จังหวัดอุทัยธานีเป็นหนึ่งในเมืองรองที่มีธรรมชาติที่สวยงาม พื้นที่กว้างใหญ่ แต่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะผ่านเพราะเป็นเส้นทางขึ้นสู่ภาคเหนือ แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาแต่อยากหาธรรมชาติใกล้กรุงและอยากผจญภัยเล็กน้อย วันนี้มี 2 สถานที่แนะนำที่เหมาะกับสายขยันเดินใช้แรงซึ่งอยู่บริเวณเดียวกัน เตรียมพกน้ำให้พร้อมแล้วไปกันเลย 1. หุบป่าตาด เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ จุดเด่นอยู่ที่ถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ภายในมีป่าโบราณที่ซ่อนตัวอยู่ด้านใน เป็นเขาหินปูนนี้มีอายุเก่าแก่ประมาณหลายล้านปีแล้ว ผ่านการกัดเซาะจากน้ำฝนจนค่อยๆ หินแตกจนเกิดเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่อยู่ภายในเขา พวกพืชพันธุ์ไม้ด้านบนก็ร่วงลงมาด้วย ทำให้มีป่าอยู่ในถ้ำนั่นเอง เมื่อมาถึงจอดรถให้เรียบร้อยเตรียมน้ำดื่มซักขวด ฉีดสเปรย์พ่นกันแมลงซะหน่อย หรือจะเดินไปซื้อร้านค้าบริเวณด้านหน้าก็ได้ มีร้านค้ามากมายไม่อดตายแน่นอน แล้วเดินไปจ่ายค่าธรรมเนียมคนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท / ชาวต่างชาติ 200 บาท พร้อมไฟฉายคนละ 1 อัน (หรือเตรียมมาเองก็ได้) เส้นทางเดินไปกลับประมาณ 700 เมตรโดยจะต้องเดินขึ้นบันไดเล็กน้อย แล้วเดินเข้าถ้ำระยะสั้นๆ ในถ้ำจะมีค้างคาวตัวเล็กๆ อย่าลืมส่องไปด้านบนเพื่อดูค้างคาวกันนะ พอออกจากถ้ำก็จะเจอบันไดอีกสะหน่อย แล้วก็จะพบเจอกับต้นไม้โบราณมากมาย กิ้งกือสีชมพู และโพรงถ้ำขนาดใหญ่ บางคนถึงกับบอกว่ามาที่นี้เหมือนหลุดมายุคจูแรสสิคกันเลยทีเดียว ถ้าลงมาแล้วหิวก็มีร้านอาหาร กาแฟ เครื่องดื่มให้บริการ สามารถเดินได้ทุกวัย เดินไม่ยาก แต่ไม่ต้องรีบ 2. เขาปลาร้า ขับรถออกมาจากหุบป่าตาดประมาณ 800 เมตร จะเจอกับเขาปลาร้า สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 600 เมตร เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติเดินขึ้นเขาประมาณ 1.4 กิโลเมตร (ตามป้าย)ใช้เวลาไปกลับประมาณ 2-3 ชั่วโมง จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้คือ ภาพเขียนสีบนผนังถ้ำ ของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ที่มีอายุมากกว่า 3,000 ปี โดยจะต้องขึ้นก่อนเที่ยง เพื่อความปลอดภัยและจะได้ไม่ร้อนมาก การมาที่นี้จะต้องติดต่อที่เจ้าหน้าที่บริเวณหุบป่าตาดก่อน เพื่อความปลอดภัยในการท่องเที่ยว แต่ไม่จำเป็นจะต้องมีคนนำทาง สามารถเดินขึ้นเองได้ โดยเส้นทางการเดินนั้นถือว่าหนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เพราะทางขึ้นค่อนข้างชันเพราะขึ้นอย่างเดียว ตอนลงก็ลงอย่างเดียว ฉะนั้นก่อนขึ้นอย่าลืมหยิบไม้ค้ำที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ด้วย โดยระยะแรกจะเป็นการเดินขึ้นไต่ระดับแบบมีราวให้จับ ประมาณ 400 เมตร (แค่นี้ก็หอบกินแล้ว) จากนั้นจะเป็นการเดินบนพื้นดินที่มีหินลอยอาจจะลื่นเล็กน้อยท่ามกลางไม้ใหญ่ อย่าลืมฉีดสเปรย์กันแมลงเพราะยุงเยอะมากจริงๆ อยู่นิ่งไม่ได้เลย เดินจนหอบจะพบกันจุดชมวิว นั้นแสดงว่าใกล้ถึงแล้ว แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 200 เมตร ก็จะพบกับถ้ำขนาดใหญ่ที่มีภาพเขียนสีบนผนังถ้ำที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์และชัดเจน มีทั้งภาพวาดคน สัตว์ต่างๆ (บริเวณนี้ยุงเยอะมาก) ทั้ง 2 สถานที่นี้ ทั้งหุบป่าตาดและเขาปลาร้าถือว่าเป็นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สามารถมาเองได้ไม่ยาก แต่ข้อแนะนำหุบป่าตาดเดินง่ายกว่า แต่เขาปลาร้าอาจจะไม่เหมาะกับคนที่ชอบเที่ยวแบบชิลๆ ซะเท่าไหร่ แต่หากเป็นสายลุย สายเดินป่าแล้วละก็ไม่ควรพลาด ถือว่าได้ปลดปล่อยตัวเองได้ระดับนึงเลยทีเดียว สำหรับใครที่อยากลองมา แนะนำเดินวอร์มที่หุบป่าตาด (เดินวัดระดับตัวเองเบื้องต้น) แล้วมาเขาปลาร้า หรือสายแข็งหน่อยก็มาเขาปลาร้าก่อนแล้วไปหาของกินแถวหุบป่าตาดต่อก็ได้ สำหรับการเดินทางสามารถปักหมุดมาที่หุบป่าตาดได้เลย จะอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน หรือจะใช้เส้นทางนครสวรรค์มุ่งหน้าไปที่ถนนหมายเลข 333 เข้าจังหวัดอุทัยธานี จากนั้นมุ่งหน้าสู่อำเภอลานสัก ก็จะถึงหุบป่าตาด ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จากตัวเมืองอุทัยธานี ที่ตั้ง : หุบป่าตาด อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี พิกัด : https://goo.gl/maps/63UmtVpYUDfvQNLWA เปิดเข้าชม : ทุกวัน ตั้งแต่ 08.30 น. – 16.00 น. (ช่วงเวลาที่ดีในการมาเที่ยวหุบป่าตาดคือช่วง 11.00 - 13.00 น. แสงจะลอดถ้ำ) โทร : เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน 0-5698-9128 ค่าเข้าชม : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท กินเองเที่ยวเองถ่ายเอง : Longyoonee หลงอยู่นี้ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !