สวัสดีผู้อ่านทุกท่านด้วยจ้า บทความนี้ผู้เขียนได้ไปที่นิทรรศการ The Color Blue Dream จัดอยู่ที่ 333Gallery นั่นเอง การเดินทางก็ไม่ได้ยากเลย ครั้งนี้ผู้เขียนได้ใช้รถไฟฟ้าในการเดินทางเช่นเคย ลองไปดูกันว่าในบทความนี้มีอะไรบ้าง ไปดูกันเริ่มต้นผู้เขียนจะนั่ง Airport Rail Link ไปที่สถานีพญาไทและสถานีพญาไทก็สามารถไปนั่งรถไฟฟ้า BTS ได้ด้วย ค่าโดยสารจะอยู่ที่ 25 บาทผู้เขียนนั่งรถไฟฟ้า BTS พญาไทเพื่อไปลงสถานีตากสินนั่นเอง ถ้ามาถึงสถานีสยามแล้วหากตรงหน้าผู้อ่าน คือ สยามพารากอน ตรงที่มีผู้คนรอขึ้นรถอยู่ ให้ผู้อ่านเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟฟ้าอีกฝั่งนึงได้เลย เมื่อมาถึงสถานีสยาม ซึ่งจะเป็นฝั่งที่ตรงกับสยามสแควร์นั่นเอง ซึ่งจะสามารถไปลงสถานีตากสินได้ และก็ราคาจาก BTS สถานีพญาไท ถึง สถานีสะพานตากสิน ค่าโดยสารจะอยู่ที่ 47 บาท ส่วนนี้แล้วแต่ว่าผู้อ่านนั่งจากสถานีไหนด้วยเน้อ ราคาจะแตกต่างกันเมื่อผู้อ่านลงจาก BTS สะพานตากสินก็ลงมาแล้วก็ให้สังเกตตรงฝั่งที่มีร้าน Bearhouse อยู่ให้เดินไปแล้วเลี้ยวซ้ายตรงไปจะเจอห้างโรบินสัน ผู้เขียนลืมถ่ายมาขออภัยด้วย แต่เดินไปเรื่อยๆ ก็จะผ่านโรงเรียนอัสสัมชัญและก็เดินตรงต่อไป จะพบกับที่ทำการไปรษณีย์กลางใหญ่ๆ ที่เหมาะกับการถ่ายรูป และผู้อ่านจะเจอกับป้ายที่ชื่อว่า "เจริญกรุง 32" ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไประหว่างทางจะมีร้านอาหารต่างๆ อยู่ข้างๆ ซึ่งเดินเลี้ยวขวาจะเจอกับแวร์เฮาส์ 30 ให้เข้าไปข้างในได้เลยเข้าไปจะเจอป้ายที่บอกว่า 333Gallery ให้เข้าไปได้เลย ผู้เขียนเข้าไปก็ได้ถามกับพี่ๆ ที่อยู่ตรงเคาน์เตอร์แล้วว่าสามารถเข้างานได้เลย ไม่ต้องลงทะเบียน ไม่เสียเงิน ภายในงานเขาจะมีกฎว่าห้ามนำกล้องถ่ายรูปเข้าไป ห้ามใช้แฟลช ก็ทำตามกฎของเขาด้วยเน้อภายในงานก็จะมีรูปภาพที่เต็มไปด้วยการใช้โทนสีฟ้าทุกภาพเลย โดยภาพนี้ผู้เขียนรู้สึกชอบมากที่สุด ซึ่งผู้เขียนมองว่าเราสามารถมองได้ไม่เหมือนกัน ผู้เขียนมองเป็นน้ำตกที่ตัวคลื่นน้ำกำลังตกลงมา หรือ จะมองเป็นคลื่นทะเลที่สะท้อนกับพื้น เป็นภาพที่สวยมากจริงๆ มีหลายภาพที่ผู้เขียนอยากให้ผู้อ่านมาดูด้วยตัวเองจะได้ความรู้สึกที่แตกต่างกันมากมายรวมไปถึงความหมายของสีฟ้าที่มีอยู่เยอะมากๆ จนผู้เขียนคาดไม่ถึง เช่น สีฟ้าแทนความบริสุทธิ์ สีฟ้ามักจะคู่กับน้ำ อยากให้ผู้อ่านเข้ามาค้นพบด้วยตัวเองตรงนี้ผู้เขียนอยากจะแนะนำเป็นอย่างมาก ตรงลูกศรที่ชี้ด้านซ้ายก็คือ ภาพประกอบด้านบนของบทความที่ผู้อ่านได้เห็นนั่นเอง แต่อีกฝั่งนึงทางซ้ายก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันมากเลย ผู้เขียนเข้าไปก็พบกับความแตกต่าง เอาตรงๆ ผู้เขียนเข้าไปก็แอบกลัวอยู่นะ เพราะ ภายในมืดมาก แต่ก็ได้ความรู้สึกที่แตกต่างกันมาก เช่น เมื่อแสงกระทบกับภาพจะเป็นยังไง และเมื่อไม่มีแสง กลายเป็นมืดทั้งหมดจะเป็นยังไง นี่เป็นจุดนึงที่ผู้เขียนอยากให้ผู้อ่านลองเข้าไปดูมากๆ แนะนำเลย รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนสำหรับผู้เขียนตรงนี้เมื่อผู้อ่านเข้าไปจะพบกับสินค้าที่วางขายอยู่นั่นเองสินค้าภายใน 333Gallery เต็มไปด้วยสินค้าที่เต็มไปด้วยสไตล์ศิลปะที่ไม่ซ้ำใครเลย ใครชอบสไตล์งานศิลปะแบบไหนก็เข้าไปเลือกกันได้เลยผู้เขียนได้เลือกซื้อเป็นสติ๊กเกอร์ที่ลายเส้นจะเป็นสไตล์แบบญี่ปุ่น สไตล์อนิเมะที่ผู้เขียนชอบ ราคาจะอยู่ที่ 60 บาท ซึ่งสินค้าจะมีราคาที่แตกต่างกัน ผู้เขียนก็เลือกซื้อเท่าที่งบของผู้เขียนมี หลังชมนิทรรศการก็ลองเข้ามาดูสินค้าได้เน้อ เผื่อถูกใจจะได้ซื้อกลับบ้านด้วยต้องบอกว่าก่อนที่ผู้เขียนจะมาชมนิทรรศการนี้ ผู้เขียนก็ไม่ได้รู้มาก่อนด้วย แต่ก็ไปเจอมาก็เห็นว่าน่าสนใจที่จะลองไปเยี่ยมดู ก็ถือว่าคุ้มค่ามากกับการที่ได้มา ไม่ต้องเสียเงิน สามารถเข้าไปได้เลย มาชมผลงานศิลปะที่มีสีฟ้าเป็นจุดขายหลักภายในงานนี้ ผู้คนที่เข้ามาก็น้อยพอควร อาจเพราะเป็นวันธรรมดาด้วย แต่ก็มีผู้คนที่เข้ามาตลอด งานจะจัดถึงวันที่ 27 สิงหาคมนี้ และก็หยุดทุกวันจันทร์ เปิดเวลา 11.00 น.-18.00 น. ที่แวร์เฮ้าส์ 30 ตรงป้ายที่เขียนว่า 333Gallery เข้ามาสัมผัสบรรยากาศของงานศิลปะที่ใช้สีฟ้าเป็นสีหลักของงานได้เน้อสถานที่จัดงาน: 333Galleryภาพปกออกแบบด้วย Canva ส่วนภาพประกอบผู้เขียนถ่ายเองจ้าช่องทางการติดตามของผู้เขียนFacebook: AmmarinJTwitter (X): @AmmarinJ แชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “ท่องเที่ยว”