รีเซต

ตำนาน เทศกาลไหว้พระจันทร์ และ ขนมไหว้พระจันทร์

ตำนาน เทศกาลไหว้พระจันทร์ และ ขนมไหว้พระจันทร์
เอิงเอย
11 สิงหาคม 2565 ( 14:05 )
42.8K
3

     ถ้าพูดถึง เทศกาลไหว้พระจันทร์ ทุกคนคงจะนึกถึง ขนมไหว้พระจันทร์ ขนมอร่อยๆ ที่เราจะได้กินกันปีละครั้งค่ะ หลายคนอาจจะพอรู้คร่าวๆ ว่า เทศกาลไหว้พระจันทร์ นั้นมาจากจีน แต่ยังไม่รู้รายละเอียดกันมากนัก เราจะมาบอกเล่า ตำนานเทศกาลไหว้พระจันทร์ และขนมไหว้พระจันทร์ ให้ได้รู้กันค่ะ

 

 

ที่มา เทศกาลไหว้พระจันทร์ 

 

      เทศกาลไหว้พระจันทร์ หรือ เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง เป็นเทศกาลตามวัฒนธรรมจีนที่มีขึ้นในกลางฤดูใบไม้ร่วง เพื่อเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยว จะมีขึ้นในคืนวันเพ็ญเดือน 8 ของทุกปี

 

      ในเทศกาลนี้ ชาวจีนจะเฉลิมฉลองด้วยการไหว้ดวงจันทร์ในเวลากลางคืน ในบางประเทศ เช่น ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ หรือเวียดนาม จะจัดเป็นประเพณีใหญ่ มีการเฉลิมฉลองด้วยโคมไฟสีแดงเป็นสีสันยามค่ำคืน หรือบางแห่งอาจมีการเชิดมังกร ทั้งนี้จะมีชื่อเรียกต่างกันออกไปตามแต่ท้องถิ่น

 

 

     แม้เทศกาลไหว้พระจันทร์นี้จะมีที่มาจากประเทศจีน แต่รู้หรือไม่ว่าในเทศกาลไหว้พระจันทร์ของจีนนั้น ขนมไหว้พระจันทร์ไม่ได้ใช้เพื่อไหว้พระจันทร์ หรือเป็นของทานเล่นเพียงอย่างเดียว แต่ขนมไหว้พระจันทร์ยังเป็น ขนมมงคล ที่ชาวจีนนิยมมอบให้กับคนที่รู้จัก ญาติ มิตรสหาย เพื่อแสดงถึงมิตรไมตรี และเป็นการอวยพรซึ่งกันและกันนั่นเอง ทำให้ขนมไหว้พระจันทร์ได้รับความนิยมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอย่างไม่เสื่อมคลายมาหลายพันปีแล้วค่ะ

 

    นอกจากนี้แล้ว ยังมีขนมชนิดหนึ่ง เรียกว่า ขนมไหว้พระจันทร์ ที่มีฐานกลมคล้ายขนมเค้ก ทำจากแป้ง มีไส้ต่างๆ เป็นธัญพืช ใช้เซ่นไหว้และรับประทานกันจนเป็นเอกลักษณ์สำหรับเทศกาลนี้

 

ตำนานเทศกาลไหว้พระจันทร์

 

      เรื่องเล่า ตำนานต่างๆ ของเทศกาลไหว้พระจันทร์ และขนมไหว้พระจันทร์แตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น ซึ่งยังไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเรื่องราว หรือตำนานเรื่องไหนเป็นเรื่องจริง ทำให้ตำนานของขนมไหว้พระจันทร์มีมากมายหลายฉบับเลยทีเดียวค่ะ

 

ตำนานเทศกาลไหว้พระจันทร์

 

  • ตำนานของเทศกาลไหว้พระจันทร์นี้ เกี่ยวกับเทพปกรณัมจีนที่เล่าถึงเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ ที่ชื่อ “ฉางเอ๋อ” ซึ่งเป็นหญิงคนรักของ โฮวอี้ นักยิงธนูแห่งสวรรค์ ที่ใช้ธนูยิงดวงอาทิตย์ตกลงไปถึง 9 ดวงจากทั้งหมด 10 ดวง ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนบัญชาสวรรค์ จึงโดนลงทัณฑ์ให้ไปใช้ชีวิตธรรมดาเช่นมนุษย์ทั่วไปบนโลกมนุษย์กับฉางเอ๋อ แต่แล้วโฮวอี้ก็ถูกคนสนิททรยศฆ่าตาย ส่วนฉางเอ๋อนางได้ดื่มน้ำอมฤตเพื่อที่จะมีชีวิตอมตะ แล้วเหาะกลับไปยังดวงจันทร์อีกครั้งตามลำพังด้วยความเศร้า

 

  • อีกตำนานหนึ่ง เกิดในยุคของฮั่นเหวินตี้ แห่งราชวงศ์ฮั่น ได้ทรงพระสุบินว่า พระองค์ลอยขึ้นไปเที่ยวชมพระราชวังบนดวงจันทร์ และได้พบกับฉางเอ๋อกำลังร่ายรำอยู่อย่างงดงาม ในสุบินนั้น พระองค์ทรงเพลิดเพลินและเกษมสำราญเป็นอย่างยิ่ง กระทั่งเมื่อตื่นพระบรรทมและโปรดให้สุบินนั้นเป็นความจริง จึงมีรับสั่งให้นางสนมแต่งตัวและร่ายรำเลียนแบบเทพธิดาฉางเอ๋อที่พระองค์ได้พบเจอมา จนแพร่หลายไปสู่ราษฎรและเป็นประเพณีมา ซึ่งในอดีต ชาวจีนโดยเฉพาะหญิงสาวจะสวดขอพรจากฉางเอ๋อเพื่อที่ขอให้มีความเยาว์วัยและงดงามตลอดไป

 

 

  • อีกตำนานก็คือ ตำนานกระต่ายบนดวงจันทร์ เล่าว่า มีอยู่ปีหนึ่งในเมืองปักกิ่งเกิดโรคอหิวาระบาดหนัก เมื่อเทพธิดาฉางเอ๋อซึ่งอยู่บนดวงจันทร์ได้มองลงมาเห็น ก็รู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมาก จึงส่งกระต่ายหยกที่ปกติจะมีหน้าที่ตำยาอยู่บนดวงจันทร์ ให้ลงมารักษาโรคชาวบ้าน กระต่ายหยกแปลงกายเป็นหญิงสาวออกรักษาผู้คนหายจากโรค ชาวบ้านรู้สึกซาบซึ้งใจในความช่วยเหลือ จึงได้ตอบแทนด้วยการให้สิ่งของ แต่กระต่ายหยกก็ไม่ยอมรับสิ่งใดเลย เพียงแค่ขอยืมชุดชาวบ้านใส่เท่านั้น ไปถึงไหนก็จะเปลี่ยนชุดไปเรื่อย บ้างทีแต่งเป็นคนขายน้ำมัน บ้างก็เป็นหมอดูดวง เป็นชายบ้างหญิงบ้าง หลังจากกำจัดโรคให้ชาวเมืองจนหมดแล้ว กระต่ายหยกก็กลับขึ้นไปยังดวงจันทร์ นับแต่นั้นมาชาวบ้านจึงได้กราบไหว้บูชาเทพเจ้ากระต่ายในวันไหว้พระจันทร์ด้วย

 

ทำไมต้องกินขนมไหว้พระจันทร์?

 

ขนมไหว้พระจันทร์

 

 

      สำหรับประเพณีทานขนมไหว้พระจันทร์ในวันไหว้พระจันทร์นั้น เกิดขึ้นเมื่อสมัยมองโกลเข้ามาปกครองแผ่นดินจีน ชาวมองโกลได้มีการส่งทหารของตนไปประจำอยู่ในบ้านของชาวจีนครอบครัวละ 1 คนเพื่อสอดส่องดูแล ทำให้ชาวจีนขุ่นเคืองใจอย่างมาก

 

     ทำให้ ท่านหลิวปั๋วเวิน คิดได้วิธีหนึ่ง คือ ให้นำกระดาษเขียนข้อความ แล้วสอดไส้ไว้ในขนม เรียกร้องให้ชาวจีนทุกคนลงมือสังหารทหารมองโกลที่ประจำอยู่ในบ้านของตน อย่างพร้อมเพรียงกันในวันเพ็ญเดือนแปด ทั้งนี้เพื่อให้ชาวจีนที่ไปซื้อขนมมารับประทานกัน ได้อ่านข้อความดังกล่าวและช่วยกันกระจายข่าวนี้ออกไป เพื่อก่อการปฏิวัติโดยพร้อมเพรียงกัน ณ วันเพ็ญเดือนแปด ทำให้สามารถโค่นล้มอำนาจการปกครองของมองโกลในที่สุด

 

     และเพื่อเป็นการฉลอง และรำลึกการกอบกู้แผ่นดินที่ประสบความสำเร็จ ประเพณีรับประทานขนมไหว้พระจันทร์ในวันเทศกาลดังกล่าวจึงมีการสืบทอดกันตลอดมาจนถึงปัจจุบันนั่นเอง

 

ที่มา ขนมไหว้พระจันทร์

Matt Leung / Shutterstock.com

 

ที่มาของ มูนเค้ก หรือขนมไหว้พระจันทร์

 

 

      ขนมไหว้พระจันทร์ปรากฏครั้งแรกในยุคสมัยสงครามจีน (ปี 475-221 ก่อนคริสต์ศักราช) ซึ่งพิธีเซ่นไหว้พระจันทร์นั้น ตามบันทึกพงศาวดารจีน “โจวหลี่” บันทึกไว้ว่า ประเทศจีนมีการเซ่นไหว้พระจันทร์ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง ซึ่งพิธีการเซ่นไหว้นั้นมาจากความฝันของฮ่องเต้ หมิงหวง ในคืนวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ที่ทรงพระสุบินว่าได้เสด็จประพาสบนดวงจันทร์ และทรงพระเกษมสำราญยิ่ง เมื่อพระองค์ทรงตื่นบรรทม จึงทรงโปรดให้ฝันนั้นกลายเป็นจริงอีกครั้ง โดยมีรับสั่งให้พระสนมแต่งตัว และร่ายรำเลียนแบบเทพธิดาตามความฝัน

 

      ตั้งแต่นั้นมา ทุกวัน ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 จึงเป็นที่มาของเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่ราษฎรทั่วไปร่วมกันบูชาดวงจันทร์ทั่วประเทศจีน

 

      ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่มีใครรู้ที่มาจริงๆ ของเทศกาลไหว้พระจันทร์ เพราะจะมีการบันทึกที่เป็นลักษณะของเรื่องเล่าอิงประวัติศาสตร์หลายๆ ที่มาด้วยกัน แต่ ขนมไหว้พระจันทร์ ก็เป็นของหวานที่เป็นที่นิยมอย่างมากจนถึงปัจจุบัน และมีการปรับปรุงสูตรการทำขนมไหว้พระจันทร์ต่างๆ นานา จนมีหลายไส้ หลายแบบมากมายเลยทีเดียวค่ะ 

 

      ขนมไหว้พระจันทร์ บอกเลยว่าอร่อยมากๆ ก็จริง แต่ แคลอรี่ไม่น้อยนะจ๊ะ ไหว้พระจันทร์ปีนี้ ก็อร่อยกันแต่พอดีนะคะทุกคนนนน ^.^

 

====================