สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ชาว True ID ทุกคน กลับมาพบกันกับแอดอีกแล้วนะคะ วันนี้แอดมีประสบการณ์การไปเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเองมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังค่ะ ซึ่งทริปนี้บอกเลยว่าแอดไม่ได้ตั้งใจจะไปเที่ยว แต่เพราะบังเอิญไปเจอตั๋วโปรราคาถูกใน Facebook แอดเลยไปถามเพื่อน ๆ ที่ออฟฟิศ (อีกนิดนึงจะเรียกว่าบังคับแล้ว อิอิ) ว่าไปเที่ยวกันมั้ย เพื่อน ๆ ตอบโอเคเลยรีบจองตั๋วทันทีเผื่อบางคนเปลี่ยนใจ อิอิ ซึ่งตั๋วที่ได้นั้นเป็นของสายการบินเวียตเจ็ท แอร์ เดินทางไปเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ตอนจองไปนั้นก็ไม่รู้ว่าเวียดนามนั้นเป็นยังไง มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง แอดเลยต้องมาหาข้อมูลเกี่ยวกับเวียดนามเพื่อวางแผนการไปเที่ยวในทริปนี้ค่ะ การเดินทางในทริปนี้เมืองที่แอดจะไปหลัก ๆ คือ ดานัง เว้ และฮอยอัน เป็นเมืองที่อยู่ในเวียดนามกลาง โดยแอดได้ติดต่อเพื่อเหมารถพร้อมคนขับผ่านกลุ่มเที่ยวเวียดนาม ไปช่วงเดือนปลายเดือนตุลาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูฝนพอดีเลยค่ะ ทริปนี้แอดไปกันทั้งหมด 5 คนเป็นเวลา 5 วัน 4 คืน แอดได้วางแผนเที่ยวคร่าว ๆ ว่าทริปนี้จะใช้งบไม่เกินหมื่นนึงต่อคนค่ะ จะเป็นยังไงบ้างตามแอดไปดูกันเลยจ้า Day 1 - สนามบินดานัง - ตลาดนัดเซินตรา - สะพานแห่งความรัก - สะพานมังกร แอดไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ เครื่องออกเวลา 15:50 ไปถึงสนามบินดานังเวลา 17:30 เวลาที่เวียดนามจะตรงกับของไทยค่ะ ที่สนามบินดานังจะมีไวไฟฟรีให้ใช้ด้วย แอดเลยจัดการต่อไวไฟและติดต่อกับคนขับรถที่แอดจองเอาไว้ชื่อคุณ Tien Vinh ระหว่างนั้นก็ไปรับ Sim 4G ที่แอดซื้อผ่าน Klook ไว้ ใครที่จะไปเวียดนาม แอดแนะนำให้ซื้อ Sim ผ่าน Klook นะคะ ราคา 169 บาท เป็นของเครือข่าย Vinaphone โทรได้ภายในประเทศ 1000 นาทีถ้าใช้เครือข่ายเดียวกันหรือ 20 นาทีต่างเครือข่าย ใช้ Internet ได้ 5 GB และสามารถใช้ได้ถึง 30 วันเลยค่ะ แม่เจ้า! คุ้มมาก ๆ รอไม่นานคุณ Tien ก็มาถึงพร้อมกับรถ Toyota Innova ซึ่งสามารถจุทั้งคนทั้งสัมภาระได้พอเลยละค่ะ คุณ Tien พาเราไปเช็คอินที่โรงแรม จากนั้นก็นัดแนะกันให้มารับพรุ่งนี้ตอนเช้าค่ะ หลังจากนอนกลิ้งพักผ่อนซักพักเราก็เดินไปจุดหมายแรกของเรานั่นก็คือ ตลาดนัดเซินตรา (Chợ Đêm Sơn Trà) ค่ะ เมื่อไปถึงตลาดเซินตรา โอ้โห! อารมณ์เหมือนตลาดนัดบ้านเราเลยค่ะ มีของทั่วไปขายและอาหารท้องถิ่นหรือซีฟู้ด แอดตั้งใจมากว่าจะไปกินซีฟู้ดที่นั่นค่ะเพราะได้ยินมาว่าอร่อยและราคาถูก แต่สิ่งที่ได้คือกินน้องปูตัวละ 400 บาท ม่ายยย เจ็บกระดองใจเลยค่ะ T T ตัวก็ไม่เล็กแต่แพงมว้าก ยังดีที่เนื้ออร่อยและสดค่ะ (ใครมาอย่าทานซีฟู้ดที่ตลาดนี้นะคะเพราะราคาแพง) หลังจากกินเสร็จเราเดินไปสะพานแห่งความรักซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับตลาด ซึ่งคู่รักที่เวียดนามนิยมนำแม่กุญแจมาคล้องที่ราวสะพานค่ะ แต่เสียดายที่แอดลืมเอาแม่กุญแจมาด้วย ถ่ายรูปกรุบกริบนิดหน่อยก็เดินไปต่อที่สะพานมังกร (Cầu Rồng) ระหว่างทางเจอ Merlion ด้วยค่ะ นอกจากมาเวียดนามแล้ว เรายังได้มาถึงสิงคโปร์ด้วยนะ 555 ถ่ายรูปชิล ๆ เสร็จแล้วแอดก็กลับโรงแรมเพื่อนอนเอาแรงค่ะ Day 2 - เว้ - สุสานจักรพรรดิตือดึ๊ก - พระราชวังเว้ - วัดเทียนมู่ - ตลาดดองบา - ถนนคนเดินเหงียนเว้ วันนี้เราจะออกเดินทางไปเที่ยวที่เมืองเว้กันค่ะ เมืองเว้อยู่ห่างจากดานังประมาณ 90 กิโลเมตร แอดนัดคุณ Tien ให้มารับที่โรงแรมตอน 06:30 ซึ่งก็มาตรงเวลาเลยค่ะ จากนั้นก็ออกเดินทางไปเมืองเว้กัน ระหว่างทางแวะทานอาหารขึ้นชื่อของเมืองเว้นั่นก็คือ บุ๊งบ่อ ค่ะ เป็นเส้นขนมจีนใส่ในน้ำซุป รสชาติเปรี้ยวนิด ๆ อร่อยมากเลยค่ะ เมนูโปรดของทริปนี้เลย ที่เวียดนามนี่กฎหมายจราจรเข้มงวดมากค่ะ รถยนต์ห้ามใช้ความเร็วเกินกำหนดไม่งั้นจะโดนโทษปรับสูงมาก ๆ แอดนั่งรถจากดานังไปถึงเมืองเว้ประมาณเกือบ 4 ชั่วโมงเลยค่ะ โดยจุดหมายแรกที่เราจะไปกันคือ สุสานจักรพรรดิตือดึ๊ก (Lăng mộ Hoàng đế Tự Đức) ค่าเข้าชม 100,000 ดอง (ประมาน 130 บาท) เมื่อไปถึงอารมณ์แบบว่าเหมือนไปวัดแถวอยุธยาเลยค่ะ เป็นโบราณสถาน อากาศร้อนมาก ๆ ใครจะไปแนะนำทากันแดดและพกร่มไปด้วยค่ะ ด้านในสุสานสวยงามมีความคล้ายคลึงกับอารยธรรมจีนค่ะ จากนั้นเดินทางไปต่อที่พระราชวังเว้ (Kinh thành Huế) ค่าเข้าชมคนละ 150,000 ดอง (ประมาณเกือบ 200 บาท) พระราชวังนี้เหมือนกับพระราชวังต้องห้ามที่จีนเลยค่ะ สถานที่กว้างมาก ๆ ถ้าจะเดินให้ครบภายในวันเดียวคงไม่หมดค่ะ ข้างในเหมือนกับบ้านในหนังจีนกำลังภายในเลยค่ะ จากนั้นจุดหมายต่อไปของเราคือวัดเทียนมู่ (Chùa Thiên