หลังจากสักการะพระบรมราชาอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร ก็ขับรถตามถนนฝั่งขวามือเลี้ยวซ้ายตรงไปและเลี้ยวขวา(นิดเดียวไม่ไกล) ก่อสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย พ.ศ. 1996 ในสมเด็จพระนเรศวรมหาราชหลังจากได้รับชัยชนะในการทำสงครามกับพม่า จากนั้นในปี พ.ศ. 2112 พม่ายึดครองอยุธยาพระเจ้าบุเรงนองให้สร้างเจดีย์รูปแบบมอญในพื้นที่เดิมสร้างได้แต่เพียงรากฐานเพื่อแสดงถึงชัยชนะเช่นกันและเดินทางกลับ ภายหลังในปี พ.ศ. 2127สมเด็จพระนเรศวรได้กอบกู้เอกราชกลับคืนมาได้ จึงได้บูรณะองค์เจดีย์ใหม่ให้เข้ากับศิลปะกรรมแบบไทยทำให้เจดีย์ภูเขาทองมีลักษณะระหว่างศิลปะมอญและไทยที่แปลกและงดงาม พร้อมแล้วตามมาค่ะ เจดีย์ภูเขาทองมองเห็นแต่ไกลเล็กๆ แต่พอถึงบริเวณเจดีย์อลังการงานช้างเดินจนเมื่อยกว่าจะวนกลับมาที่เดิมพื้นที่กว้างมากจริงๆ เด่นสง่าตั้งแต่ฐานเจดีย์ที่แข็งแรงสวยงามเป็นเจดีย์ที่ไม่ถูกทำลายเมื่อครั้งเสียกรุงในปี พ.ศ.2310 ทั้งที่ก่อสร้างก่อนเสียกรุงอีก เจดีย์ภูแขาทองตั้งอยู่ด้านหลังอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร ลักษณะเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่สีขาวฐานและองค์เจดีย์ลักษณะเป็นปูนปั้นในแต่ละชั้นมีองค์เจดีย์ขนาดเล็กทุกชั้นเรียงแถวและลดหลั่นกันชั้นบนสุดประดิษฐานพระพุทธรูปทั้งสี่ทิศ อีกทั้งบันไดที่แข็งแรงอยู่สี่ด้าน เจดีย์มีรั้วกำแพงเป็นระเบียงไม่สูงล้อมรอบครบสี่ด้านประตูทางเข้าถึงไม่สมบูรณ์แต่ก็คงความงดงามและสง่าไว้ให้ชม บรรยากาศแบบชนบทเงียบนักท่องเที่ยวไม่ค่อยมี(2-3 คน) ไม่มีแม้กระทั้งเสียงเครื่องยนต์รถรบกวนนำมาซึ่งความเงียบสงบทำให้ซึมซับความงดงามสถาปัตยกรรมเมืองกรุงเก่าในการเดินชมเต็ม100สบายใจจัง นักท่องเที่ยวนิยมไปเยือนเพื่อชมความงามบนยอดเจดีย์เพราะมองเห็นบริเวณโดยรอบท้องทุ่งมะขามหย่องต้นไม้น้อยใหญ่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ด้านหน้าอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรวิวทิวทัศน์คงความเป็นธรรมชาติในบริเวณกว้างเดินขึ้นไปบนยอดเจดีย์และสูดลมหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดสดชื่นสบายใจค่ะ สำหรับใครที่ต้องการกำลังใจต้องไม่พลาดค่ะไปรับพลังงานความสำเร็จในอดีตเพื่อต่อยอดความสำเร็จในอนาคตของเรา ไม่เก็บค่าเข้าชม ทำบุญตามศรัทธา ภาพหน้าปก โดยผู้เขียน ภาพทั้งหมด โดยผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !