สวัสดีครับนักเที่ยวสายบุญทั้งหลายวันนี้ผู้เขียนมีเรื่องดี ๆ เกี่ยวกับวัดมานำเสนออีกแล้วครับท่านบอกก่อนเลยนะครับวันนี้เป็นวัดเล็ก ๆ และตั้งอยู่ในใจกลางหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดลำพูนครับ เป็นวัดที่มีความน่าสนใจไม่แพ้วัดใหญ่ ๆ ที่ผู้เขียนเคยนำเสนอเพราะวัดนี้เป็นอีกวัดหนึ่งที่ถือว่าเป็นวัดที่มีพระสุปฏิปันโน (ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ) และอีกอย่างชาวบ้านในเขตนี้นับถือท่านมากไม่ว่าจะมีงานบุญ งานเทศกาลสำคัญต่าง ๆในทางพระพุทธศาสนาก็มักจะมีพุทธศาสนิกชนได้มาทำบุญโดยไม่ขาดสายเลยก็ว่าได้ วัดที่ว่านี้ชื่อว่า “วัดสะปุ๋งหลวง” หมู่ที่ 4 ตำบลม่วงน้อย อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน การเดินทางมาไม่ยากเลยครับเพราะมีถนนผ่านมาจนถึงวัด ด้านหน้าวัดจะเป็นบริเวณโ่ล่ง ๆ เป็นลานจอดรถกว้างขวางเหมาะสำหรับผู้ที่นำรถมาเพื่อจอด และเข้าไปทำบุญหรือเยี่ยมชมสถานที่ที่ว่าแห่งนี้ จุดแรก ก่อนที่ท่านจะเข้ามายังบริเวณเขตวัดประตูด้านหน้าท่านจะพบกับสิงห์สีขาวสองตัวยืนอยู่หน้าประตูทางเข้า (มีเทพบุตรนั่งยกเท้าสิงห์) ในความเชื่อของคนล้านนาเชื่อว่าสิงห์ ผู้เขียนทราบมาว่าการปั้นสิงห์ไว้หน้าประตูทางเข้า (ทวารบาล) รับอิทธิพลมาจากพม่า ซึ่งโดยทั่วไปวัดในพม่ามักจะมีสิงห์เป็นเหมือนทวารบาลเฝ้าทางเข้าออกของสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ ทางล้านนาถือว่าสิงห์เป็นสัตว์ที่มีพลังอำนาจสามารถปกป้องสิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้ามาในเขตพุทธาวาสได้เรา ๆ ท่าน ๆ ทั้งหลายมักจะเห็นสัตว์ในตำนานอยู่สองชนิดแทบจะทุก ๆ วัด...ใช่ครับนอกจากสิงห์แล้วก็พญานาคนั่นเอง จุดที่สอง แท่นบูชาดอกอันนี้หาดูอยากนะครับสมัยนี้ ผู้เขียนเข้าใจว่าเป็นแท่นสำหรับบูชา...คืออย่างนี้ครับประเพณีทางเหนือเมื่อมีงานเทศกาลบุญหรืองานพระเพณีทางพระพุทธศาสนาต่าง ๆ จะมีการนำดอกไม้ ธูป เทียน มาเป็นเครื่องสักการะพระรัตนตรัยได้แก่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โดยจะมีการนำดอกไม้ ธูป เทียน มาวางตรงแท่นบูชาดอก (จะมีอยู่ 4 ทิศ) ปัจจุบันไม่ค่อยพบเห็นมากนักนะครับจะมีก็แค่บางวัด จุดที่สาม จะเป็นที่ตั้งของพระวิหารหลังสีทองมีการประดับด้วยปูนปั้นเป็นลวดลายดอกสวยงามมาก..โดยทางขึ้นจะเป็นบันไดนาคสีทองขนาบซ้าย-ขวา เหตุที่เรา ๆ ท่าน ๆมักจะเห็นว่าในวัดมีการสร้างพญานาคไม่ว่าจะเป็นทางขึ้นวิหาร ศาลา อาคารเสนาสนะต่าง ๆ ซึ่งแท้จริงแล้วชาวพุทธมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของพญานาคว่าเป็นสัตว์ที่มีอิทธิฤทธิ์โดยเห็นได้จากตำนานเมื่อครั้งพระพุทธองค์ทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์พระองค์ได้ทรงเสวยวิมุติสุขเป็นเวลา 7 วันโดยมีพระยามุจรินท์ พญานาคทรงแผ่พังพานป้องกันแดด ฝน มิได้ตกมากระทบพระวรกายของพระองค์ เป็นต้นหรืออีกหลาย ๆ ช่วงตอนพญานาคจะมีความเกี่ยวข้องกับพุทธประวัติ เช่น ตำนานของการบวชนาค เป็นต้น จึงน่าจะถือว่านาคมีความเกี่ยวข้อง และอยู่คู่กับพระพุทธศาสนามาเนิ่นนาน เมื่อท่านมาถึงแล้วก็สามารถเข้าไปกราบขอพระพระประธานในพระวิหารได้นะครับ จุดที่สี่ พระอุโบสถมีรวดลายปูนปั้นประดับสวยงามทางขึ้นจะเป็นบันไดนาคสีขาว (เก่ามาก) สำหรับอุโบสถนี้จะใช้เป็นที่ประกอบสังฆกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานอุปสมบท (บวชพระ) สวดปาฏิโมกข์ เป็นต้นก็จะใช้พื้นที่ภายในพระอุโบสถ ซึ่งทางภาคเหนือถือว่าเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ (บางแห่งห้ามผู้หญิงเข้า) จุดที่ห้า พระเจดีย์ทองเป็นพระเจดีย์สีทองทั้งองค์ด้านบนจะเป็นเหมือนระฆังคว่ำปลายปนสุดมียอดฉัตรสวยงามประดิษฐานอยู่หลังพระวิหารประจำวัดความเชื่อในการสร้างพระเจดีย์นั้นในทางพระพุทธศาสนามีความเชื่อว่าเป็นการสร้างที่ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า ระลึกถึงคุณของพระธรรม ระลึกถึงคุณของพระสงฆ์ (บางแห่งมีการบรรจุพระบรมสาริกธาตุ บางแห่งมีการบรรจุวัตถุธาตุ เช่น บาตร สบง จีวร หรือบางแห่งมีการบรรจุอัฐิของพระสาวก เป็นต้น) ดังนั้นเมื่อได้กราบพระธาตุ พระเจดีย์ ก็เหมือนการได้ใช้สติในการระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า พระสังฆเจ้า พระธรรมเจ้า (พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ) ดังนั้นอยากพลาดนะครับเมื่อมาแล้วต้องมากราบสักการะขอพรให้ได้.... จุดสุดท้าย ศาลารูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ ในศาลาแห่งนี้จะมีรูปเหมือนที่ตั้งประดิษฐานอยู่ซึ่งได้แก่ ครูบาเจ้าศรีวิชัย ครูบาอภิชัย อภิชโย พระสิวลี เป็นต้นมาแล้วก็ต้องมากราบอย่าพลาดเชียวนะครับ เห็นไหมหละครับว่า “วัดสะปุ๋งหลวง” เป็นอีกวัดหนึ่งที่น่าแวะอีกวัดหนึ่งในจังหวัดลำพูนจริง ๆ อย่าลืมนะครับผ่านไปผ่านมา แวะซะหน่อยรับรองเลยว่าท่านจะรู้สึกว่ามาไม่เสียเที่ยวจริง ๆ สำหรับวันนี้เท่านี้ก่อนนะครับ...ธรรมะสวัสดี..... เครดิตภาพทั้งหมดจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.)