Valley of Flowers แดนแห่งขุนเขา ดอกไม้ และสายธาร ที่ประเทศอินเดีย
นักผจญภัยท่านใดเคยวาดฝันถึงการแบกเป้ เดินทางเพื่อเข้าไปชมความงามของดินแดนกลางหุบเขาสลับซับซ้อน แซมด้วยดอกไม้หลากสีสันประชันความงามละลานตา ภาพเหล่านี้ไม่ต้องไปไกลถึงประเทศแถบยุโรปก็ได้ เพราะครั้งนี้เราจะมาแนะนำให้รู้จักกับ Valley of Flowers ทุ่งดอกไม้งามแห่งอินเดียครับ
รู้จัก Valley of Flowers National Park มรดกโลกของอินเดีย
ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเทือกเขาหิมาลัย ในรัฐอุตตราขัณฑ์ของประเทศอินเดีย บนความสูง 3,650 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล กินอาณาบริเวณกว่า 87 ตารางกิโลเมตร บนนี้จะพบดอกไม้นานาพันธุ์ที่ทั้งสวยงาม และหายากในแถบภูมิภาคอื่นกว่า 520 ชนิด รวมถึงมีสรรพคุณทางยาด้วย โดยปกติดอกไม้จะบานสะพรั่งละลานตาในช่วงเดือนมิถุนายน ไปจนถึงต้นกันยายน
รัฐอุตตราขัณฑ์ (Uttarakhand) เป็นรัฐหนึ่งประเทศอินเดีย ตั้งอยู่ตอนเหนือของประเทศ มีเขตแดนทางทะเลติดต่อกับทิเบต ประเทศจีน ทางทิศเหนือ และประเทศเนปาลทางตะวันออก รัฐอุตตราขัณฑ์เป็นรัฐที่ 27 ของสาธารณรัฐอินเดีย เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 เดิมชื่อรัฐอุตรารัณจัล หรือ "อุตตราญจัล"เปลี่ยนมาใช้ชื่อปัจจุบันเมื่อ 1 มกราคม พ.ศ. 2550 เป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำยมุนา และแม่น้ำคงคา
การเดินทางสู่ Valley of Flowers
Valley of Flowers นั้นจะอยู่ในเส้นทางเดียวกันกับการเดินทางไป ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์เฮมกุน (Hemkund Sahib) ซึ่งเป็นเส้นทางแสวงบุญใหญ่ของชาวซิกส์ และชาวฮินดูด้วย เชื่อกันว่า Guru Gobind Singh (คุรุโกบินท์ สิงห์ ) ศาสดาคนที่สิบของศาสนาซิกส์ได้มาบำเพ็ญเพียรอยู่ ณ ที่แห่งนี้
การเดินทางจะเริ่มต้นที่กรุงเดลี แล้วเดินทางโดยรถยนต์ไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก็จะผ่านเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น
Haridwar (หริทวาร)
มีความหมายว่า ประตูสู่พระเจ้า เมืองนี้นับเป็นหนึ่งในเมืองศักดิ์สิทธิ์ของอินเดีย ซึ่งถ้าใครมีโอกาสมาเที่ยวในช่วงเดือนก.ค. ก็จะตรงกับช่วงเทศกาลพอดี จะเห็นชาวอินเดียที่นับถือพระศิวะนุ่งห่มเครื่องแต่งกายสีส้ม เดินทางมาเพื่อตักน้ำจากแม่น้ำคงคา และเดินเท้ากลับไปบูชาพระศิวะที่บ้าน หรือหมู่บ้านของตนก่อนวันที่ 31 ก.ค.
Rishikesh (ริชีเกศ)
จุดพบกันระหว่างแม่น้ำ Bhagirathi และ Alakananda รวมกันกลายเป็นจุดเริ่มต้นของแม่น้ำคงคา
Joshimath
อีกหนึ่งเมืองสำคัญทางศาสนาของชาวอินเดีย จากเมืองนี้ไปจนถึงเมือง Govidghat จะเป็นถนนลัดเลาะตามภูเขา มีจุดเด่นอยู่ที่วิวทิวทัศน์ระหว่างทางซึ่งมีความสวยงามมาก
Govindghat
เป็นเมืองเริ่มต้นของเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 13 กิโลเมตร มุ่งหน้าสู่เมือง Ghangharia ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเมืองหน้าด่าน และจุดที่พักก่อนจะเริ่มเดิน Trekking ของจริง
จากเมือง Ghangharia ก็จะต้องเดินต่อเพื่อไปถึง Valley of Flowers มีม้าไว้คอยบริการเผื่อคนไม่อยากเดิน แต่ส่วนมากมักจะไม่นั่งม้ากันเพราะจะเจ็บก้นมาก ใครที่จะเดินแนะนำให้หาไม้ค้ำยัน และใส่สนับเข่าด้วยจะช่วยได้มาก
เมื่อผ่านพ้นการเดินทางอันแสนยากลำบากไปได้ ก็จะพบกับ Valley of Flowers นอกจากจะได้ชมสีสันของดอกไม้แล้ว ยังมีธารน้ำแข็งสวยๆ ให้ได้แวะถ่ายภาพเก็บความประทับใจ
jashyphotography / Shutterstock.com
สำหรับอีกเส้นทางใกล้ๆ กัน ก็คือทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ Hemkund Sahib ที่มักจะเดินขึ้นในวันถัดไปกัน เพราะเส้นทางจะลาดชันกว่ามาก แต่เมื่อได้ชมวิวของหุบเขาเบื้องหน้าแล้ว บอกได้คำเดียวว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง แม้ทะเลสาบเย็นยะเยือกบนระดับความสูง 4,100 เมตรจะฟังดูน่ากลัว แต่ก็ไม่อาจหยุดศรัทธาของชาวซิกส์ผู้แสวงบุญได้ พวกเขาจะลงอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาดกันที่นี่
รวมทั้งสิ้นสำหรับทริป Trekking ทริปนี้จะใช้เวลาประมาณ 7 วัน ใครที่อยากมาจำเป็นจะต้องฟิตร่างกายมาอย่างดีในระดับหนึ่งครับ แม้หนทางจะลำบากบ้าง แต่รับรองว่าคุ้มค่า และเปิดประสบการณ์ใหม่ที่คุณไม่มีโอกาสเห็นได้ง่ายๆ ที่ไหนแน่นอน
===============
รวมที่เที่ยว ที่พัก อัพเดทเทรนด์ ฟินทั่วไทยและต่างประเทศ
อ่านง่าย สบายกว่าที่เคย! บนแอปพลิเคชัน ทรูไอดี