“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” สบาย ๆ วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 วันนี้พาทุกท่าไป "ท่องเที่ยวตามร่องรอยเมืองโบราณบ้านสิงห์ท่า" จังหวัดยโสธร หนุ่ม-สุทน ขอเริ่มต้นเขียนเล่าเรื่องให้ท่านผู้อ่านทุกท่านอ่านแล้วไปเที่ยวกันนะจ๊ะ "บ้านสิงห์ท่า" ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ขอเริ่มต้นด้วยเรื่องราวความเป็นมาของบ้านสิงห์ท่า โดยเริ่มต้นที่เมืองเก่าบ้านสิงห์ท่าเรื่องที่ 1 บ้านสิงห์ท่าต้องย้อนหลังกลับไปเมื่อครั้งอดีตกาลสมัยปลายอาณาจักรแผ่นดินล้านช้าง ทุกวันนี้คือ สปป.ลาว ครั้งนั้นมีชาวล้านช้างโดยมีผู้นำชื่อ ท้าวคำสู อพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนสองสถานที่คือที่แรกที่ "คำเขื่อนแก้ว" ต่อมาท้าวคำสูและชาวบ้านได้ออกสำรวจในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงก็พบวัดร้างแห่งหนึ่งมีองค์พระพุทธรูปองค์ใหญ่และรูปปั้นสิงห์จึงทำพิธีกรรมบวงสรวงแล้วตั้งบ้านเรือนเป็นแห่งที่สอง เสร็จแล้วเรียกชื่อว่า "บ้านดงขวางท่าชี" เพราะอยู่ใกล้ ๆ กับลำน้ำชีต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น "บ้านสิงห์หิน" เมื่อได้ร่วมกันบูรณะวัดร้างจนกระทั่งแล้วเสร็จให้ชื่อว่า "วัดพระหลวงใหญ่" ต่อมาเมื่อได้เปลี่ยนชื่อเป็น "บ้านสิงห์หิน หรือ บ้านสิงห์ท่า" แล้วก็เปลี่ยนชื่อวัดพระหลวงใหญ่เป็น "วัดสิงห์ท่า" ด้วยครับชุมชนบ้านท่าสิงห์เรื่องที่ 2 บ้านสิงห์ท่าเข้ามาเมื่อครั้งต้นกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงโปรดฯ ยกฐานะบ้านสิงห์ท่าขึ้นเป็น "เมืองยศสุนทร" เนื่องจากมีศึกสงครามกรุงรัตนโกสินทร์กับกรุงเวียงจันทน์แล้วทรงโปรดฯ ให้ราชวงศ์คำสิงห์คือท้าวคำสิงห์เป็นเจ้าเมืองคนแรกคือ "พระยาสุนทรราชวงศา" เรื่องที่ 3 เข้ามาสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งกระนั้นเรียกว่ากบฏเจ้าอนุวงศ์แห่งกรุงเวียงจันทน์บริเวณเมืองยศสุนทรหรือเมืองยโสธรเกิดความไม่สงบสุขพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดฯ พระราชทานพระพุทธรูป "พระแก้วหยดน้ำค้างหรือพระพุทธปฏิมาบุษยรัตน์" ให้เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองปกป้องรักษาบ้านเมืองยศสุนทรหรือเมืองยโสธร ทุกวันนี้ประดิษฐานในวิหารวัดมหาธาตุในเขตบ้านสิงห์ท่าพระแก้วหยดน้ำค้างหรือพระพุทธปฏิมาบุษยรัตน์ส่วนเรื่องที่ 4 บ้านสิงห์ท่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของจังหวัดยโสธร เพราะบ้านสิงห์ท่าเมื่อครั้งสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งกระนู้นประเทศมหาอำนาจคือฝรั่งเศสมีอำนาจในลุ่มน้ำโขงด้วยเหตุผลนี้ที่บ้านสิงห์ท่าจึงเป็นย่านการค้าที่สำคัญมีชาวเวียดนามเข้ามาสร้างบ้านเรือนเป็นศิลปะจีนผสมผสานกับศิลปะตะวันตกหรือสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีส เรียกว่าดูสวยงามมาก ๆ ควรค่าแก่การอนุรักษ์ให้คงอยู่ในบ้านสิงห์ท่าตลอดไปบ้านเรือนเป็นศิลปะจีนผสมผสานกับศิลปะตะวันตกหรือสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีสสำหรับเรื่องราวที่ 5 เมื่อถึงบ้านสิงห์ท่าแล้วจุดเริ่มต้นของการเที่ยวชมต้องกราบขอพร "ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองบ้านสิงห์ท่า" แห่งเมืองยศสุนทรหรือเมืองยโสธร ตัวศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเป็นศิลปะสามวัฒนธรรมคือ พญามังกรศิลปะจีน หลังคายอดเป็นองค์พระธาตุศิลปะลาวและหลังคาศิลปะชาวไทย ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสำหรับ "เสาหลักเมือง" ประดิษฐานสามเสา เสาองค์ใหญ่คือเสาหลักเมือง เสาเล็ก ๆ ด้านซ้ายและด้านขวาเป็นที่สถิตของจิตวิญญาณผู้ดูแลปกป้องบ้านเมืองหรือประชาชนชาวจังหวัดยโสธร ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวมากราบบูชาขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาลเจ้าพ่อหลักเมืองกันหนาแน่นทุกวัน ส่วนการขอพรนั้นก็จะขอเรื่องการงาน สอบเข้ารับราชการ ขายที่ดินหรือทำกิจการค้าขาย ขอความเจริญรุ่งเรืองของหน้าที่การเงิน เป็นต้น แล้วไปต่อที่ "วัดสิงห์ท่า" ชมรูปปั้นสิงห์เป็นที่มาของชื่อ "บ้านสิงห์ท่า" สิงห์ "บ้านท่าสิงห์"หากท่านผู้อ่านเดินทางไปท่องเที่ยว "บ้านสิงห์ท่า" หนุ่ม-สุทนขอแนะนำว่าควรจะไปช่วงเช้าหรือเย็น ๆ อากาศไม่ร้อนนั่งเล่นเพลิน ๆ ชิลสุด ๆ โดยเฉพาะในร้านกาแฟหรือนมสด คือร้าน "สิงห์-นม-สด" แล้วเดินชมตึกโบราณเก่าแก่แบบชิโนโปรตุกีสดูโดดเด่นสวยงาม ศิลปะจีนผสมผสานกับตะวันตกมันคลาสสิคจริง ๆ น่าสนใจมาก ๆ ครับ ร้านกาแฟ "สิงห์-นม-สด"สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดยโสธรหรือจังหวัดอุบลราชธานีสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี-จังหวัดยโสธร ได้ที่โทรศัพท์ 045-243770 ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ขอขอบคุณ ผอ.ธงชัย แสนทวีสุข ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี ที่ให้การต้อนรับคณะสื่อมวลชนชมรมนักข่าวท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่เดินทางไปทำข่าวงานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก รวมทั้งเก็บข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดยโสธร "เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป...กับ...ผมหนุ่ม-สุทน” ขอบคุณและสวัสดีครับผอ.ธงชัย แสนทวีสุขคณะสื่อมวลชนชมรมนักข่าวท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์แฟนเพจเฟซบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/#ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. #ติดต่อวิทยากรด้านการท่องเที่ยวได้ที่ได้ที่แฟนเพจเฟซบุ๊ค#เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel #Tourism local life ชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวไทยยั่งยืนวันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !