วันว่างๆ กับทริปสั้นๆ นั่งรถไฟ จากเชียงใหม่ไปลำปาง วันว่างของผู้หญิง 3 คน ที่อยากรวมตัวกันไปเที่ยว และนอนค้างคืนสักที่ ที่ไม่ใช่ในเชียงใหม่ เหตุผลคืออะไร ทำไม่ต้องเป็นลำปาง และทำไมต้องนั่งรถไฟ คือ ทริปวันนั้น (ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2020) ผู้เขียนกับเพื่อนคนหนึ่งทำงานและอาศัยอยู่ที่เชียงใหม่ ส่วนเพื่อนอีกคนเคยทำงานด้วยกัน แต่ย้ายไปทำงานต่างจังหวัดเมื่อปลายปีที่แล้ว และได้มีการนัดหมายกันว่า ถ้ามีโอกาสลางานเราจะนัดเจอกัน และจัดทริปสั้นๆ สักทริป ทั้ง 3 คนก็ได้เลือกและตกลงกันว่า เราจะไป ลำปาง และการไปลำปางครั้งนี้ เราจะนั่งรถไฟไปกัน ทุกคนเห็นด้วยอย่างไม่มีข้อขัดแย้งใดๆ แค่คิดก็สนุกแล้ว ส่วนหนึ่งที่เลือกเดินทางโดยรถไฟ ก็เพราะจุดประสงค์หลักของเราคือ อยากชื่นชมบรรยากาศ 2 ข้างทาง อย่างสบาย ๆ ชิว ๆ เราอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากการนั่งรถยนต์ รถโดยสารประจำทาง หรือ รถทัวร์ มาเป็นรถไฟ อีกอย่างคือ เราไม่ได้รีบ และมันทำให้ทุกวินาทีที่เราอยู่บนรถไฟ ได้พูดคุย ถ่ายรูปเล่น มองวิวข้างทาง ได้อย่างสบายโดยไม่ต้องกังวลและไม่เหนื่อย เพราะไม่ต้องขับรถเอง ที่สำคัญประหยัดเงินค่าเดินทางได้อีกด้วย บางทีคนเราก็อยากจะเที่ยวไปเรื่อยๆ เอื่อยๆ ช้าๆ (คติของผู้เขียนคือ เที่ยวอย่างไรให้สนุก และไม่เหนื่อย) การเที่ยวทางเลือกใหม่ ทำให้เราทั้งสนุกและตื่นเต้น ได้พูดคุยกัน เล่นกัน และผลัดกันงีบไปตลอดทาง หลายคนถามว่า ไปลำปาง ไปทำอะไร ตอบแบบง่ายๆ เลยค่ะว่า ไปนอน... ไปกิน.... ไปใช้ชีวิตช้าๆ และก็ไปหา passion ให้กับตัวเองค่ะ และแล้วการเดินทางก็ได้เริ่มขึ้น เมื่อทั้ง 3 ได้จัดการซื้อตั๋วรถไฟ ได้รอบเดินทางประมาณ 9 โมงเช้า ราคาอยู่ที่ คนละ 23 บาท ใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมด 2 ชั่วโมง ถ้าหากเดินทางด้วยรถส่วนตัว จากเชียงใหม่ก็จะใช้เวลาในการเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆ เอาจริงๆ ก็ไม่ต่างกันมาก แต่ข้อดีของการนำรถส่วนตัวไปเที่ยวก็คือ ความสะดวกในการเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยว ต่างๆ ที่อยู่บริเวณรอบนอก โดยไม่ต้องรอรถประจำทาง กลับเวลาไหนก็ได้ ไม่ต้องกังวล บางสถานที่ที่อยากไป รถประจำทางอาจจะเข้าไม่ถึง แต่ทริปนี้ เป็นทริปสั้นๆ และโดยส่วนใหญ่แล้วเราจะใช้เวลาอยู่ในตัวเมือง ซึ่งรถประจำทางสามารถเข้าถึง และเรียกใช้บริการได้เมื่อต้องการ ทริปนี้เน้นกิน ถ่ายรูป และพักผ่อนสถานีรถไฟนครลำปางถึงแล้วค่ะ...