Mụ) หรือวัดเทพธิดารามค่ะ วัดนี้จุดเด่นคือมีเจดีย์องค์ใหญ่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับแม่น้ำหอม แอดแวะถ่ายรูปไม่นานแล้วก็ไปต่อที่ตลาดดองบา (Chợ Đông Ba) ค่ะ เพราะตลาดปิด 6 โมงเย็นเดี๋ยวจะไม่ทัน ตลาดดองบาเป็นตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเว้ ขายของท้องถิ่นและชุดอ่าวหย่าย เสียดายที่แอดซื้อชุดอ่าวหย่ายแถววัดเทียนมู่มาก่อน พอมาเดินตลาดนี้เจอชุดอ่าวหย่ายสวยกว่าราคาถูกกว่าเต็มเลยค่ะ T T จุดหมายสุดท้ายของวันนี้คือถนนคนเดินเหงียนเว้ (Phố đi bộ Huế ) ตั้งอยู่ใกล้กับโรงแรมที่เราพักค่ะ ถนนนี้จะมีร้านรวงเปิดตอนกลางคืน อารมณ์เหมือนถนนข้าวสารบ้านเราค่ะ ช่วงที่แอดไปเป็นวันธรรมดาคนเลยไม่คึกคักมาก หลังจากแอดเดินเล่นจนทั่วแล้วก็กลับโรงแรมเพื่อนอนพักค่ะ Day 3 - ดานัง - วัดหลินอึ๋ง - โบสถ์สีชมพู - Bana Hill - Mercure French Village - Golden Bridge วันนี้เราจะออกเดินทางกลับเมืองดานังค่ะ แอดติดต่อคุณ Tien ให้มารับตอน 06:00 โดยวันนี้จะเป็นไฮไลท์ของการมาเที่ยวเมืองดานังเลยค่ะ นั่นคือเราจะไปเที่ยว Ba Na Hills กัน แต่ก่อนไปแอดแวะไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่วันหลินอึ๋ง (Chùa Linh Ứng) ก่อน วัดนี้ตั้งอยู่บนเขาบนเกาะเซินตรา ในวัดสามารถมองชมเมืองดานังด้วยวิวพาโนรามาได้เลยค่ะ วิวสวยมาก ๆ ตอนที่ไปคนค่อนข้างจะเยอะขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากมีกรุ๊ปทัวร์จีนมาลงค่ะ T T แอดก็เลยไปต่อที่ต่อไปค่ะ จุดที่เราไปแวะต่อก็คือโบสถ์สีชมพู (Giáo xứ Chính tòa Đà Nẵng) ในใจกลางเมืองดานังค่ะ ความพิเศษของที่นี่คือตัวโบสถ์ทาด้วยสีชมพูทำให้ดูสวยงามน่ารัก ไม่เหมือนกับโบสถ์ทั่วไปที่มักจะทาด้วยสีขาวหรือเทาค่ะ คนเลยนิยมมาถ่ายรูปคู่กับโบสถ์นี้กัน หลังจากแวะถ่ายรูปคู่กับแลนด์มาร์กเมืองดานังทั้ง 2 ที่แล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่เป้าหมายของทัวร์ครั้งนี้ค่ะ นั่นก็คือ Ba Na Hills นั่นเอง เย้ ๆ Ba Na Hills เดิมเป็นบ้านพักของชาวฝรั่งเศสในสมัยที่เวียดนามเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส หลังจากที่เวียดนามได้รับเอกราชก็ได้รับการบูรณะให้กลายเป็นโรงแรมและสวนสนุกแทน โดยมีกระเช้าไฟฟ้าที่ถูกบันทึกลงใน Guinness Book ว่ายาวที่สุดในโลกอีกด้วย แอดอยากเดินเที่ยวเล่นในหมู่บ้านยุโรปยามค่ำคืนก็เลยเลือกที่จะพักโรงแรมเมอเคียว (Mercure Danang French Village) ใครที่จะมาเที่ยวแอดแนะนำให้พักโรงแรมเมอเคียวอย่างน้อย 1 คืนนะคะ เพราะจะได้ซื้อตั๋วกระเช้าราคาพิเศษค่ะ ที่สำคัญจะได้รับสิทธิพิเศษสามารถขึ้นกระเช้าได้เลยโดยไม่ต้องต่อคิวกับคนอื่นค่า อิอิ หลังจากนั่งกระเช้าขึ้นไป ภาพแรกที่ได้เห็นก็คือทุ่งดอกไม้และปราสาทสไตล์ยุโรปค่ะ บอกได้เลยว่าเป็นภาพที่สวยงามมาก ๆ ซึ่งของจริงสวยกว่าในรูปหลายเท่าค่ะ จากนั้นแอดก็ไปเช็คอินที่โรงแรมและไปเล่นเครื่องเล่นที่สวนสนุก Fantasy Park ก่อนค่ะ เนื่องจากคนยังเยอะอยู่เดี๋ยวรอเย็น ๆ ค่อยไปถ่ายรูปกันค่ะ อิอิ หลังจากเล่นเครื่องเล่นจนเวลาประมาณ 5 โมงเย็น และแล้วก็ได้เวลาที่แอดรอคอยก็มาถึง ^ ^ คนที่ไม่ได้พักโรงแรมเมอเคียวทยอยนั่งกระเช้ากลับลงไปข้างล่างกัน แอดรีบพุ่งไปสะพานมือหรือ Golden Bridge เลยค่ะ เนื่องจากวิวยามเย็นบนสะพานนั้นสวยมาก ๆ ไม่เชื่อดูจากภาพที่แอดถ่ายมาได้เลยค่ะ. ถ่ายรูปจนฟินเสร็จแล้ว แอดก็ออกไปเดินเล่นรอบ ๆ ซึ่งคนน้อยมากเมื่อเทียบกับตอนกลางวัน เหมือนกับแอดเหมาหมู่บ้านยุโรปนี้ไว้คนเดียวเลยค่ะ ภาพปราสาทตอนกลางคืนสวยมาก ๆ มีหมอกออกมาเล็กน้อยให้บรรยากาศเหมือนเดินอยู่ในยุโรปตอนกลางคืนเลยค่ะ แอดเดินเล่นหลายชั่วโมงจนดึกมากแล้วก็กลับเข้าห้องนอนพักเอาแรงค่ะ Day 4 - วัดพระใหญ่ - Golden Bridge - ฮอยอัน - นั่งเรือกระด้ง - ตลาดกลางคืนฮอยอัน แอดเริ่มต้นวันที่ 4 ด้วยการตื่นแต่เช้าและเดินขึ้นยอดเขาไปไหว้พระที่วัดพระใหญ่ (Chùa Linh Ứng) ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาของ Ba Na Hills ค่ะ ตอนเดินขึ้นบันไดไปนี่แทบจะคลานขึ้นไปเลยแต่พอได้เห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าบนยอดเขาแล้ว หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย คุ้มค่าเหนื่อยจริง ๆ ค่ะ จากนั้นก็แวะไปถ่ายรูปยามเช้าที่สะพานมือกันอีกรอบ เรียกได้ว่าเก็บได้ทั้งภาพยามเช้าและยามเย็นเลยค่ะ อิอิ แล้วก็ได้เวลาเดินทางไปจุดหมายสุดท้ายของทริปนี้กันนั่นก็คือเมืองฮอยอัน ฉันรักเธอ ค่ะ แอดติดต่อให้คุณ Tien เจ้าเก่ามารับที่สถานีกระเช้าด้านล่างค่ะ หลังจากลงกระเช้าเสร็จแล้วก็ออกเดินทางทันที เมืองฮอยอันอยู่ห่างกับเมืองดานังประมาณ 30 กิโลเมตร ไม่ไกลเลยค่ะ ใช้เวลาเดินทางไม่นานประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว เดี๋ยวแอดจะพาไปนั่งเรือกระด้งกันนะคะ สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองฮอยอันที่ขึ้นชื่อเลยก็คือการนั่งเรือกระด้งค่ะ โดยแอดได้ติดต่อผ่าน HaCoconut คิดราคาคนละ 100,000 ดองหรือประมาณ 130 บาทค่ะ โดยเรือที่แอดนั่งมีลักษณะกลมคล้ายกระด้งค่ะ นั่งได้ลำละ 2 คนไม่รวมคนพาย ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีในการพายไปกลับ ความรู้สึกหลังจากนั่ง บรรยากาศเหมือนกับไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาเลยค่ะ 555 โดยคนพายพยายามทำให้เราสนุกโดยการพายหมุนวนอยู่กับที่ค่ะ ถ้าไม่เกาะให้แน่นสงสัยจะตกน้ำแน่ ๆ เลย T T ตอนท้ายกิจกรรมมีการสาธิตวิธีจับลูกปูตัวน้อย ๆ ให้ดูโดยการใช้เหยื่อผูกกับกิ่งไม้เพื่อล่อลูกปูให้มากินค่ะ จากนั้นเราก็กลับไปที่โรงแรมเพื่อเปลี่ยนชุดเป็นอ่าวหย่ายกันค่ะ เพราะเราจะไปถ่ายรูปกันในตลาดกลางคืน (Hoi An Night Market) ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองโบราณฮอยอันเลย ถ้าไม่เปลี่ยนชุดเดี๋ยวจะไม่เข้ากับบรรยากาศของเมืองนะคะ :P โรงแรมที่เราพักอยู่ใกล้กับตลาดกลางคืนเลยค่ะ เดินออกมาไม่เกิน 300 เมตรก็ถึงแล้ว ระหว่างทางแอดแวะไปถ่ายรูปแลนมาร์กของเมืองฮอยอันมา นั่นก็คือสะพานญี่ปุ่น (Chùa Cầu Hội An Quảng Nam) ตอนที่ไปคนเยอะมาก ไม่สามารถหามุมสวย ๆ ถ่ายรูปได้เลยค่ะ ตลาดกลางคืนฮอยอันมีผู้คนออกมาเดินคึกคักมาก มีการจัดแสงสีสวยงาม มีคนนิยมลอยกระทงในแม่น้ำกันค่ะ แอดก็ลอยเหมือนกันช่วยซื้อจากคุณยายที่ขายกระทงราคา 10,000 ดอง ตอนลอยนี่เค้าให้จุดไฟก่อนแอดก็ขอยืมไฟจากคุณยายมาค่ะ คุยกันแบบงง ๆ กว่าจะเข้าใจ ^_^ ในที่สุดก็ได้ลอยแล้ว เย่ แต่แอดลืมถ่ายรูปมาเลยอดเอามาอวดเพื่อน ๆ เลย T T หลังจากที่แอดลอยกระทงเสร็จก็เดินเล่นไปเรื่อย ๆ ค่ะ ตลาดนี้กว้างมากคนเดินก็เยอะ อากาศช่วงนั้นเลยร้อนเหมือนออกกำลังกายมาค่ะ หลังจากเดินจนเหนื่อยแอดก็กลับโรงแรมเพื่อนอนเอาแรงค่ะ Day 5 - ดานัง - ตลาดโก่น - สนามบินสุวรรณภูมิ วันนี้แอดติดต่อให้คุณ Tien มารับประมาณ 7 โมงเช้าเพื่อที่เราจะไปแวะซื้อของฝากกันที่ดานังก่อนกลับประเทศไทยค่ะ ตอนแรกแอดจะไปที่ตลาดฮาน (Chợ Hàn) เพราะแอดไปอ่านรีวิวที่คนไทยไปกันมาค่ะ แต่คุณ Tien เค้าทำท่าตกใจและถามเราว่าทำไมถึงอยากไปตลาดฮาน ที่นี่ขายของแพงนะและคนเวียดนามไม่ค่อยไปกัน เค้าแนะนำให้ไปตลาดโก่น (Chợ Cồn) แทนเพราะของขายเยอะและถูกกว่าค่ะ เอาล่ะสิ ! ถ้าไม่เชื่อเจ้าถิ่นแล้วจะเชื่อใครล่ะคะ แหะ ๆ ตลาดโก่นมีของขายหลากหลายไม่ว่าจะเป็นของสด ของแห้ง รวมทั้งของฝากค่ะ แอดเองก็ไปเหมาพวกใบชาเวียดนามที่เค้าลือกันว่าถูกและอร่อยกลับมาเต็มเลยค่ะ ที่สำคัญเม็ดมะม่วงหิมพานต์ราคาถูกมากเมื่อเทียบกับที่ไทย หลังจากช้อปปิ้งเสร็จแล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับกันค่ะ แอดให้คุณ Tien ช่วยไปส่งที่สนามบินดานังเพื่อเตรียมตัวกลับประเทศไทย สำหรับทริปนี้ก็ต้องขอขอบคุณคุณ Tien คนขับรถประจำทริปของเราที่ไม่ว่าเราจะเรียกให้มารับตอนเช้าแค่ไหนก็ไม่เคยบ่นเลย เพิ่งรู้ทีหลังว่าเค้าขับรถไปกลับ เว้ - ดานังในวันที่ 2 และ 3 อึดจริง ๆ ค่ะ แอดก็เลยให้ทิปเค้าไป ซึ่งทริปนี้แอดรู้สึกมีความสุขสนานปนความรู้สึกเหมือนไปเที่ยวประเทศไทยเลย อาจเป็นเพราะอากาศและสภาพแวดล้อมที่เหมือนกับไทยตอนไปเที่ยวแอดรู้สึกเหมือนไปเที่ยวจังหวัดอยุธยา เชียงใหม่ สมุทรสาคร แหะ ๆ แต่พอเวลาผ่านมาในการไปเที่ยวทุก ๆ ครั้งมีสิ่งดี ๆ ซ่อนอยู่เสมอ เช่น เราได้เห็นวัฒนธรรม การใช้ชีวิต ของประเทศนั้น ๆ โดยรวมของทริปนี้เป็นอีกทริปที่ประทับใจค่ะ ได้รู้จักเพื่อนใหม่ (เพื่อนร่วมทริป) ได้เห็นวัฒนธรรม อาหารที่นั่นก็อร่อย ยังคงรักษาวัฒนธรรมของบ้านเมืองได้เป็นอย่างดี บ้านเมืองสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยดีมาก ไม่มีคนทิ้งขยะลงพื้นเลยค่ะ แต่ที่นั่นเวลาขับรถจะชอบบีบแตรบ่อยไปนิด ค่าครองชีพก็ไม่สูงและใช้เวลาในการเดินทางไม่นาน หากใครที่กำลังมองหาประเทศที่ไม่ไกลจากไทย ใช้งบไม่มาก เวียดนาม เป็นอีกประเทศที่ควรไปค่ะ แอดเองก็คิดว่าอยากไปเมืองอื่น ๆ อีกเหมือนกัน สรุปค่าเสียหายทั้งหมดในทริปนี้ตกคนละประมาณ 9,140 บาทเท่านั้นเองค่ะ โดยจะแพงที่ค่าตั๋วเครื่องบินเป็นหลักเลย จะเห็นไว้ว่าค่าโรงแรมและค่าอาหารไม่ได้แพงอย่างที่คนอื่น ๆ คิดกันค่ะ ราคานี้เมื่อแลกกับสถานที่เที่ยวในทริปด้วยระยะเวลา 5 วัน 4 คืนถือว่าไม่แพงเลยนะคะ ใครมีข้อสงสัยหรืออยากถามข้อมูลการท่องเที่ยวกับแอดสามารถสอบถามเข้ามาได้เลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ อ่านบทความนี้ของแอดแล้วชอบใจ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ และกด Follow แอดด้วยนะคะ ขอบคุณมาก ๆ ค่า ^ ^