มีโอกาสได้ไปทำงานที่ มหาวิทยาลัยพะเยา จังหวัดพะเยา เป็นโอกาสดีมาก เนื่องจากภาคเหนือตอนนี้กำลังหนาวสุด ๆ เด็กใต้อย่างเรา ยากนักที่ได้มีโอกาสสัมผัสลมแบบนี้ รีบตอบรับ จองที่พัก และตั๋วเครื่องบินโดยพลัน แต่ทราบว่ามาพะเยาไม่มีสนามบิน จะต้องลงเครื่องที่เชียงราย แล้วต่อรถไปประมาณ 80 กว่ากิโลเมตร เส้นทางดีถนน 4 เลน ไม่ได้ขึ้นเขาอะไร ศึกษาข้อมูลดีแล้วก็จัดกระเป๋า รอเดินทางเลยจ้าาาา เราไปพะเยาล่วงหน้า 1 วันก่อนทำงานจริง เนื่องจากพะเยาเป็นจังหวัดใหม่มากสำหรับเรา ไม่มีข้อมูล และไม่เคยเดินทางมาก่อน แต่เพื่อนๆ เรานั้นไปพะเยากันมาแล้วเป็นส่วนใหญ่ ต่างเล่าให้ฟังว่าคนพะเยาใจดี อาหารอร่อย ที่เที่ยวชิคๆ เยอะนะ เดินทางไม่ลำบาก ได้ข้อมูลแค่นี้ มุมถ่ายภาพเพียบ อิอิ ชักจะอดใจรอไม่ไหวอีกแล้ว เช็คสภาพอากาศ กลางวันอากาศสูงสุด 35 องศา กลางคืน 10 องศา แม่เจ้าจะป่วยป่าวนะ คนทางเหนือเนี่ยเค้าแข็งแรงจริงๆ อากาศเปลี่ยนหลายองศาอย่างนี้เป็นเราเนี่ยป่วยแย่ เตรียมยาให้พร้อม เครื่องนุ่งห่มพร้อม เข้ายิมหน่อย จะได้แข็งแรงๆ แล้วก็เดินทางกันเลย ปล.มีเพื่อนทางเหนือบอกว่าช่วง ปลายมกราคม เนี่ยเค้าเผาป่ากันเยอะแล้วนะ เตรียมหน้ากากอนามัย มาด้วย หมอกควันเยอะเลย โอ๊ย วิงวอนได้ขอให้ช่วงที่เราไปหยุดเผาหน่อยนะ พลีสสสสสสส เมื่อถึงเชียงรายเราเช่ารถของบริษัท ชิค ซึ่งอยู่ในสนามบินเชียงราย รถใหม่เลยทีเดียว เราใช้บริการเจ้านี้ประจำค่ะ รถใหม่ บริการดี จากนั้นก็ขับรถไปพะเยา เส้นทางดีค่ะ แล้วก็นอนพักเอาแรง หนึ่งคืน อากาศหนาวจริงค่ะ ประมาณ 14 องศา เวลาประมาณ 3 ทุ่ม นะคะ ของวันที่ 20 มกราคม 2563 เช้าวันรุ่งขึ้นเราเดินทางกันตั้งแต่ตี 5 ค่ะ เพื่อจะไปภูลังกา เป้าหมายแรกของทริป ศึกษาเส้นทางแล้วไม่ได้ลำบากมาก วิวดี มีขึ้นเขาเล็กน้อย แต่ถนนสภาพดีค่ะ มีป้ายบอกทางตลอด เราแมพกับ google พาไปไม่หลงตั้งพิกัดไว้ที่ ร้าน Magic Mountain ร้านคาเฟ่และที่พักสุดคูลในย่านภูลังกาค่ะ เราทานกาแฟและมื้อเช้ากันที่นี่ ระยะทางจากตัวเมืองพะเยาประมาณ 50 กว่ากิโลเมตรค่ะ อยู่อำเภอปง ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงนิดๆ ขับช้าหน่อยเพราะไม่ชินทางและผ่านย่านชุมชน ถนน 2 เลน ต้องระวังกันหน่อยนะคะ ถึงร้าน Magic Mountain น้องที่ร้านให้บริการดีมากค่ะ บอกว่าที่เราเห็นไม่ใช่ทะเลหมอกนะคะ แต่เป็นควันจากการเผา ..... ด้วยปัญหาหมอกควัน ทำให้เขาต้องหยุดกิจการที่พัก เพราะไม่อยากให้ นักท่องเที่ยวมาแล้วผิดหวัง ไม่เจอทะเลหมอก แล้วยังต้องมาเจอหมอกควันอีก ปรบมือให้กับจรรยาบรรณอันดีของน้องเลยนะคะ น้องพยายามรักษาภาพลักษณ์ของพะเยาได้ดีเยี่ยมเลย พร้อมทั้งแนะนำให้เรามาท่องเที่ยวใหม่ช่วงปลายฝนต้นหนาวคือตั้งแต่เดือน มิถุนายน ถึง ธันวาคม อากาศดีไม่หนาวเกินไปทะเลหมอกเยอะมาก และไม่เจอควันจากการเผาป่าแน่นอน ตอนแรกเราก็ว่าไม่เห็นรู้สึกอะไรเลยควันเผาป่าจริงๆ เหรอ กรี๊ด ขึ้นรถเปิดแอร์รู้เรื่องผม เสื้อผ้าเหม็นควันมากกกกกกก แอบเป็นห่วงสุขภาพคนแถวนั้นเลย ยังไงก็ขอให้ค้นพบวิธีอื่นที่คุ้มทุน ไม่เป็นอันตราย เร็วๆนะคะ ควันพิษจากการเผาป่าอันตรายมากนะคะ พะเยาสู้ๆ ค่ะ ชิลกันกับอาหารเช้าแล้วเราก็เดินทางไปต่อที่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่า ไม่ไกลกันกับร้าน Magic Mountain เป็นทางกลับเข้าพะเยาค่ะ แต่ทางเลี้ยวขึ้นไปแคบ ถนนชำรุดเป็นระยะ รถสวนกันไม่ได้นะคะ ต้องใช้ความระวังเป็นพิเศษแต่เส้นทางที่เลี้ยวเข้าไปไม่กี่กิโลเมตรถ้าจำไม่ผิด 10 กิโลเมตรเองค่ะ เมื่อไปถึงเจอเจ้าหน้าที่บริการดี แต่เพิ่งจะทราบว่าถ้าศูนย์ไม่ได้เปิดบริการเป็นที่ท่องเที่ยวแล้วนะคะ เป็นศูนย์ที่มุ่งเน้นสนับสนุน และให้ความรู้ทางการเกษตร เรากะจะไปทานอาหารเที่ยง จ๋อยเลย แต่พี่เจ้าหน้าที่ใจดี แนะนำให้เราพักรถเข้าห้องน้ำ และเดินไปดูแปลงกุหลาบ แปลงพืชผลของชาวบ้านที่อยู่ถัดไป ประทับใจเลย จากนั้นเราก็เดินทางไปวัดนันตาราม อ.เชียงคำ ซึ่งอยู่ทางกลับพะเยาอีกเช่นกัน เราจ๋อยจาก ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่า แต่มีพี่นักเที่ยวคนอื่นที่จ๋อยเหมือนเราทำการบ้านมาดีมากมีแผนสำรองเค้าแนะนำให้เราไปวัดนี้ค่ะ ก่อนกลับเข้าพะเยา ก็ขับมาตั้งไกลเนอะ อ.ปง เนี่ย อยู่ๆ ให้ยิงกลับเลยก็ดูจะกระไร วัดนี้สวยมากค่ะสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง เข้าไปสัมผัสได้ถึงความเย็น สถาปัตยกรรมแบบพม่าที่อ่อนช้อยสวยงาม เข้าวัดทำบุญเสร็จแล้วท้องเริ่มหิวค่ะ เราไปทานอาหารเที่ยงกันต่อในตัวเมืองพะเยากันเลย ภายในวัดทำด้วยไม้สักสวยงามมากค่ะ สำหรับร้านที่เราไปทานมื้อเที่ยงกันในวันนี้ชื่อร้านว่า ร้านก๋วยเตี๋ยวอันเจริญ พะเยา ถ้าค้นดูจะมีชื่อร้านอันเจริญอยู่หลายร้านเลย เราก็แอบงง เช่นกัน แต่ก็ค้นหาร้านที่ใกล้ที่สุด ณ ที่เราอยู่ตอนนั้น เพราะหิวมากค่ะ ไปตะลอนกันมาตั้งตี 5 อาหารเช้าเราก็เบาหวิวไปสำหรับเด็กอ้วนอย่างเรา เลยมาเจอร้านนี้ติดถนนใหญ่เลยค่ะ หน้าร้านจะมีซุ้มที่ทำด้วยไม้สักต้นใหญ่ๆ เมืองนี้เค้ารวยไม้สักจริงๆ เห็นแล้วอะเมซิ่งมา เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ ไม่เคยเห็นไม้สักใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลยยยยยยยยย เมนูแนะนำนะคะ จริงๆแล้ว ชอบขนมจีบมากค่ะ เห็นเค้าสั่งกันทุกโต๊ะ สั่งตามระหว่างรอก๋วยเตี๋ยว สรุปเราสั่งไป 4 จานเลย ทาน 2 คนแม่นะคะ มันอร่อยจริงๆ แนะนำ แล้วก็สั่งลูกชิ้นหมูปิ้งมาด้วย เค้าดังลูกชิ้นอ่ะนะ แล้วก็สั่งก๋วยเตี๋ยวเนื้อทุกอย่างมา ตามด้วยน้ส้มคั้น มาทางเหนือเนี่ย ส้มเค้าดีค่ะ สั่งไปประทับใจทุกอย่าง ร้านใหญ่มาก ลูกค้าเยอะมาก แต่ไวนะคะ มีแพนด้าด้วยกะว่าเย็นนี้จะสั่งไปทานที่โรงแรม แต่ร้านเปิดแค่บ่ายสามเจ้า อดเลยเจ้า .... ท้องตึงหนังตาหย่อน พาคุณแม่มาด้วย ลากท่านมาตะลอนทั้งวันคงต้องพาท่านไปพักเบรกก่อน ประกอบกับวัยรุ่นอย่างเราตื่นเช้าตั้งแต่ตี 4 เป็นอะไรที่ค่อนข้างสาหัสเอาการ ขอเข้าที่พักงีบกลางวัน ด้วยอุณหภูมิกลางวันนั้นสูงถึง 35 องศา สู้ไม่ไหวจริง ขอไปอาบน้ำให้ตัวเย็นๆ นอนพักสักงีบ เปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำ แล้วค่อยมาตะลอนหาของกินเล่นต่อเย็นๆ เน้อ.... ได้เวลา 4 โมงเย็น อุณหภูมิลดลงเร็วมากค่ะ จาก 35 องศา 4 โมงเย็นเนี่ยเหลือ 27 องศา แม่เจ้า และยังลดต่อเรื่อยๆ เลยคว้าเสื้อแขนยาวติดไปในรถด้วย เป้าหมายเย็นนี้ของเราคือ เดินเล่นและหาของกินแถวกว๊านพะเยาค่ะ บรรยากาศตอนเย็นแถวกว๊านพะเยาดีมากเลยนะคะ มีครอบครัวมาทำกิจกรรมด้วยกันไม่ว่าจะมา ปิกนิค ออกกำลังกาย ติวยังมีเลยค่ะ ส่วนของกินเล่นเพียบ เราได้ถั่วใต้ดินต้มคุณแม่ชอบ ชมใหญ่ว่าต้มอร่อยไม่เค็ม สะอาดเม็ดโต ทางใต้ต้มเค็มกว่านี้มากกกก จากนั้นก็ไปทานอาหารที่ร้านกุ้งเต้นบ้านโบราณ อาหารแนะนำคือเห็ดหอมสดผัดน้ำมันหอย ปลาคังลวกจิ้ม เราสั่งมา 3 อย่างอีกอย่างคือหมูทอดกระเทียม แต่เราเค้าคลุกแป้ง ซึ่งทางนี้เค้าทานแบบนี้ เราไม่ค่อยถนัดเลย เลยของแนะนำ 2 รายการ อร่อยจริงๆ วัตถุดิบดี ราคาไม่สูงถ้าเทียบกับวัตถุดิบและบรรยากาศริมน้ำค่ะ แต่อาหารจานใหญ่อยู่นะคะ ทาน 2 คนกับแม่เหลือเลย ...... ทริปวันเดย์ของพะเยาวันนี้ขอจบกันที่ริมกว๊านพะเยานะคะ พะเยามีที่เที่ยวเยอะค่ะ แค่วันแรกก็อิ่มตามอิ่มใจขนาดนี้แล้ว พะเยาครั้งเดียวสำหรับเราไม่พอแน่นอน ขนาดทริปนี้เราอยู่พะเยาถึง 5 วัน เรายังรู้สึกว่ายังไม่พอ แน่นอนค่ะ ปลายฝนต้นหนาวครั้งต่อไป ต้องมาอีกแน่นอน เจ้าาาาา