เมือง“เขลางค์นคร” เมืองรถม้า ชอบสถานีรถไฟของนครลำปางมากเลย แว๊บแรกที่ลงจากรถไฟ คือมองแบบไม่หยุดเลย ชอบตัวอาคารที่มีการออกแบบสไตล์โคโลเนียล ซึ่งไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีการออกแบบอาคารเป็นแบบสถาปัตยกรรมโคโลเนียล หรือ แบบตะวันตก ก็เพราะวิศวกรผู้ออกแบบเป็นชาวเยอรมัน ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้สร้างเส้นทางรถไฟสายเหนือนั่นเอง นอกจากนี้ สถานีรถไฟลำปาง ยังเป็นสถานีแรกๆ ที่สร้างขึ้นในประเทศไทยอีกด้วยVilla Rassada Nakorn Lampangหลังจากขึ้นรถสองแถวจากหน้าสถานีรถไฟ โดยใช้เวลาประมาณ 15 - 20 นาที เราก็ถึงที่พัก ซึ่งที่พักแห่งนี้ถูกแนะนำโดยเพื่อนสาวที่เคยมาพักแล้วครั้งหนึ่ง และเกิดความประทับใจ ครั้งนี้เลยไม่พลาดที่จะมาพักที่ Villa Rassada อีกครั้ง และปัจจัยหลักสำคัญคืออยู่ใกล้ตลาด "กองต้า" ตลาดที่เราจะต้องไปเดินหาของกินกันก่อนกลับเชียงใหม่นั่นเอง เอาจริงๆ คือ เพื่อนเลือกที่พักได้ถูกใจเรามาก เพราะโดยรวมถือว่าดี ตั้งแต่ราคา ความสะอาด ความน่ารักและเป็นมิตรของพนักงาน สะดวก สบายในการหาของกิน และที่ชอบมากอีกอย่างคือ ขนาดของห้องพัก กว้างได้ใจเราไปเต็มๆ ห้องนอนสำหรับ 3 คน ขนาดกว้าง ไม่แน่ใจว่าเท่าไร แต่กว้างมาก คืออยู่ 3 คนแล้วไม่รู้สึกอึดอัดเลย ที่นอนก็นุ่มสบาย นอนจนไม่อยากลุกเลยทีเดียว มีระเบียงนอกห้องอีกต่างหาก นี่แหละค่ะ ความสุขอย่างหนึ่งของการมาพักผ่อน คือ การมานอนในที่ดีๆ สบายๆ แต่ไม่ต้องแพงมาก ราคาห้อง (เตียงดับเบิ้ล และเตียงเดี่ยว) คืนละ 1,129 บาท หารกันคนละไม่ถึง 400 บาท แถมรวมอาหารเช้าด้วย ดีไหมล่ะ? มีรถจักรยานให้ยืมปั่นชมเมืองด้วยนะ สุดยอดจริงๆ wifi ไม่ต้องห่วง อัพโซเชียลได้ไม่มีหลุดอาหารเช้าก็จะหน้าตาเป็นเซ็ทง่ายๆ แต่อิ่มท้องแบบในรูปที่เห็นเลยค่ะ บวกกับน้ำส้มหรือกาแฟอีกคนละแก้ว ก็พร้อมไปตะลุยทัวร์กันทั้งวันได้แล้วพิกัด: 35 ถนนเจริญประเทศ เวียงเหนือ เมืองลำปาง จังหวัดลำปาง 52100Facebook: https://www.facebook.com/VillaRassada หมี่เกี๊ยว มากองต้า หลังจากเช็คอินเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ถึงเวลากินมื้อเที่ยงกันแล้ว ร้านเด็ดที่เราไม่ควรพลาด ต้องร้านนี้เลยค่ะ หมี่เกี๊ยว มากองต้า ร้านบะหมี่เกี๊ยวโบราณในตำนาน ที่ใครมาเยือนย่านกาดกองต้า ต้องมาแวะกิน เขาว่ากันว่าเป็นของอร่อยคู่เมืองลำปาง ต้องร้าน หมี่เกี๊ยว มากองต้า จ้า ราคาไม่แพง แต่จำไม่ได้ ว่าชามเท่าไร ความอร่อยทำให้เราลืมทุกอย่าง (หัวเราะ) บรรยากาศในร้านการตกแต่งของร้านก็จะออกแนวย้อนยุค ยุคที่ผู้เขียนเองก็ยังทันอยู่นะ กินไป รำลึกวันวานไป และนี่คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของนครลำปางที่เราชื่นชอบ ชื่นชอบของเก่า ที่ปัจจุบันหาดูได้ยาก เห็นทีไรชวนให้นึกถึงสมัยเรายังเป็นเด็กทุกทีส่วนเมนูเด็ดของที่นี่จะเป็นบะหมี่เกี๊ยวหมูแดง ซึ่งเราทั้ง 3 สั่งเมนูเดียวกันเลยจ้า รูปนี้คือแยกไม่ออกจริงๆ ว่าหิวหรืออร่อย โดยส่วนตัวคือชอบความนุ่มของเส้นหมี่ แผ่นเกี๊ยวก็นุ่มอร่อยแทบจะละลายในปาก ส่วนน้ำซุปหวานได้รสชาติของน้ำกระดูกแบบชนะเลิศไปเลยค่ะ พิกัดร้าน : ถนน ตลาดเก่า ตำบล สวนดอก อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง 52100Facebook: https://www.facebook.com/makongta/?rf=1519917088320518 Chic Chic Cafeกินของคาวเสร็จก็ไปต่อกันด้วยของหวานที่ร้านนี้เลยค่ะ ร้านนี้เป็นร้านที่เพื่อนแนะนำอีกเช่นกัน และก็ไม่ผิดหวัง เพราะทั้งอร่อย และถูก แป้งของเครปคือกรอบมาก และให้ไส้เยอะด้วย ราคาแค่ 25 บาท จริงๆ ร้านนี้เขามีเมนูของหวานอย่างอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นบิงซู ชาไข่มุก และเครื่องดื่มอื่นๆ เมนูเยอะแยะไปหมด แต่เราไม่โลภมาก กินเมนูเดียวพอ ภายในร้านค่อนข้างเล็ก เพราะส่วนใหญ่คนจะซื้อแบบ take away ในร้านมีการตกแต่งที่น่ารักดีค่ะ อะไรที่เพื่อนแนะนำมาให้ลองถือว่าผ่านหมดค่ะ พิกัดร้าน : ซอย ศิรินาวิน เทศบาลนครลำปาง Facebook: https://www.facebook.com/pages/category/Restaurant/Chic-Chic-Cafe-Lampang-103966501069422/ นั่งรถม้าชมเมืองมาลำปางต้องมานั่งรถม้าชมรอบเมืองนะค่ะ น้องม้าเขาจะพาเราไปชมถนนสายวัฒนธรรม แวะวัดเก่าแก่ต่างๆ ที่เป็นทางผ่าน วันนั้นยอมรับว่าขี้เกียจถ่ายรูป เลยได้มาแค่รูปเดียว เพราะมัวแต่ชมนก ชมไม้ ชมบ้าน ชมเมือง อย่างเพลิดเพลินเจริญใจ ราคาขี่ม้า ในวันนั้นเราจ่ายไป 400 บาท ในระยะเวลา 1 ชั่วโมงสำหรับการนั่งรถม้าชมเมือง สะพานรัษฎาภิเศก หรือ สะพานขาวสะพานที่มีอายุเก่าแก่ราว 100 ปี เป็นสะพานข้ามแม่น้ำวัง ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คของนครลำปางเลยก็ว่าได้ ข้ามสะพานไปก็จะเจอกาดกองต้า ตลาดถนนคนเดินวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นที่นิยมของคนที่นี่และนักท่องเที่ยวที่มาเยือน เราเดินเล่นข้ามสะพานมาเจอจุดที่เขาเรียกว่า street art เลยแวะถ่ายรูปกันก่อนไปหาร้านกาแฟนั่งเล่น ชิวๆ รอตลาดเปิดหม่องโง่ยซิ่น ร้านกาแฟที่มีกลิ่นไอของความเป็นล้านนา ที่แฝงไปด้วยประวัติความเป็นมาของเมืองลำปาง ซึ่งถือว่าเป็นทั้งร้านกาแฟและศูนย์เรียนรู้ชุมชน ป้ายหน้าร้าน จะเขียนไว้ว่า "อาคารห้ามพลาด! เรือนขนมปังขิงทรงมะนิลาที่งดงามที่สุดในประเทศไทย" Ginger bread building in Thailandภายในอาคารจะเป็นลักษณะโถงกว้าง ประดับไปด้วยภาพหินทรายที่ติดฝาผนัง และภาพประวัติความเป็นมาของกาดกองต้า รวมไปถึงประวัติของเมืองลำปาง แขกที่แวะมาดื่มกาแฟ ชา หรือขนม ที่ร้านสามารถชื่นชมความงามพร้อมซึบซับความเป็นมาของที่นี่เป็นของแถมกลับไปด้วย เราใช้เวลาอยู่ที่นี่นานมากค่ะ จิบกาแฟ รอเวลาตลาดเปิด คุยกันจนไม่มีอะไรจะคุย แต่อยู่ได้แบบไม่เบื่อเลย นั่งนานๆ ทางร้านเขาก็ไม่ว่า ที่นั่งก็เยอะด้วย เมนูแนะนำของร้าน คือชาพม่า เขาจะเสริฟคู่กับข้าวแต๋น (ขนมพื้นเมืองของที่นี่) ทานเข้ากันดีค่ะ พิกัดร้าน : ถนน ตลาดเก่า ตำบล สวนดอก อำเภอเมืองลำปางหลังจากที่เราดื่มด่ำกับบรรยากาศที่ร้านกาแฟ ตามด้วยเดินเล่นที่กาดกองต้า และหาของกินเล่น จนกระทั่งได้เวลาเดินทางกลับเชียงใหม่กันแล้ว แต่ขากลับเราไม่ได้นั่งรถไฟนะ แต่เป็นรถบัส ซึ่งราคาอยู่ที่ คนละ 92 บาท กลับรอบ 19:15 น. ถึง เชียงใหม่ 3 ทุ่มกว่า เป็นทริป 2 วัน 1 คืน ที่สุดแสนวิเศษจริงๆ เพราะเป็นทริปที่เราได้ผ่อนคลายกันจริงๆ รวมถึงได้ใช้ชีวิตในแบบช้าๆ ตามวิถีของคนชนบท และท่ามกลางเมืองแห่งวัฒนธรรม ท่ามกลางวิถีชีวิตล้านนาที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์และมีเสน่ห์ที่ยากจะลืม ขอบคุณเพื่อนร่วมเดินทางที่ร่วมแบ่งปันประสบการณ์นี้ด้วยกัน เป็นอีกทริปที่ประทับใจ และอยากส่งต่อความประทับใจนี้ให้กับผู้อ่านที่กำลังมองหาที่เที่ยวที่ทำให้คุณผ่อนคลาย ลืมความวุ่นวายในเมืองใหญ่ และสนุกไปกับช่วงเวลาดีๆ เช่นเดียวกันกับพวกเรา 3 คน ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน #กาดกองต้า #ลำปาง #สโลไลฟ์ #เที่ยวไปกินไป