“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” วันนี้เสาร์ที่ 13 สิงหาคม 2564 สบาย ๆ ยามเช้าเพราะหนุ่ม-สุทนนั่งเขียนเล่าเรื่องให้อ่านเช่นเดิมครับ วันนี้พาไปรู้จักเรื่องราวดี ๆ ของ วัดคฤหบดี ซึ่งเป็นพระอารามหลวงชั้นตรีตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้ ๆ สะพานพระราม 8 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานครวัดคฤหบดี พระอารามหลวงภายในวัด ร่มรืน เป็นระเบียบสวยงามผมขอเขียนเล่าเรื่องราวความเป็นมาของ "วัดคฤหบดี" และ "องค์หลวงพ่อแซกคำ" โดยให้ท่านผู้อ่านได้รับข้อมูลแบบเข้าใจง่าย ๆ ครับ เรามาเริ่มต้นกันที่เรื่องที่ 1 การจัดสร้างวัดคฤหบดี วัดนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2369 ครั้งนั้นท่านพระยาราชมนตรีบริรักษ์หรือท่านภู่เป็นต้นตระกูลภมรมนตรีเมื่อสร้างวัดแล้วเสร็จก็ทูลเกล้าถวาย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ แล้วพระองค์ท่านทรงโปรดฯ พระราชทานชื่อว่า "วัดคฤหบดีอาวาส" และทรงโปรดฯ พระราชทานองค์พระพุทธรูป "หลวงพ่อแซกคำ" ให้เป็น องค์พระประธานในพระอุโบสถ องค์หลวงพ่อแซกคำ พระประธานในพระอุโบสถเรื่องที่ 2 องค์พระพุทธรูปหลวงพ่อแซกคำมาจากไหน? ตามประวัติความเป็นมาของพระพุทธรูปองค์นี้สร้างโดยพระนางจามเทวีกษัตริย์แห่งอาณาจักรแผ่นดินหริภุญไชยหรือลำพูนในพุทธตวรรษที่ 13 หรือเมื่อ 1,200-1,300 ปี กล่าวว่า พระนางจามเทวีทรงรำลึกถึงพระราชนกและพระราชชนนีจึงทรงโปรดฯ ให้จัดสร้างหรือหล่อองค์พระพุทธรูปขึ้นมา 3 องค์ คือของพระราชบิดา ของพระราชมารดาและของพระนางจามเทวี พอประกอบพระราชพิธีก็ทรงตั้งจิตอธิษฐานเหล่าเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าพระพุทธรูปองค์ใดงดงามที่สุดขอให้แสดงปาฏิหาริย์ ด้วยเหตุนี้ในมณฑลพิธีจึงเกิดควันสีขาวปกคลุมแล้วพระพุทธรูปองค์หนึ่งได้แทรกมาอยู่ตรงกลางขององค์พระพุทธรูปสององค์ด้วยเหตุมหัศจรรย์นี้พระนางจามเทวีทรงประทานนามว่า "หลวงพ่อแซกคำหรือพระแซกคำ" เป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยทองคำนพคุณศิลปะสมัยเชียงแสนหน้าตักกว้าง 46 เซนติเมตร ส่วนสูง 65 เซนติเมตร รูปหล่อพระนางจามเทวี ผู้สร้างหลวงพ่อแซกคำเรื่องที่ 3 เมื่อหมดยุคสมัยอาณาจักรแผ่นดินหริภุญไชยแล้วเพราะว่าพญามังรายมหาราชหรือพ่อขุนมังรายเมื่อจัดสร้างนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่แล้วได้รวบรวมเป็นอาณาจักรล้านนาแล้วเข้ามาสมัยสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราชได้ครองแผ่นดินอาณาจักรล้านนาในปี พ.ศ. 2089-2090 ประมาณ 1 ปี ก็ต้องเสด็จไปครองราชย์ ณ หลวงพระบางหรือกรุงศรีสัตนาคนหุต อาณาจักรแผ่นดินล้านช้างด้วยเหตุผลเนื่องจากพระราชบิดาเสด็จวรรคตอย่างกระทันหันและสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราชได้ อัญเชิญพระพุทธรูปจากนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ไปด้วย 3 องค์คือองค์พระแก้วมรกต องค์พระพุทธแซกคำและองค์หลวงพ่อพระบาง เพื่อประดิษฐานที่หลวงพระบางอาณาจักรล้านช้าง ต่อมาเกิดสงครามกับพม่าก็ย้ายมา ณ กรุงเวียงจันทน์และอัญเชิญพระพุทธรูป 3 องค์มาประดิษฐานด้วย องค์หลวงพ่อแซกคำเรื่องที่ 4 เข้ามาสมัยกรุงธนบุรีปี พ.ศ. 2321 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีหรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงโปรดฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกนำทัพไปกรุงเวียงจันทน์แล้วอัญเชิญองค์พระแก้วมรกตและหลวงพ่อพระบางมาประดิษฐานในพระอุโบสถวัดแจ้งหรือทุกวันนี้คือวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก ต่อมาสมัยกรุงรัตนโกสินทร์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงโปรดฯ ให้อัญเชิญองค์หลวงพ่อพระบางกลับคืนกรุงเวียงจันทน์ สำหรับองค์พระแก้วมรกตทรงโปรดฯ ให้อัญเชิญประดิษฐานวัดพระศรีรัตนศาสดารามหรือวัดพระแก้วในพระบรมมหาราชวัง ภายในวัดจัดสัดส่วนเป็นระเบียบสวยงามเรื่องที่ 5 สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดฯ ให้เจ้าพระยาราชสุภาวดีหรือพระยาบดินทรเดชานำทัพไปกรุงเวียงจันทน์เพื่อปราบปรามกบฏแล้วให้จับเจ้าอนุวงศ์ผู้ครองกรุงเวียงจันทน์มากรุงรัตนโกสินทร์ครั้งนั้นได้ อัญเชิญองค์พระพุทธรูปหลวงพ่อแซกคำมาประดิษฐานที่วัดแจ้งหรือกาลเวลาต่อมาคือวัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร ภายในวัดจัดสัดส่วนเป็นระเบียบสวยงามเรื่องที่ 6 พอท่านพระยาราชมนตรีบริรักษ์หรือท่านภู่ต้นตระกูลภมรมนตรีสร้างวัดเสร็จ แล้วทูลเกล้าถวายแด่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านทรงพระราชทานนามว่า วัดคฤหบดีอาวาส แล้วทรงโปรดฯ พระราชทาน "องค์หลวงพ่อแซกคำ" ให้ประดิษฐานเป็นองค์พระประธานในพระอุโบสถ เรื่องที่ 7 องค์พระพุทธรูปหลวงพ่อแซกคำ ปางมารวิชัยขัดสมาธิราบเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามมาก ๆ ประดิษฐานบนบัลลังก์ดูเด่นสง่างามด้านซ้ายและด้านขวาคือองค์พระโมคคัลลานะและพระสารีบุตร องค์หลวงพ่อพระแซกคำ พระโมคคัลลานะและพระสารีบุตรองค์หลวงพ่อแซกคำ ชาวบ้านหรือผู้ที่ศรัทธามากราบขอพร โดยส่วนใหญ่แล้วจะขอพรเรื่องต่าง ๆ เช่น สอบเข้ารับราชการทหารสามเหล่าทัพ ทหารเรือ ทหารอากาศและทหารบกหรือข้าราชการตำรวจ ถ้าหากได้สมความปรารถนาแล้วจะแก้บนด้วยส้มตำปูปลาร้า ข้าวเหนียวและไก่ย่างตามความเชื่อ เพราะหลวงพ่อแซกคำท่านมาจากสปป.ลาวหรือกรุงเวียงจันทน์ครับ เมื่อท่านผู้อ่านได้รับทราบถึงเรื่องราวและความเป็นมาของวัดแล้วเมื่อเดินทางเข้ามาภายในวัดเราจะเริ่มต้นที่ จุดที่ 1 พระอุโบสถ กราบขอพร "หลวงพ่อแซกคำ" ขอพรให้ตัวเองและครอบครัวมีความสุข ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง หรือขอพรได้ตามใจปราถนาของแต่ละท่านได้เลยครับองค์หลวงพ่อพระแซกคำ พระประธานในพระอุโบสถจุดที่ 2 ด้านหน้าพระอุโบสถมีใบเสมาคู่ หาชมได้ยากในสมัยโบราณถือว่าเป็นพระอารามหลวงใบเสมาคู่ ในสมัยโบราณเชื่อว่าเป็นพระอารามหลวงจุดที่ 3 ออกมานอกนอก ด้านหน้าพระอุโบสถประดิษฐานองค์พระสีวลี องค์ใหญ่ดูน่าเคารพบูชาอย่างยิ่งครับ โดยทั่วไปแล้วการขอพรองค์พระสีวลีจะขอให้มีโชคมีลาภ ขอเรื่องการการ การเงิน ขอพรกันได้ครับ องค์พระสีวลีจุดที่ 4 ด้านหน้าพระวิหารประดิษฐาน "รูปหล่อพระนางจามเทวีกษัตริย์" แห่งอาณาจักรหริภุญไชยหรือลำพูนที่ทรงโปรดฯ ให้จัดสร้างองค์หลวงพ่อแซกคำ ตรงนี้ผู้อ่านสามารถกราบบูชาขอพรพระนางจามเทวีได้ครับ (วิหารปิด งดเข้าภายใน)รูปหล่อพระนางจามเทวีกษัตริย์จุดที่ 5 มณฑปประดิษฐานรูปหล่อหลวงปู่ทวด และอดีตเจ้าอาวาสวัดคฤหบดีมณฑป อดีตเจ้าอาวาสวัดคฤหบดีหลวงปู่ทวด และ อดีตเจ้าอาวาสวัดคฤหบดีจุดที่ 6 ริมแม่น้ำเจ้าพระยามีองค์พระธาตุเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ริมน้ำลมพัดเย็นสบายอากาศสดชื่นมากครับ องค์พระธาตุเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุวิวทิวทัศน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สวยงาม ลมเย็นสบายส่วนด้านข้างของวัดคฤหบดี หนาแน่นด้วยชุมชนทางเข้าวัดจึงเป็นซอยเล็ก ๆ แต่เดินทางผ่านไปได้ครับ ทุกวันนี้ชุมชนยังคงใกล้ชิดกับวัด โดยทุกวันสำคัญผู้คนในชุมชนยังนิยมเข้าวัดทำบุญกันอยู่เป็นประจำ สำหรับช่วงนี้ที่มีการแพร่ระบาดของเชื่อโรคโควิด 19 ทางวัดยังคงเปิดให้เข้าได้ตามปกติแต่ต้องถือปฏิบัติตามระเบียบสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง อย่างเคร่งครัดครับ น่าท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้และขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดคฤหบดีพระอารามหลวงชั้นตรี สำหรับการเดินทางไปวัดคฤหบดีมาใต้สะพานพระราม 8 เข้าซอยจรัญสนิทวงศ์ 44 เป็นซอยเล็ก ๆ ไม่มีรถเมล์ประจำทางสะดวกที่สุดใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือรถตู้เช่าท่องเที่ยวก็ได้ทางวัดมีสถานที่จอดรถยนต์สะดวกสบายครับ “เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป...กับ...ผมหนุ่ม-สุทน” ขอบคุณและสวัสดีครับถ่ายภาพเก็บทุกความประทับใจ ริมน้ำเจ้าพระยาวิวทิวทัศน์สวยงามเรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์แฟนเพจเฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/#ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. #ติดต่อวิทยากรด้านการท่องเที่ยวได้ที่ 0869992756#เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel #Tourism local life ชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวไทยยั่งยืน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !