บ่ายวันนี้ผมได้มายังที่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่พวกเรารู้จักกันดีว่า วัดพระแก้ว วัดคู่บ้านคู่เมืองของไทย และยังเป็นวัดที่อยู่หลังเหรียญ 1 บาทด้วย วัดพระแก้วถูกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2325 โดยรัชกาลที่ 1 สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดให้สร้างขึ้นพร้อมกับการจัดตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นเป็นราชธานีขึ้นเมื่อ 200 กว่าปีมาแล้ว โดยจัดสร้างขึ้นภายในพระมหาราชวัง และวัดพระแก้วแห่งนี้ก็เป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ด้วย ผมเดินต่อแถวเข้าไปยังจุดคัดกรองผู้คน นอกวัดพระแก้ว ท่ามกลางอากาศที่ค่อนข้างร้อนในวันนั้น แต่ก็มีผู้คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ต้องการมาชมวัดพระแก้วอยู่มากมายหลายคนเลย ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักท่องเที่ยวทัวร์จีนซะเป็นส่วนใหญ่ รองลงมาก็จะเป็นชาวยุโรป ที่นี่คนไทยจะเข้าฟรี แต่ถ้าหากเป็นชาวต่างชาติก็จะต้องเสียค่าเข้า 200 บาท และที่นี่ทุกคนก็จะต้องแต่ตัวให้เรียบร้อย ไม่ใส่สั้น ไม่ใส่สายเดี่ยว เกาะอก กระโปรงไม่สั้น ห้ามเด็ดขาด แต่ถ้าใครแต่งกายไม่เรียบร้อย ซึ่งถ้ามีก็มักจะเป็นชาวต่างชาติ ก็จะมีชุดให้เช่าด้วย ผมเข้าไปด้านในก็เห็นผู้คนหลายคนกำลัง ไหว้ ถวายดอกไม้ สวดบทบูชาพระแก้วมรกต ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถ ผมก็ได้เข้าไปไหว้ด้วยเพื่อเป็นสิริมงคลของตนเอง และหลังจากไหว้แล้วก็รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจเป็นอย่างยิ่งเลย ภายในวัดพระแก้วก็ยังมี ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งเป็นเรื่องราวของรามเกียรติ์ ซึ่งคนไทยเราทุกคนคงรู้จักกันดี และจิตรกรรมฝาผนังที่วัดพระแก้วนี้ ก็ยังเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ยาวที่สุดในโลกอีกด้วย ผมเองดูภาพจิตรกรรมฝาผนังอยู่สักพักนึงเลย เพราะผมเองชอบเรื่องรามของรามเกียรติ์อยู่มาก และต้องบอกว่าภาพจิตรกรรมฝาผนังนี้สวยงามจริง ๆ เลยครับ รูปปั้นยักษ์ที่ยืนเฝ้าประตูอยู่อย่างสะดุดตา ซึ่งก็เป็นยักษ์จากเรื่องรามเกียรติ์อีกนั่นแหละที่ใครต่อใครที่ต่างพบเห็น แล้วก็อดที่จะถ่ายรูปกับยักษ์เป็นที่ระลึกไม่ได้ และภายในก็ยังมีสถานที่ที่สวยงาม วิจิตรตระกาลตาอีก ไม่ว่าจะเป็น ปราสาทพระเทพบิดร ปราสาทยอดปรางค์ พระศรีรัตนเจดีย์ ผมเห็นนักท่องเที่ยวทุกคนก็ต่างหยิบโทรศัพท์ของตนเองมาถ่ายรูปกันอย่างรัว ๆ หรือบางคนก็ถ่ายเป็นคู่ก็มี ผมเองก็ถ่ายเอาไว้หลายรูปด้วยเช่นกัน และวันนั้นมีผู้คน นักท่องเที่ยว มากันเยอะมาก ๆ การที่จะได้รูปโดยที่ไม่ติดผู้คนต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ผมก็รู้สึกภาคภูมิใจประเทศไทยของเรานะครับ ว่าสถานที่แห่งนี้มีความงดงาม และมีชื่อเสียงมาก เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติที่ต้องมาเยือนให้ได้เมื่อมายังประเทศไทย แต่อีกแง่นึงก็ต้องบอกว่าแปลกใจอยู่ไม่น้อย เพราะผมเองเป็นคนไทยแค่ไม่กี่คนเองที่ได้เข้ามายังวัดพระแก้วในวันนั้น คนไทยเรามากันน้อยมากครับ ที่สุดท้ายที่ผมได้เข้าไปก็คือ พระอุโบสถ ซึ่งด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือที่พวกเรารู้จักกันดีว่า พระแก้วมรกต พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทยเรา สำหรับผม ผมว่าอุโบสถหลังนี้มันงดงามที่สุดแล้วในวัดพระแก้ว ด้านนอกเห็นงดงามอยู่แล้ว เข้าไปดูใกล้ ๆ ด้านในยิ่งงดงามขึ้นไปอีก และผมก็ได้เข้าไปกราบไหว้ พระแก้วมรกต ที่ด้านในด้วย ท่ามกลางนักท่องเที่ยวอีกหลายคน เสียดายอยู่อย่างนึง ผมไม่สามารถที่จะถ่ายรูป พระแก้วมรกต ด้านในอุโบสถได้ เนื่องจากด้านในห้ามถ่ายรูปและถ่ายวีดีโอเด็ดขาด ก็จบไปแล้วนะครับ สำหรับวันนี้ที่ผมได้มายังวัดพระแก้ว ใครมีวันหยุด มีเวลาว่าง มีโอกาสก็มากันได้นะครับ คนไทยเราอย่าเป็นเกลือกินด่าง มาชมวัดพระแก้วที่สวยงามและที่ภาคภูมิใจของพวกเรากันได้นะครับ สำหรับวันที่ผมไปนี้อยู่ในช่วงใกล้วันตรุษจีน และประเทศจีนยังไม่ประกาศปิดเมืองอู่ฮั่นทีนะครับ เลยมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเยอะมาก ตอนนี้ถ้าใครจะไปละก็ หาหน้ากากอนามัยปิดไว้ด้วยนะครับ เพื่อสุขภาพที่ดี ป้องกันโรคระบาดนะครับ วัดพระแก้วก็จะเปิดทุกวัน เวลา 08.30 น.-15.30 น. ภาพถ่ายโดยผู้เขียน