"โบสถ์แสตนเลส : วัดปากลำขาแข้ง" ตั้งอยู่ที่: อำเภอ.ศรีสวัสดิ์ ตำบล.เขาโจต จังหวัด.กาญจนบุรี เขื่อน ศรีนครินทร์ ผมมีประสบการณ์เกี่ยวกับสถานที่ อันสงบและ สวยงามแห่งนี้ และก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ด้วยครับ Amazing Thailand ที่หลายๆคนอาจจะยังไม่เคยรู้จักกับสถานที่แห่งนี้ ซึ่งเมื่อหลายปีมาแล้วผมมีโอกาส ได้เข้าถือศิลและบวชเป็นพระภิกษุ เรามาเล่าถึงประวัติของวัดป่าลำขาแข้งว่าเป็นมายังไงย่อๆกันนะครับ วัดโบสถ์แสตนเลส หรือ วัดป่าลำขาแข้ง และพระพุทธรูปแสตนเลส หนึ่งเดียวในโลก สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2484 จากแรงศรัทธาของประชาชน ที่ช่วยกันบริจาคสร้างขึ้นเพื่อนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวในวโรกาสทรงเจริญพระชนพรรษาครบ 80 พรรษา "เจ้าอาวาส พระครู พิพัฒน์กาญจนาคม ( อาจารย์ น้อง) พระประธานในโบสถ์สแตนเลส นอกจากโบสถ์สแตนเลสแล้วบริเวณภายในวัดยังมี "พระพุทธรูปสแตนเลส พระประทานพรองค์ใหญ่ ขนาดกว้าง 8 เมตร สูง 12 เมตร"ชื่อว่าหลวงพ่อเงินใหลมา เป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen แห่งใหม่ในอำเภอ ศรีสวัสดิ์ การไปชมโบสถ์นี้ต้องนั่งเรือหางหรือแพ จากเขื่อนศรีนครินทร์ไปชมความงดงามของโบสถ์แห่งนี้ เพราะวัดตั้งอยู่บนเกาะกลางน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ ไม่สามารเดินทางด้วยพาหะนะอย่างอื่นเข้ามาได้ครับ ทางเขาก่อนไปท่าเรือน้ำเอ่อ ก่อนที่จะไปลงแพที่ท่าน้ำเอ่อ เราต้องเจอกับการเดินทางที่ท้าทายพอสมควร ทางที่จะไปที่ ต้องขึ้นเขาที่เป็นทางธรรมชาติ ทางชัน ทางลาด โค้งหักศอก ทางนี้ขับได้เฉพาะคนพื้นที่นะครับ เพราะถ้าไม่ชำนานทาง อันตรายมากๆครับ ช่วงมีงาน วัดมีรถรับส่งขึ้นลงเขา ซึ่งเป็นรถ Four Wheel หรือปรับแต่งมาเพื่อใช้งานในสภาพทางแบบนี้ ถือว่า Adventure พอสมควรเลยครับ ใครมาเที่ยวที่วัดปากลำถือว่าคุ้มมากๆเลยครับ ขึ้นเขา,ล่องแพ,ชมธรรมชาติ,ได้ร่วมทำบุญด้วยครับ การเดินทางไปวัดปากลำขาแข้ง"โบสถ์สแตนเลส "เข้าได้ 2 ทางคือทาง ต.นาสวน กับทาง ท่าน้ำเอ่อ ทางนี้ต้องผ่านป่าใม้ขึ้นมาครับ 1. ทางแรกไปที่ ท่าเรือนาสวน แพนิพนธ์ อ.ศรีสวัสดิ์ ต.นาสวน ทางนี้เลั้ยวลงจากถนนใหญ่เข้ามาไม่ไกลก็ถึงท่าเรือแต่ ใช้เวลาเดินทางไปวัดนานกว่าทางท่าเรือ น้ำเอ่อ พอถึงก็นั่งแพไปอีก ประมาณ 40 กม. ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง หากไปกลับก็กินเวลา 6 ชั่วโมง วันนั้นแทบไม่ต้องทำอะไร เพราะหมดเวลาเที่ยวซะก่อน แต่ก็ได้เก็บบรรยากาศขณะล่องแพ ธรรมชาติที่หาดูได้ยาก ส่วนมากกลุ่มคนที่มาทางแพนาสวน เตรียมมาเที่ยวล่องแพ ทำอาหารกันบนแพไปในตัวด้วยครับ 2. ทางที่สอง ท่าเรือน้ำเอ่อ มาทางสุพรรณ อำเภอด่านช้าง ตำบลองค์พระ จอดรถที่วัดทุ่งมะกอก ซึ่งจะเป็นเขตตำบล ม่วงเฒ่า แล้วต่อรถกระบะชาวบ้านขึ้นเขาผ่านกรมป่าไม้ เมื่อสมัยก่อนการเดินทางเส้นนี้ค่อนข้างจะลำบาก ทางขึ้นเขา ซับซ้อนและชันมากยิ่งหน้าฝนยิ่งแย่ มีแต่คนพื้นที่ๆขับได้ระยะทางประมาณ 20 กว่า กม. ถ้าเป็นปัจจุบันก็สามารถขับรถมาเองก็ได้ พอถึงท่าเรือน้ำเอ่อ ที่นี้ก็จะมีเรือ,แพไว้บริการ ชาวบ้านเรียกกันว่า แพตาเชิด การเดินทางเส้นนี้จะประหยัดเวลามากกว่าเส้นนาสวน ถ้านั่งเรือต่อมาที่วัดก็ประมาณ 9 กม.สัก 20 นาที ก็ถึงวัด ถ้าเป็นแพ ก็ประมาณ 1 ชม. ก่อนที่พระจะลงมาบิณฑบาตรเราต้องเตรียมเพื่อจะได้ไม่แบ่งกันเพราะ ต้องยืนนานพระสงฆ์ประมาณ200-300รูป ผมเอาผลไม่มาใส่บาตรครับ นอกจากนี้ทุกๆปีวัดยังมีการจัดงาน ปริวาส พิธีอยู่กรรม ซึ่งเป็นงานที่พระสงฆ์จาก ทุกทิศทุกทางมารวมกันประมาณ 200-300 รูปได้ ญาติโยมลูกศิษย์ลูกหาจากทั่วประเทศ ก็จะมาร่วมอนุโมทนาบุญ สลับสับเปลี่ยนกันมาทำกับข้าวถวายพระสงฆ์ที่มาจำวัดอยูที่วัดปากลำขาแข้ง รวมเป็นเวลา 10 วัน งานปริวาสเริ่มตั่งแต่ วันที่ 5 ธ.ค - 15 ธ.ค ของทุกๆปีครับ บรรดาลูกศิษย์ลูกหาก็จะร่วมกันมา ทำอาหารถวายพระภิกษุ วนเวียนกันไปไม่ขาดสาย ทั้งแพทั้งเรือของวัดถึงกับไม่พอที่จะไปรับ คนที่จะเข้าร่วมทำบุญ ไม่เว้นแต่ละวันเลยครับ ใครที่อยากจะมาถือศิล ปลีกวิเวก อยากอยู่สงบๆ ก็สามารถเวะเข้ามาได้นะครับในช่วงที่ไม่งาน วัดจะเงียบมากๆครับ ไม่อะไรมารบกวนจิตรใจ สื่อออนไลย์ โทรศัพท์แสงสีต่างๆที่รบกวนจิตใจ ผมคิดว่าเป็นสถานที่ๆ เหมาะมากๆที่จะเป็นที่ปฏิบัติธรรม สงบจิตใจ ซึ่งผมก็เคยผ่านประสบการณ์ตรงนั้นมาแล้วครับ พอกลับออกมาสู่โลกที่วุ่นวาย เราก็จะมีจิตใจที่สงบ ไม่หลงใหลไปกับสิ่งแสงสีรอบๆตัวเรา