วัดเป็นสถานที่พึ่งทางใจของพุทธศาสนิกชนมาตั้งแต่อดีตกระทั่งปัจจุบัน ในยามที่มีเรื่องทุกข์ใจหรือต้องการหาที่พึ่งทางใจ เราหลายคนไม่ลืมเข้าวัด รวมถึงวัดกลายเป็นที่พักผ่อน และท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งแต่ละวัดจะมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และพระพุทธรูปสำคัญประจำแต่ละวัดนั้น ๆ วัดสระปทุม หรือวัดสระ เป็นชื่อเรียกของวัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ซึ่งสร้างขึ้นในรัชสมัยของสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้โปรดเกล้าให้สร้างวัดขึ้นทางทิศตะวันตกของวังสระปทุม ในปี พ.ศ. 2400 และพระราชทานนามว่า วัดปทุมวนาราม เพื่อพระราชทานเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี พระอัครมเหสี ในพระองค์ เมื่อเข้าไปในบริเวณวัด เราจะเห็นสถานที่สำคัญของวัด เช่น พระวิหาร ซึ่งภายในพระวิหารหลังนี้ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ คือ พระเสริม ซึ่งเป็นพระพุทธรูป ในพระพุทธรูป 3 พี่น้อง คือ พระใส และพระสุก รวมทั้งในวิหารยังมี พระแสน พระพุทธรูปสำคัญที่อัญเชิญมาจากประเทศลาวด้วย เมื่อไหว้พระเสริม และพระแสนเรียบร้อย เดินต่อมาที่พระอุโบสถเพื่อไหว้พระสายน์ เป็นพระพุทธรูปที่ค้นพบในประเทศลาวอีกองค์หนึ่งเช่นกันกับพระแสน ไหว้พระภายในวิหาร และพระอุโบสถเสร็จ ต้องไม่ลืมที่จะมาไหว้องค์พระบูรพาจารย์ต่าง ๆ ที่ศาลาบูรพาจารย์เพื่อสร้างความเป็นสิริมงคลกับตนเอง หลังจากนั้นจึงไปต่อที่พิพิธภัณฑ์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่กรรมฐานสายวัดป่า ผู้ได้รับยกย่องเป็นบุคคลสำคัญของโลก สาขาสันติภาพ จากองค์การยูเนสโก ในวาระครบรอบ 150 ปีชาตกาล (20 มกราคม 2563) เพื่อกราบไหว้พระอัฐิธาตุขององค์ท่าน หลังจากนั้นเดินต่อเข้าไปอีกนิดจะเข้าสู่ศาลาพระราชศรัทธา ซึ่งเป็นศาลาที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริให้มีการสร้างสถานที่สำหรับการปฏิบัติธรรมของคนกรุงเทพฯ ภายในศาลาพระราชศรัทธามีพระบรมสาริกธาตุของพระพุทธเจ้า และพระสาวกที่สำคัญ รวมทั้งมีหลวงพ่อพระเสริมจำลองให้กราบไหว้ สร้างความสิริมงคล เป็นบุญกับตนเองอีก โดยในศาลาพระราชศรัทธานี้ เป็นสถานที่เหมาะสมสำหรับใครที่ต้องการมาปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ เดินจงกรมได้ แต่ขอให้ปิดวาจาเมื่ออยู่บนศาลานะครับ หรือถ้าหากใครไม่ต้องการปฏิบัติธรรมบนศาลาก็สามารถเข้าไปในสวนป่าเพื่อปฏิบัติธรรมและพักผ่อนก็เหมาะสมอย่างยิ่งเช่นกัน วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ได้ชื่อว่าเป็น วัดป่ากลางกรุง ด้วยวัตรปฏิบัติของพระภิกษุสงฆ์ที่ปฏิบัติตนเหมือนพระป่า อันเนื่องมาจากเป็นวัดสายธรรมยุติกนิกายตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 จึงเป็นอีกวัดหนึ่งที่น่าเลื่อมใส หากใครยังไม่รู้ว่าจะไปไหว้พระทำบุญไหนดี วัดแห่งนี้เป็นอีกแห่งหนึ่ง ที่อยากแนะนำให้มา คุณจะได้ทั้งบุญและความรื่นรมย์ในระหว่างการเที่ยววัดด้วย เรียกว่าครบรสเรื่องทางธรรมครับ ภาพโดย : ผู้เขียน