สวัสดีค่ะ วันนี้ชวนมาเดินเล่นใน สวนหลวง ร.9 ซึ่งเป็นสวนสาธารณะในกรุงเทพมหานครขนาดใหญ่ที่ประทับใจที่สุดที่เราเคยไปมาเลยค่ะภาพด้านล่างคือภายในสวนทั้งหมด เราต้องใช้เวลาถึง 2 วันกันเลยทีเดียว กว้างมาก ๆ ถึงจะเดินครบทั้งหมด แต่ละโซนไม่ซ้ำกัน ข้อแนะนำสำหรับเพื่อน ๆ ที่มาในตอนกลางวัน อย่างที่รู้แดดประเทศไทยช่างร้อนแรง เตรียมร่มหรือหมวก และอย่าลืมทาครีมกันแดดด้วยนะคะ เพราะถึงจะมีต้นไม้ตามรายทางตลอดแนว แต่ร่มไม้มาไม่ถึงตรงทางเดินและข้างในห้ามนำจักรยานเข้า อนุญาติเข้ามาวิ่งได้เท่านั้น ส่วนเรื่องห้องน้ำไม่ต้องกังวลจะมีกระจายอยู่ทั่วทั้งสวนค่ะ เมื่อพร้อมแล้วเรามาเดินไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าค่ะเราเข้ามาจากประตูมณฑารพ ทางถนนศรีนครินทร์ค่ะ เข้ามาทางซ้ายจะเป็นสวนวงกต ( เข้าไปแล้วหลงกันเลยทีเดียว หาทางออกไม่เจอค่ะ ) ข้างหลังจะเป็นสนามเด็กเล่นขนาดค่อนข้างใหญ่ มีผู้ปกครองและเด็ก ๆ เข้ามาใช้บริการตอนเย็นครึกครื้นมาก จนเราอยากเข้าไปเล่นบ้างเลย สวนสมุนไพรข้างในเป็นสวนสมุนไพรแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ เช่น มีโซนพืชมีพิษ พืชน้ำ และสมุนไพรไทย เป็นต้น อย่างตรงข้างสะพานสองฝั่งนั่นคือ พริกทั้งแนวค่ะทุกคน ด้านในจะมีป้ายเขียนชื่อพืชปักให้ความรู้เพื่อน ๆ อยู่ด้วย อ่านไปเพลิน ๆ ระหว่างเดินชมได้ความรู้อีกด้วย แถมท้ายสวนมีชิงช้าหลังใหญ่ นั่งพักตากลมเย็น ๆ ก่อนเดินทางได้ดีทีเดียวกัน สวนบัวซึ่งสวนบัวจะอยู่ติดกับสวนสมุนไพรด้านบนค่ะ ข้างในมีบัวสายพันธุ์ต่าง ๆ อยู่ในกระถางดินเผาตั้งกระจายอยู่ทั่วลาน แต่น่าเสียดายเรามาตอนที่ไม่ค่อยมีดอกบัวบานเลยค่ะ น้องมีแต่ใบ สวนจีนสวนจีนถือว่าเราชอบมาก ๆ ถึงจะเป็นพื้นที่ไม่มาก แต่บรรยากาศดีเหมือนอยู่จีนเลยค่ะ มีศาลาไม้สีน้ำตาลแก่ เดินต่อไปจะเจอกับบึงน้ำ และบ้านแบบสถาปัตยกรรมจีนโบราณ เหมาะกับการเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งเล่นชิลล์ ๆ หรือถ่ายรูปมาก เรามาอีกตอนวันที่ 2 แต่มีการใช้สถานที่ถ่ายทำอยู่จึงห้ามเข้า เรากะว่าจะมาถ่ายซ่อม เพราะภาพที่นำมาประกอบเป็นภาพที่เราถ่ายวันแรกที่ไม่มีแสงแล้ว ภาพออกมามืดมาก เราเอามาปรับแสงแทน เพื่อน ๆ ไปแล้วห้ามพลาดนะคะ สวนอังกฤษสวนจะมีด้วยกัน 2 ส่วน คือ ตรงที่มีศาลาสีฟ้าและรูปปั้นนางฟ้าสีขาวค่ะ เริ่มจากทางเข้าฝั่งนี้เดินผ่านซุ้มมาที่มองเห็นได้เด่นสะดุดตา คือศาลาหลังสีฟ้ากลางเก่ากลางใหม่ ข้างในมีเก้าอี้เข้ามานั่งหลบร้อนได้ร่มรื่น ล้อมรอบด้วยกำแพงอิฐขนาดกลาง แบ่งแยกกับบรรยากาศข้างนอกได้ดีมากแล้วด้านข้างจะมีทางเชื่อมไปอีกฝั่ง ซึ่งมีรูปปั้นนางฟ้าสีขาวตั้งอยู่โดดเด่นทามกลางสวนสวย เพียงก้าวเดียวเพื่อน ๆ ก็สัมผัสบรรยากาศที่แตกต่างทั้งสองได้แล้ว อาคารพันธุ์ไม้ทะเลทรายตอนเดินใกล้อาคารพันธุ์ไม้ทะเลทรายเข้ามาเพื่อน ๆ จะเห็นความแตกต่างจากต้นไม้รอบข้างได้อย่างสะดุดตามาก เพราะทางเดินรอบอาคารจะเป็นต้นไม้ที่มีใบน้อยแถมต้นใหญ่ และต้นไม้ที่เราไม่ค่อยรู้จักปลูกอยู่เต็มไปหมดเลยค่ะ ส่วนข้างในอาคารก็ชวนตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กันเลย โดยเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ 09.00 - 16.00 น. เท่านั้นค่ะ จะเป็นโดมกระจกทั้งหลัง มีต้นกระบองเพชรต้นเล็กหลายหลายพันธุ์ ผสมกับต้นกระบองเพชรใหญ่ และพืชเขตร้อนต่าง ๆ อาคารพันธุ์ไม้ในร่มอาคารพันธุ์ไม้ในร่มจะอยู่ใกล้กับอาคารพันธุ์ไม้ทะเลทรายค่ะ ตอนเดินเข้ามาจะเห็นศาลาสีขาวตั้งอยู่กลางน้ำสายเล็ก ๆ บรรยากาศร่มรื่น เย็นสบายคลายอาการร้อนที่เราเจอระหว่างเดินเข้ามาได้ดีมาก ภายในจะเป็นเฟิร์น กล้วยไม้ และพืชต่าง ๆ จัดผสมแสดงระหว่างทางเดินหินให้เราดูได้อย่างทั่วถึง ที่นี้เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่ 09.00 - 16.00 น. เช่นกันค่ะ หอรัชมงคลเราเดินทางมาถึงจุดเด่นที่เป็นสัญลักษณ์ของสวนหลวง ร.9 นั่นคือ " หอรัชมงคล " ซึ่งลักษณะอาคารเป็นรูปเก้าเหลี่ยมด้านเท่าประกอบด้วยสีทองและสีขาว ตัวอาคารไม่ได้เปิดให้เข้าค่ะ แต่จากที่เราเห็นตรงกลางจะเป็นห้องประชุมที่มีเก้าอี้ลดหลั่นกันเป็นขั้นบันไดไปตรงกลาง ส่วนรอบนอกที่เป็นกระจกรอบ ๆ มีด้วยกัน 9 ห้อง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ และสิ่งของในพระองค์ค่ะ และอย่างที่เพื่อน ๆ เห็นอาคารตั้งอยู่ริมน้ำ ตอนเข้าไปแล้วมาองออกมาวิวก็สวยมาก ๆ เช่นกันด้านหน้าหอรัชมงคล จะเป็น อุทยานมหาราช เป็นสนามขนาดใหญ่มีสระน้ำพุ 3 สระเรียงกันเป็นแนวตั้ง ตอนเราไปรอบ ๆ สระตกแต่งด้วยดอกดาวเรืองทั้งหมด แถมตอนเย็นมีคนมาวิ่งรอบสระนี้เยอะพอสมควรเลยค่ะ กระโจมแตรกระโจมสีขาวอันนี้เราเดินผ่านมาโดยบังเอิญ ตั้งอยู่ในสนามหญ้าที่เป็นสีเขียว ส่วนตัวพื้นเป็นหินอ่อน เรารู้สึกว่าสวยดีเลยถ่ายรูปเก็บไว้ แล้วมาดูที่ป้ายแนะนำทีหลัง เขียนว่าเป็นบริเวณใช้สำหรับเล่นดนตรีและการแสดงกลางแจ้งค่ะ พลับพลายอดตอนเดินผ่านมาเลยสะดุดตาเช่นเดิมอีกแล้วค่ะ เป็นศาลาที่ตั้งอยู่กลางน้ำหลังสีทอง แล้วที่ป้ายแนะนำบอกว่าจำลองแบบมาจากพระราชวังบางประอินที่สามารถเดินเข้าไปได้ แต่ปัจจุบันที่เราเห็นไม่มีทางเดินเข้าแล้วค่ะ บริเวณส่วนต่าง ๆ ในสวนระหว่างที่เราเดินชมส่วนต่าง ๆ ระหว่างทางเดินจะมีศาลาตั้งอยู่ตามทางให้เพื่อน ๆ ได้นั่งพักขาแน่นนอน นอกจากนี้ยังมีการปลูกดอกทานตะวันและดอกไม้หลายสีเต็มพื้นที่ขนาดใหญ่ให้แวะถ่ายรูปได้เพลิน ๆ อีกเยอะแยะเลยค่ะแล้วถ้าเพื่อน ๆ ไม่อยากเดินเยอะ หรือมีเด็ก หรือผู้สูงอายุ สามารถนำเสื่อมาปูนั่งริมน้ำตอนเย็น ๆ ก็ได้อีกบรรยากาศเหมือนกันค่ะ ปั่นเรือเป็ดสำหรับครอบครัว หรือคนมีคู่ นี้คือการนั่งชมวิวออกกำลังขากลางน้ำอีกแบบหนึ่ง จะมีที่ขึ้นเรือ 2 จุด คือตรงกลางสวน และตรงข้างร้าน S&P ค่ะ ตอนนี้เพื่อน ๆ คงอยากจะไปแล้ว สามารถติดตามข้อมูลได้จากข้างล่างนี้ได้เลยค่ะข้อมูลสถานที่เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 05.00-19.00 น. ( ยกเว้น อาคารพันธุ์ไม้ทะเลทราย และ อาคารพันธุ์ไม้ในร่ม เวลาเปิด - ปิด : 09.00-16.00 น. ) ค่าบริการ : 10 บาท / คน , มอเตอร์ไซต์ 5 บาท / คัน , รถยนต์ 10 บาท / คัน , รถตู้ 20 บาท / คัน , รถบัส 30 บาท / คันการเดินทาง : ขนส่งสาธารณะ ถนนศรีนครินทร์ 133 , 145 , 206 , 207 ( 3 -21 ) ลงป้ายห้างพาราไดซ์ พาร์ค ต่อด้วยวินมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ซอยศรีนครินทร์ 55แผนที่ : www.google.com/maps เว็บไซต์ : www.suanluangrama9.or.thหมายเหตุ : สามารถวิ่งออกกำลังกายได้ แต่ไม่อนุญาตให้ขี่จักรยานภายในสวนภาพโดย : ผู้เขียนวันที่ : 15-01-2022🏕 หาพิกัดที่เที่ยวใหม่ๆไปแล้วสนุกสุดฟินกับคอมมูนิตี้ เที่ยวไปให้สุด ได้เล้ย 🚐✨เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !