้ได้ชมกันค่ะพิกัด : https://maps.app.goo.gl/MYEgt8TzjWKtEo1R9เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00น.-17.00น.ค่าบริการ : ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาทรูปภาพหน้าปกและภาพประกอบทั้งหมดจัดทำโดย Noonee เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !