ปี๊ชาลา ปี๊ชาลา เรียกได้ว่าทริปเที่ยวญี่ปุ่นที่แพลนมาล่าสุดเป็นการเติมฝันวัยเยาว์ให้กับตัวเองจริงๆ เราตั้งใจมาเที่ยวที่จังหวัดชิซูโอกะ (Shizuoka) เพราะเป็นจังหวัดบ้านเกิดของมารุโกะจัง Maruko-chan การ์ตูนที่เราดูบ่อยมากสมัยเป็นเด็กและยังดูมาเรื่อยๆ ถึงแม้จะเข้าสู่ช่วงวัยกลางคนแล้วก็ตาม จบทริปแล้วจึงอยากมาแบ่งปันประสบการณ์หลังจากเแวะมาเที่ยวที่ จิบิ มารุโกะจัง แลนด์ Chibi Maruko-chan Land ซึ่งตั้งอยู่ที่ห้าง S-Pulse Dream Plaza ชั้น 3 วิธีการเดินทางไป จิบิ มารุโกะจัง แลนด์ Chibi Maruko-chan Land ห้าง S-Pulse Dream Plaza จังหวัดชิซูโอกะ สารภาพเลยว่าตัวเรานั้นแอบหลงทางเล็กน้อยก่อนมาถึงห้าง S-Pulse Dream Plaza ค่ะ (5555+) เดินจนปวดขาเพื่อหารถบัสที่มาส่งตรงป้ายรถบัสละแวกใกล้เคียงกันกับห้าง ทั้งนี้วิธีการเดินทางมายัง Chibi Maruko-chan Land ที่ง่ายที่สุด คือ นั่งรถไฟ JR แล้วลงที่สถานี Shimizu Station เลือกทางออก East Exit จะมีรสบัสมาส่งฟรีที่ห้าง S-Pulse Dream Plaza (วันธรรมดามีรถบัสชั่วโมงละ 2 เที่ยว ส่วนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ รอบรถจะถี่กว่า) รีวิว จิบิ มารุโกะจัง แลนด์ Chibi Maruko-chan Land ห้าง S-Pulse Dream Plaza ตัวห้างที่นี่เก๋เลยค่ะ เขาจะเป็นห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่ริมน้ำ บรรยากาศในห้างอาจจะดูไม่จอแจเท่าห้างโตๆ บ้านเรา แต่บรรยากาศหลังห้างคือสวยงามมากๆ มีท่าเรือ มีเครื่องเล่นสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ส่วนวันที่เราไปเที่ยวมีเรือสำราญมาแวะจอดอยู่ด้วย วิวอลังการมากๆ เกริ่นนอกห้างไปเยอะแล้วเรามาเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น 3 เพื่อเริ่มเที่ยว Chibi Maruko-chan Land กันดีกว่า ขึ้นบันไดเลื่อนมาชั้น 3 จะเจอ Chibi Maruko-chan Land อยู่ฝั่งซ้ายมือเลยค่ะ สารภาพว่าทันทีที่หันไปเห็นรูปปั้นมารุโกะหัวใจเราเต้นโครมครามมาก มันเหมือนสิ่งเล็กๆ แต่มันดีต่อใจสุดๆ บอกตัวเองว่าเรามาถึงบ้านเกิดมารุโกะจังแล้วนะ ด้านหน้าสุดของ Chibi Maruko-chan Land จะเป็นโซนสินค้าต่างๆ ที่เป็นลิขสิทธิ์มารุโกะจัง มีของให้เลือกเยอะมากทั้งหนังสือ เสื้อผ้า อาหาร ขนม ของใช้ กิฟต์ช็อปต่างๆ ราคาเริ่มจากหลักร้อยเยน บอกเลยว่าถูกใจคนรักมารุโกะแน่นอน เดินไปจนสุดทางเราจะเจอจุดจำหน่ายตั๋วเข้า Chibi Maruko-chan Land ค่ะ ราคาสำหรับเด็กมัธยมจนถึงผู้ใหญ่ คนละ 1,200 เยน ส่วนเด็กอายุระหว่าง 3 ขวบ-วัยประถมศึกษา คนละ 700 เยน (อายุน้อยกว่านี้เข้าฟรี) เมื่อเราซื้อตั๋วเขาจะให้เล่ม Passport สีแดงสดที่ด้านหน้าพิมพ์ลายมารุโกะจังมาด้วยคนละ 1 เล่ม เพื่อให้เราไปล่าแสตมป์ที่ด้านในพิพิธภัณฑ์และเก็บไว้เป็นที่ระลึก บรรยากาศด้านในเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ fc มารุโกะจะต้องรู้จักแทบทุกซีน อย่างภาพนี้เป็นตอนที่บ้านมารุโกะทำน้ำแข็งไสกินกันเอง ซีนประกอบเพลงมารุโกะจัง ที่เป็นฉากนั่งรถไฟ มีกระต่ายและหมีตัวน้อยๆ ร่วมด้วย ตรงนี้จะเป็นกล่องที่รางล้อด้านล่างจะหมุนๆ โซนที่เราชอบที่สุดในพิพิธภัณฑ์เห็นจะเป็นโซนแสดงผลงานการวาดของอาจารย์โมโมโกะ ซากุระ ผู้ให้กำเนิดเจ้าหนูมารุโกะ โดยเป็นการนำภาพร่างต่างๆ ที่อาจารย์ลงมือวาดด้วยตัวเองมาจัดแสดงให้เราดู นอกจากนี้ยังมีสินค้า ของที่ระลึกชิ้นสำคัญต่างๆ ที่น่าสนใจ ดูแล้วแฮปปี้มากๆ โซนล่าแสตมป์ กิมมิกเล็กๆ ที่น่าสนใจ ทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่แบบเราๆ เอ็นจอยกับการเดินเที่ยวเล่นไปเรื่อยๆ เพื่อล่าแสตมป์ให้ครบ มีโซนศาลเจ้าเล็กๆ พร้อมจุดเสี่ยงเซียมซีด้วยค่ะ เราเห็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเขาโยนเหรียญลงกล่องเพื่อขอพรกันจริงๆ ด้วย เราก็เลยไม่พลาดที่จะทำด้วยเหมือนกัน มีโซนห้องเรียนของมารุโกะพร้อมอาจารย์ มีโต๊ะนักเรียน กระเป๋านักเรียน เปียโน ตู้เก็บรองเท้าแบบสมจริงสุดๆ อีกโซนที่เรามองว่าน่ารักเหมือนกันคือ ห้องจำลองของแต่ละตัวละครค่ะ มีห้องที่มารุโกะและพี่สาว (ซากิโกะ) ใช่ร่วมกัน โดยฝั่งของพี่สาวจะสะอาด ดูเป็นระเบียบมากๆ ส่วนฝั่งมารูโกะคือเละเทะ เหมือนในการ์ตูนเลย มีมุมนั่งเล่นกลางบ้านกับคุณพ่อของมารุโกะ ที่กำลังกรึ่มๆ ได้ที่ และมีห้องครัวที่คุณแม่กำลังเช็กรายการอะไรสักอย่าง (หรือกำลังอ่านผลสอบของมารุโกะจังอยู่ >__< 555+) ตอนที่เราเข้าไปช่วงประมาณบ่ายสาม จะมีชุดมาสคอตมารุโกะจังและทามะจังมายืนถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวด้วย พนักงานตรงจุดขายตั๋วน่ารักมากๆ ที่ชวนเรามาต่อแถวเพื่อรอถ่ายภาพกับมาสคอตก่อนจะหมดช่วงเวลา ช่วงที่ไปคนไม่เยอะมากเลยรอไม่นาน ได้ถ่ายรูปกับมาสคอตแล้วใจฟูมากๆ มาสคอตดีดสุดๆ กระโดดดุ้กดิ้กๆ ด้วยกันไม่มีหยุด ส่วนเราก็ได้แต่ยิ้มแก้มปริ ส่วนตัวแล้วการมาเที่ยว จิบิ มารุโกะจัง แลนด์ Chibi Maruko-chan Land ครั้งนี้ถือว่าประทับใจมากๆ เลยค่ะ ได้มาเจองานต้นฉบับของอาจารย์โมโมโกะ ได้มาซึมซับ Vibe ดีๆ ที่เราคุ้นเคยเรียกได้ว่าเติมเต็มฝันสุดๆ พอเดินเล่นเสร็จก็แวะซื้อสินค้าน่ารักๆ ที่โซนขายของด้านหน้า เสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นที่ท่าเรือหลังห้าง ยิ่งช่วงเย็นๆ ที่แดดร่มลมตก อากาศหนาวๆ กำลังดีวิวสวยสุดๆ ส่วนใครที่หิวก็ไม่ต้องกลัวไปเพราะมีร้านอาหารให้เลือกเยอะมากๆ ส่วนวิธีเดินทางกลับก็มีรสบัสฟรีจากห้างไปส่งที่สถานีรถไฟ หรือจะเดินไปสถานีรถไฟ Shimizu Station ระยะทางกิโลกว่าๆ เพื่อกินลมชมวิวไปด้วยก็ดีเหมือนกัน พิกัด จิบิ มารุโกะจัง แลนด์ Chibi Maruko-chan Land ห้าง S-Pulse Dream Plaza ภาพหน้าปก และ ภาพในเนื้อหาทั้งหมด โดย ผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !