🌹 ใกล้ถึงวันวาเลนไทน์แล้ว อยากจะเล่าถึงสถานที่เกี่ยวกับ ความรัก ซึ่งนั่นก็คือ "เกาะสีชัง" หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าที่แห่งนี้มีตำนานเล่าขานกันมาถึง เรื่องราวความรัก และเชื่อกันว่าใครที่อยากเสริมดวงชะตาเรื่องความรัก ให้เดินทางมาเติมพลังความรัก ยามเช้ามารับแสง อรุณแรกของวันใหม่ ณ ปลายสะพานแห่งรัก❤️ และยามเย็นพระอาทิตย์อัสดง ไปอธิษฐานขอพรความรัก❤️ ณ ช่องเขาขาดเกาะสีชัง เกาะสีชัง เป็นเกาะเล็กๆ ในจังหวัดชลบุรี สามารถเดินทางมาได้สะดวกสบาย โดยขึ้นเรือที่ท่าเรือเกาะลอย นั่งเรือข้ามมายังเกาะสีชังใช้เวลาประมาณ 30 นาที ค่าโดยสารคนละ 50 บาท เมื่อเดินทางมาถึงเกาะสีชัง ใครสายแว๊นก็หาเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขับเที่ยวรอบๆ เกาะ ส่วนคนที่ขับรถไม่เป็นก็มีรถสกายแลปนำเที่ยว หรือใครที่มากันหลายคนจะเหมารถกระบะเที่ยวก็ได้ค่ะ สำหรับเราสายลุยเลยจึงเลือกมอเตอร์ไซค์ค่ะ เมื่อได้รถแล้ว เราก็เริ่มออกเดินทางกันเลยค่ะ สถานที่แรกที่เราไปก็คือ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ศาลเจ้าแม่กวนอิม มาไหว้ขอพรกันก่อน เมื่อหาที่จอดรถแล้ว ก็ทดสอบกำลังขาเดินขึ้นบันไดไปไหว้ขอพรตามจุดต่างๆ บนศาลเจ้า เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล เมื่อไหว้ขอพรตามจุดต่างๆ เสร็จแล้ว มานั่งพักดูจุดชมวิวของเกาะ เป็นภาพที่สวยมากๆ ลมพัดเย็นสบาย ทำให้หายเหนื่อยกันไปเลยทีเดียวค่ะ เมื่อพักหายเหนื่อยแล้ว ก็เดินทางไปเที่ยวต่อค่ะ เราไปดูพิพิธภัณฑ์ชลทัศนสถานเกาะสีชัง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์ทะเล ปลานานาพันธุ์ เต่าทะเล และปะการัง ที่นี่เข้าชมฟรีนะคะ หลังจากแวะทักทายน้องเต่าแล้ว ก็เดินทางไปถึง Landmark สำคัญของที่นี่ สะพานแห่งความรัก ที่เราตามหาสะพานแห่งนี้มีชื่อว่า สะพานอัษฎางค์ เป็นสะพานไม้สีขาวทอดยาวไปกลางทะเล มีศาลาให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คู่รักมาเติมพลังแห่งรัก และยังเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงามมากๆ อีกทั้งยังเป็นLocation ที่คู่รักนิยมมาถ่ายรูป pre-wedding กันด้วยนะคะ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้อยู่รอดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ปลายสะพานแห่งรัก เพราะเรามาแบบเช้า-เย็นกลับ เลยอดมาขอพรความรักที่นี่ค่ะ จากนั้นเราก็ไปเยี่ยมชมพระราชวังจุฑาธุชราชสถาน ซึ่งเป็นที่ประทับของรัชกาลที่ 5 ในอดีต บริเวณโดยรอบจะมีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นปกคลุม ทำให้ร่มรื่นและมีลมทะเลพัดโชยมาทำให้เย็นสบายเหมาะกับเป็นสถานที่พักผ่อนกายใจ ทั้งยังมีต้นลีลาวดีออกดอกสีขาวบานสะพรั่ง ที่นี่ให้เข้าชมฟรี เปิดถึง17.00น. (ควรแต่งกายให้เหมาะสมด้วย ไม่อนุญาตให้ใส่ชุดว่ายน้ำเข้ามานะคะ) เมื่อเยี่ยมชมพระราชวังเสร็จ ก็เกือบบ่ายโมงแล้วยังไม่ได้ทานข้าว พวกเราเลยแวะทานอาหารกลางวัน เมนูง่ายๆ ที่สั่งก็คือ ผัดกะเพราทะเลและตำแตงปูปลาร้า หลังจากอิ่มท้องแล้ว พวกเราก็เดินทางไปสถานที่สุดท้ายของทริปนี้ นั่นก็คือ หาดถ้ำพังเป็นหาดเดียวที่สามารถลงเล่นน้ำได้ ก่อนกลับเลยขอแวะมาเล่นน้ำให้ผ่อนคลาย พักกายพักใจจากความเครียด แล้วโยนความทุกข์ความเหนื่อยล้าทิ้งลงทะเลไป สำหรับทริปนี้ถึงแม้จะไม่เจอรักที่ตามหา แต่ก็ได้เจอมิตรภาพดีๆ กลับไป ถ้ามีโอกาสจะกลับมาเกาะสีชังอีกครั้ง จะมาขอพรให้สมหวังในความรักบ้าง💕 สุดท้ายนี้ขอขอบพระคุณที่เข้ามาติดตามอ่าน "ไปตามหารัก ณ เกาะสีชัง " จนจบนะคะ🙏🏻🙏🏻❤️ ช่วงนี้ใครเที่ยวที่ไหน ก็ดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโควิดด้วยนะคะ ใส่หน้ากาก😷 ล้างมือบ่อยๆ 👏🏻 เว้นระยะห่าง🔛 **ภาพทุกภาพที่ใช้ในบทความนี้ เป็นรูปภาพของนักเขียนเองค่ะ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !