จะว่าไปการทำงานด้านการท่องเที่ยว ก็มีข้อได้เปรียบกว่าคนอาชีพอื่นๆคือ ได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวในขณะทำงานไปด้วย รวมทั้งได้ไปเจออะไรใหม่ๆ ได้ใช้เวลาเจาะลึกกับข้อมูลมากกว่าพิเศษ ทริปนี้ถือว่าหรรษาไม่แพ้ทริปอื่่นๆที่เคยได้มีโอกาสไปสำรวจเส้นทาง เพียงแต่ผู้เขียนไม่ถนัดเส้นทางย่านนี้ จึงมีเรื่องโก๊ะเกิดขึ้น แม้จะทำการบ้านมาก่อนก็ตาม แถมระยะทางที่ไกล จึงบอกว่าค่อนข้างเหนื่อยกับการนั่งรถ แต่ไม่เสียดายเวลาเลย เพราะสถานที่ที่ไปนั่น สวยจับจิตและน่าประทับใจมาก ดังที่ผู้เขียนเคยได้เขียนถึงงานประจำของตนเองที่ทำเกี่ยวกับทัวร์ด้านการศึกษาในบทความอื่นๆ การสำรวจเส้นทางมีความสำคัญมาก ก่อนที่เราจะนำคณะนักเรียนมาทำกิจกรรม จะต้องไปดูสถานที่จริงเพื่อวิเคราะห์หาความเป็นไปได้ว่าควรทำหรือไม่ มีประโยชน์ตรงวัตถุประสงค์ของคณะหรือเปล่า รวมถึงการตรวจสอบด้านความปลอดภัยต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความละเอียดอ่อนกว่าการจัดการท่องเที่ยวทั่วๆไป จุดแรกเพื่อไม่ให้การเดินทางจากกรุงเทพฯ ถึงเพชรบูรณ์ดูนั่งรถย้าวยาวเกินไป จึงต้องมีการสำรวจสถานที่ที่แวะได้ระหว่างทาง แน่นอนว่าฟาร์มโชคชัยดูจะเป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับนักเรียน ด้วยประวัติความเป็นมาและกิจกรรมภายในฟาร์ม ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อการศึกษาเรียนรู้ของเด็กๆทั้งไทยทั้งต่างชาติอย่างมาก ถ้าจะพูดถึงฟาร์มโชคชัย ถือว่านี่คือแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่หลายๆคน หากคุณต้องการทำความฝัน อย่าล้มเลิก อย่าท้อ อย่าหยุดฝัน จนกว่าจะถึงจุดหมาย คงต้องขอบคุณ คุณโชคชัย บูลกุล ผู้มีความฝันอยากจะเป็นคาวบอยตั้งแต่เด็ก ไม่ยอมทิ้งความฝัน แม้ช่วงแรกๆที่เริ่มทำกิจการฟาร์มโคเนื้อ จะไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ก่อนมาแปรรูปกิจการทำเรื่องนม แถมทำได้ไม่นานดันมีหนี้สินกว่า 500ล้านบาทขึ้นมา จนต้องตัดสินใจขายกิจการแปรรูปผลิตภัณฑ์นมไป คงเหลือเพียงฟาร์มโคนม แต่ด้วยความรัก ความมุมานะ จนในที่สุดฟาร์มโชคชัยกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร มีทั้งกิจกรรม สันทนาการ ที่พัก ร้านอาหาร บนพื้นที่กว่า 20,000ไร่ การสำรวจฟาร์มโชคชัย ตอบโจทย์กลุ่มนักเรียนเป็นอย่างดี เนื่องจากทริปนี้ ผู้เขียนเดินทางมากับตัวแทนของโรงเรียน เรารู้สึกได้ว่าตัวแทนมีความพึงพอใจสถานที่นี้มาก ไม่ว่าจะเป็นด้านกิจกรรมหรือบรรยากาศ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน หลังจากสูดอากาศกับดินแดนแห่งคาวบอยตะวันออก เราก็เดินทางต่อไปสู่จังหวัดเพชรบูรณ์ คือนั่งรถยาวไปราวๆ 6 ชั่วโมง ผู้เขียนไม่สามารถงีบหลับได้ในระหว่างทาง เนื่องจากต้องถ่างตาเพื่อบันทึกระหว่างทางว่าเป็นอย่างไรสำหรับการทำรายงาน ช่วงที่เดินทางเป็นช่วงหน้าฝน จึงได้แต่ภาวนาว่า ฝนอย่าตกเยอะ เพราะหากมีฝน การลงไปสำรวจสถานที่บางที่ โดยเฉพาะกลางแจ้ง จะไม่สะดวกเท่าไหร่ ต่อให้มีร่มหรือเสื้อกันฝน ใครจะชอบทั้งเปียกทั้งเฉอะแฉะ ระหว่างทางจากสระบุรีไปเพชรบูรณ์จึงได้แต่อธิษฐานให้ฝนไม่ตกหรือแค่ปรอยๆ เนื่องด้วยปลายทางของเราคือวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เราเดินทางมาถึงวัดค่อนข้างเย็น โชคยังดีวัดยังไม่ปิด ยังอนุญาตให้ได้เดินสำรวจวัด วัดแห่งนี้จัดว่าเป็นวัดหนึ่งที่ช่างภาพไม่ว่าจะมืออาชีพหรือมือสมัครเล่น ต่างดั้นด้นกันมาถ่ายรูป พระพุทธเจ้า 5พระองค์ที่ประดิษฐานเรียงกันไล่ระดับ โดยมีฉากหลังเป็นภูเขา ตามความเชื่อของชาวบ้านเล่าว่า ชาวบ้านได้เห็นลูกแก้วลอยเหนือฟ้า แล้วหายไปในหน้าผาบริเวณที่เป็นที่ตั้งวัดปัจจุบัน จึงเรียกว่า "ผาซ่อนแก้ว" นอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว วัดนี้ยังเป็นสถานที่ชาวพุทธนิยมมาปฏิบัติธรรมเพื่อหาความสงบในชีวิตด้วย ใช้เวลาสำรวจวัดได้ไม่นาน ฝนก็เทลงมาจึงต้องรีบออกจากวัดเข้าสู่ที่พัก ภาพถ่ายโดยผู้เขียน วันต่อมาไม่เล่าคงไม่ได้ เพราะเป็นการสำรวจเส้นทางที่สนุกสนานปนขำ ด้วยความที่ไม่เคยไปทุ่งกังหันกันมาก่อน จึงอาศัยกูเกิ้ลแมพ หลายๆคนอาจจะเคยมีประสบการณ์ในการขับตามกูเกิ้ลแมพในประเทศไทย มีสองอย่างคือขับถึงจุดหมายมีความปัง หรือขับถึงที่หมายแบบความพัง แต่สำหรับทุ่งกังหันลมที่เราตามหา มันคือส่วนผสมระหว่างปังกับเกือบจะพัง ดั่งที่ออกตัวแล้วว่าไม่ชำนาญทางเลย ตามพิกัดกูเกิ้ลอย่างเดียว จะให้ไปทางไหนก็ไปตาม ตอนแรกขับมาทางกว้าง ขับไปขับมาทางค่อยๆแคบลง แถมต้องไต่เขา รถที่ใช้เดินทางคือรถตู้โตโยต้าคอมมิวเตอร์ คนขับช่างน่ารักใจเย็น พาเราไปเรื่อยๆ จนเริ่มเอ๊ะใจ ว่าทำไมทางแคบ กว่าจะค้นพบว่ากูเกิ้ลพยายามหาทางลัดให้ ซึ่งไม่ใช่ทางปกติ ฉลาดเกินไปอีก ยังไงทางอยู่ที่ปากอยู่ดี ถามเจ้าหน้าที่แถวนั้น จนเจอทางปกติ ความพยายามเป็นผล เรามาถึงทุ่งกังหันลมสมดั่งใจ ดูเหมือนว่าที่แห่งนี้ไม่เคยตอบโจทย์คณะมากนัก เนื่องจากไม่ได้มีกิจกรรมมากกว่าการขึ้นมาถ่ายภาพ ซึ่งถือว่าเหตุการณ์แบบนี้ดีสำหรับการสำรวจเส้นทาง เมื่อพบจุดที่ไม่เป็นตามที่วางแผน เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ทันที ภาพถ่ายโดยผู้เขียน อย่างไรก็ตามทริปสำรวจเส้นทางครั้งนี้จบลงด้วยดี ได้สำรวจในสิ่งที่ต้องการ แม้สุดท้ายจะพบว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่เหมาะกับการนำรถบัสขนาดใหญ่มาวิ่ง สถานที่ไม่รองรับกับกลุ่มเดินทางคณะใหญ่ (ในที่นี้ผู้เขียนกล่าวถึงการทำกิจกรรมเฉพาะทางบางอย่างของคณะ) ทำให้ต้องเปลี่ยนจุดหมายเป็นจังหวัดอื่น เอาเข้าจริงๆค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางค่อนข้างสูงถ้าต้องใช้รถตู้เดินทาง นี่เป็นอีกหนึ่งบันทึกการเดินทางที่แสนประทับใจอยากเล่าสู่กันฟัง เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ขอสนับสนุนให้คนไทยเที่ยวเมืองไทยกันเยอะๆค่ะ