สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปสถานที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดแห่งนึงของประเทศเมียนมา หรือประเทศพม่านั่นเอง เริ่มจากผมได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ประเทศพม่า โดยผมนั้นได้จ้างไกด์นำเที่ยวส่วนตัวซึ่งทางไกด์ได้แนะนำให้ผมไปที่ พระธาตุอินทร์แขวน และได้บอกว่าถ้ามาที่ประเทศพม่าแล้วไม่ได้ไปที่พระธาตุอินทร์แขวน ก็เหมือนมาไม่ถึงประเทศพม่า ผมจึงได้ตกลงให้ทางไกด์พาไป ตัวผมนั้นได้พักอยู่ในเมืองย่างกุ้ง ซึ่งการเดินทางไปนั้นทางไกด์บอกว่าต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง และยังต้องต่อรถขึ้นเขาไปอีกครึ่งชั่วโมงแล้วเดินต่อไปยังพระธาตุอีก เพราะฉะนั้นผมจึงออกเดินทางจากเมืองย่างกุ้งตั้งแต่เวลา ตี 5 ครึ่ง ออกจากเมืองย่างกุ้งไปประมาณ 3 ชั่วโมงก็จะพบกับสะพานข้ามแม่น้ำสะโตง เป็นแม่น้ำที่มีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ยิงพระแสงปืนข้ามลำน้ำสะโตงไปถูกแม่ทัพพม่า ที่มาภาพ Tae Rattawat ( ผู้เขียน ) จากแม่น้ำสะโตงมาอีกครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงทางขึ้นพระธาตุ เมื่อถึงแล้วไกด์ก็พาไปขึ้นรถที่จะใช้เดินทางขึ้นไปบนพระธาตุอินทร์แขวน ลักษณะของรถนั้นเหมือนรถขนหมู ทำให้หลาย ๆ คนที่เคยได้มา เรียกกันติดปากว่ารถขนหมู ค่าบริการนั้นคนละ 2,500 จ๊าด การนั่งรถจะให้นั่งเป็นแถว ๆ แถวละ 6 คน ถือว่าแน่นเลยทีเดียว เส้นทางในการขึ้นไปค่อนข้างชัน คล้าย ๆ กับทางขึ้นภูทับเบิกของบ้านเรา ใช้เวลาขับขึ้นไปประมาณ 30 - 45 นาที ที่มาภาพ Tae Rattawat ( ผู้เขียน ) ที่มาภาพ Tae Rattawat ( ผู้เขียน ) ที่มาภาพ Tae Rattawat ( ผู้เขียน ) ขึ้นมาได้ประมาณครึ่งทางถ้าใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศไม่อยากนั่งรถแล้ว สามารถลงรถแล้วไปนั่งกระเช้าขึ้นไปแทนได้ ซึ่งสำหรับใครที่จะนั่งกระเช้า ก็จะเสียค่ารถที่ขึ้นมาแค่ 1500 จ๊าด แต่ก็ต้องมาจ่ายค่านั่งกระเช้าเพิ่มอีก 7,000 จ๊าด ข้อดีของการนั่งกระเช้าคือได้ชมวิวที่สวยงาม ไม่ต้องทรมานนั่งเบียด ๆ ไปอีกครึ่งทาง และใช้เวลาอีกเพียงแค่ 10 นาทีก็จะถึง ซึ่งจะเร็วกว่าการนั่งรถขึ้นไป ที่มาภาพ Tae Rattawat ( ผู้เขียน ) เอาหล่ะครับ เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนแล้ว ยังคงต้องเดินเท้าไปยังพระธาตุอีกประมาณ 1 กิโลเมตร สำหรับใครที่ไม่อยากเดิน จะมีบริการเสลี่ยงไม้ไผ่ ที่ชาวบ้านนั้นนำมาให้บริการ ซึ่งก็จะมีค่าบริการเล็ก ๆ น้อย ๆ เมื่อเดินไปอีกนิดก็จะมีไกด์อาสา ซึ่งเป็นเด็ก ๆ พม่า เดินตามคอยช่วยเหลือแนะนำ ซึ่งเราสามารถให้เงินเค้าเท่าไหร่ก็ได้ อ่อลืมไปเลยสำหรับการเข้าไปยังพระธาตุอินทร์แขวนจะต้องเสียค่าเข้าอีก 10,000 จ๊าด และจะได้ป้ายห้อยคอเพื่อบ่งบอกว่าเป็นนักท่องเที่ยว ตาม 2 ข้างทางระหว่างทางเดินไปพระธาตุนั้นจะมีชาวบ้านเอาของมาขายตลอด 2 ข้างทาง ไม่ต้องกลัวว่าเดินเหนื่อยแล้วจะไม่มีอะไรกินนะครับ เพราะมีให้เลือกเยอะมาก รวมถึงโรงแรมที่พักต่าง ๆ ก็มีเยอะเช่นกัน แต่ราคาที่พักบนนี้อาจจะมีราคาที่สูงกว่าด้านล่าง ที่มาภาพ Tae Rattawat ( ผู้เขียน ) การเดินไปพระธาตุ 1 กิโลเมตร จะมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม แม้แดดจะร้อนแต่เมื่อเวลาไปเดินแล้วกลับมีลมที่เย็นสบาย ยิ่งถ้าได้มาช่วงหน้าหนาวด้วยละก็คงฟินมาก ๆ เมื่อเดินไปถึงพระธาตุจุดสังเกตุจะเห็นซุ้มทางเข้าใหญ่ ๆ ที่มีสิงห์ตัวใหญ่ 2 ข้าง จุดนี้จะต้องถอดรองเท้าและฝากรองเท้าเอาไว้ เนื่องจากเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จึงไม่อนุญาตให้มีการใส่รองเท้าเดินเข้าไป ที่มาภาพ Tae Rattawat ( ผู้เขียน ) ที่มาภาพ Tae Rattawat ( ผู้เขียน ) เมื่อเข้าไปถึงพระธาตุอินทร์แขวนแล้ว จะมีซุ้มดอกไม้ธูปเทียนและทอง ที่จะนำเข้าไปปิดที่พระธาตุอยู่บริเวณลานกว้าง ๆ เมื่อได้ธูปเทียนและทองมาแล้วก็ให้ไปจุดธูปไหว้บริเวณหน้าพระธาตุ หลังจากนั้นก็เข้าไปปิดทองที่พระธาตุ แต่สำหรับคุณผู้หญิงทั้งหลายจะไม่สามารถเข้าไปปิดทองได้นะครับ เพราะเค้าอนุญาตให้ผู้ชายได้เข้าไปเท่านั้น คนที่เป็นผู้หญิงจึงต้องอธิฐานด้านนอกแล้วก็ฝากทองให้ผู้ชายเข้าไปปิดให้ ที่มาภาพ Tae Rattawat ( ผู้เขียน ) น่าเสียดายมาก ๆ ในช่วงที่ผมไปนั้น พระธาตุอินทร์แขวนกำลังรีโนเวทพอดี ซึ่งถ้ามาในช่วงที่รีโนเวทเสร็จแล้วจะสวยงามมาก ๆ เมื่อปิดทองเสร็จเรียบร้อยก็นั่งพักกินลมชมวิวให้หายเหนื่อยจากการเดินทางขึ้นมา ซึ่งขาลงก็เช่นเดียวกับขาขึ้นคือขึ้นมาแบบไหนก็ลงแบบนั้นเลย สำหรับพระธาตุอินทร์แขวนนั้นเป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ติด 1 ใน 5 ของประเทศพม่า ดังนั้นใครที่มาที่ประเทศพม่าบอกเลยว่าห้ามพลาดนะครับ โดยเฉพาะผู้ที่เกิดปีจอ เพราะนี่คือพระธาตุประจำปีจอ ถ้าได้มากราบไหว้จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตมาก ๆ สำหรับตัวผมเองนั้นก็คงต้องหาเวลากลับมาอีกสักครั้งเช่นกันครับ ที่มาภาพปก https://pixabay.com