“น้ำ ลม ไฟ ป้าเจอมาแล้วเหลือแต่ดินเท่านั้นที่ยังไม่เจอ มันไม่มีอะไรต้องกลัวแล้วชีวิตนี้ ” ประโยคนี้ของ “ป้าใจ” ยังก้องอยู่ในโสตประสาทของผู้เขียน ทุกครั้งที่เกิดความรู้สึกท้อแท้กับปัญหาหลาย ๆ อย่าง รวมไปถึงปัญหาเศรษฐกิจย่ำแย่ทำให้ 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ธุรกิจขาดทุนมาโดยตลอด จนต้องทยอยปิดไปทีละร้าน ทีละร้าน จากทั้งหมด 6 ร้าน สุดท้ายตอนนี้ไม่เหลือเลยสักร้านเดียว เราโดนแค่นี้ เราคิดว่าเราคือผู้ที่ล้มเหลวทางธุรกิจและการใช้ชีวิต แล้วคนที่เจอปัญหาหนัก ๆ อย่างป้าใจหละ แกผ่านเรื่องร้าย ๆ มาได้อย่างไร “ป้าใจ” ผู้บริหารร้านอาหาร GARLIC 1992 RESTAURANT (กาลิค 1992) :::ภาพโดยเพจGARLIC 1992 RESTAURANT “ป้าใจ” คือผู้บริหารหลักของร้านอาหาร GARLIC 1992 RESTAURANT (กาลิค 1992) เกาะพีพี ซึ่งเป็นร้านอาหารเก่าแก่ของเกาะพีพีแห่งนี้ ร้านนี้เริ่มต้นจากการลงหุ้นกันของเพื่อน 3 คน หนึ่งในนั้นคือป้าใจคนที่ผู้เขียนกล่าวถึงในข้างต้น ร้านกาลิคเริ่มเปิดให้บริการเมื่อปี ค.ศ. 1992 หรือ พ.ศ. 2535 หากนับอายุก็ 28 ปีพอดี ซึ่งในตอนแรกทั้งร้านมีโต๊ะสำหรับให้ลูกค้านั่งเพียงแค่ 5 โต๊ะเท่านั้น จากนั้นจึงค่อย ๆ ขยับขยายจนกลายเป็นร้านใหญ่ และเป็นร้านที่ขึ้นชื่อของเกาะพีพีเลยทีเดียว ร้านร้านGARLIC 199 RESTAURANT (กาลิค 1992) เกาะพีพี :::ภาพโดยบุหงาอันดามัน::: ร้านGARLIC 199 RESTAURANT (กาลิค 1992) เกาะพีพี เป็นร้านอาหารแบบครบวงจรขายอาหารทุกชนิดทั้งอาหารไทยและต่างชาติ แต่เน้นขายอาหารไทยเป็นหลัก ด้วยรสชาติอาหารที่คงความเป็นอาหารไทยแท้ ๆ นั้น สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว จากหลายประเทศหลายเชื้อชาติ หากใครมาเที่ยวที่เกาะพีพี แล้วอยากกินอาหารไทยก็จะได้รับคำแนะนำ ให้มาที่ร้านGARLIC 1992 RESTAURANT (กาลิค 1992) แห่งนี้ ทั้งจากการบอกปากต่อปากของนักท่องเที่ยว ที่เคยมาเที่ยวเกาะพีพี และการนำเรื่องราวของร้านนี้กลับไปเผยแพร่ในโลกโซเชียล จึงทำให้ใคร ๆ ที่มาเที่ยวที่เกาะพีพี ไม่พลาดที่จะมากินอาหารที่นี่สักครั้ง ตัวอย่างอาหารร้าน GARLIC 1992 RESTAURANT (กาลิค 1992) :::ภาพโดยเพจGARLIC 1992 RESTAURANT ตัวอย่างอาหารร้าน GARLIC 1992 RESTAURANT (กาลิค 1992) :::ภาพโดยเพจGARLIC 1992 RESTAURANT นับตั้งแต่เปิดร้านมาประสบปัญหาอุปสรรคอะไรบ้าง ? เมื่อเจอคำถามนี้ป้าใจได้ยืดอกเล่าอย่างภาคภูมิใจ ว่าในการล้มแต่ละครั้งของตัวเองนั้นไม่ธรรมดา การเริ่มต้นจากร้านเล็ก ๆ จนขยายขึ้นไปเป็นอันดับหนึ่งของเกาะพีพี มันไม่มีอะไรง่ายเลยสักนิด ต้องมีการพลิกแพลงโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อเอาใจลูกค้าอยู่ตลอดเวลาเช่น การแจกสูตรอาหารให้กับลูกค้าที่สั่งอาหารชนิดนั้น ๆ นับว่าเป็นไอเดียที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอันมาก ต่อมามีการจัดทำการ์ดเล็ก ๆ สำหรับลูกค้าชาวต่างชาติท่านใด ที่มาเที่ยวเมืองไทย แล้วอยากมีชื่อตัวเองเป็นภาษาไทย ทางร้านก็จะตั้งชื่อและเขียนลงในการ์ด เพื่อให้ลูกค้านำกลับไปด้วย “ที่เรายังยืนอยู่ได้จนทุกวันนี้เพราะเราขายความเป็นชาติไทย” ความเป็นชาติไทยและเอกลักษณ์ของประเทศไทยนั้น คือการยกมือไหว้และกล่าวคำว่าสวัสดีครับ สวัสดีค่ะ พนักงานของร้านนี้จะปฏิบัติกับลูกค้าทุกคนที่เข้ามาในร้าน ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือแม้แต่ชาวไทยที่ทำงานที่เกาะพีพีแห่งนี้ อีกอย่างที่สังเกตได้ชัดเจน คือพนักงานหญิงทุกคนในร้าน จะแต่งกายด้วยการนุ่ง ผ้าถุง ผ้าไทย นับว่าเป็นอีกหนึ่งข้อที่แตกต่างไปจากร้านอื่น ๆ บนเกาะพีพี 26 ธันวาคม พ.ศ 2547 เกิดโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ จากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ ครั้งนั้นคลื่นยักษ์ได้กวาดล้าง เอาทุกสิ่งทุกอย่างในร้านไปทั้งหมด เหลือเพียงแค่เสาร้านทั้ง 6 เสาไว้เป็นต้นทุน หลังจากเหตุการณ์สงบ การเริ่มต้นใหม่จึงเกิดขึ้น และค่อย ๆ ก่อร่างสร้างตัวจนกลับมารุ่งเรือง และกลายเป็นร้านอันดับหนึ่งของเกาพีพีอีกครั้ง จนกระทั่ง 12 ปีต่อมา เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่เกาะพีพี :::ภาพโดยบุหงาอันดามัน::: 6 กุมพาพันธ์ พ.ศ. 2561 เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่เกาะพีพี ผู้เขียนเองก็อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วย สาเหตุต้นเพลิงมาจากร้านตรงข้าม ได้ลุกลามมาจนถึงร้านGARLIC 1992 RESTAURANT (กาลิค 1992) ทำให้ไฟไหม้จนหมดเกลี้ยง ขอบอกเลยว่าเป็นอะไรที่สะเทือนใจมาก ๆ เพราะร้านของผู้เขียนเองอยู่ท้ายซอย ไฟได้โถมแรงขึ้นมาก จนคิดว่าจะต้านไม่ไหว และลุกลามไปถึงท้ายซอยอย่างแน่นอน แต่นับว่ายังเป็นบุญอยู่มากที่อยู่ดี ๆ ลมก็เปลี่ยนทิศทางและไฟได้สงบลงในที่สุด สรุปคือไฟลุกลามมาไม่ถึงร้านของผู้เขียน แต่ร้านของป้าใจที่อยู่ต้นซอยได้ถูกไฟไหม้จนไม่เหลืออะไรเลย เหตุการณ์ครั้งนั้นคือที่มาของประโยคที่ว่า “น้ำ ลม ไฟ ป้าเจอมาแล้วเหลือแต่ดินเท่านั้นที่ยังไม่เจอ มันไม่มีอะไรต้องกลัวแล้วชีวิตนี้ ” ทุกอย่างในร้านถูกไฟไหม้จนหมด เหลือเพียง พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ :::ภาพโดยเพจGARLIC 1992 RESTAURANT “ล้มแล้วรีบลุก” ด้วยความร่วมแรงรวมใจของทุกคนในร้าน และพี่น้องที่อยู่ในเกาะพีพี การฮึดสู้ของป้าใจในครั้งนั้นทำให้ร้านกลับมาเปิดทำการได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาเก็บเศษซากของไฟไหม้เพียง 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นจึงเปิดขายมาเรื่อย ๆ และกลับมาขายดิบขายดีจนแขกล้นร้านอีกครั้ง ชาวเกาะพีพีไม่ทิ้งกัน กลุ่มนักดนตรีเล่นดนตรีเปิดหมวกเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอัคคีภัย2561 :::ภาพโดยบุหงาอันดามัน::: 3 มกราคม พ.ศ.2562 พายโซนร้อนปาบึก ที่บ้านของป้าใจได้รับผลกระทบโดยตรงเพราะพายุได้หอบเอาบ้านและสวนยางไปจนหมด เหตุการณ์พายุโซนร้อนปาบึก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เข้าที่เกาะพีพีโดยตรง แต่การกระพือข่าวของโลกโซเชียล ประกอบกับการตื่นตัวของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ ทำให้ทุกคนเดินทางออกจากเกาะพีพีจนเกือบหมด เหลือเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ครั้งนั้นสร้างผลกระทบให้กับผู้ประกอบการทุก ๆ ภาคส่วน เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการ :::ภาพโดยเพจGARLIC 1992 RESTAURANT ประมาณ 25 มกราคม พ.ศ. 2563 ไวรัสโคโรน่า COVID-19 เป็นเหตุการณ์ตรงที่กำลังเผชิญอยู่ขณะนี้ การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรน่า COVID-19 ที่ระบาดหนักและแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวลดลงเกินครึ่ง มาตรการเบื้องต้นของรัฐบาลคือการตรวจเข้มนักท่องเที่ยวทุกคนที่จะมาเที่ยวที่เกาะพีพี และสั่งปิดกิจการที่คาดว่าเสี่ยงต่อการติดเชื้อ อาทิเช่น บาร์ และร้านนวด จนเป็นเหตุให้ไม่มีนักท่องเที่ยว ในส่วนของร้านอาหารแม้ไม่ได้ประกาศสั่งปิด แต่บางร้านต้องปิดไปโดยปริยายเพราะไม่มีลูกค้า มีเพียงร้านอาหารส่วนน้อยเท่านั้นที่ยังเปิดอยู่หนึ่งในนั้นคือร้านGARLIC 1992 RESTAURANT (กาลิค 1992) แต่ด้วยคำสั่งห้ามไม่ให้นั่งกินในร้าน จึงเปลี่ยนเป็นขายแบบ Take away หรือขายใส่กล่องแทน วิกฤตโควิด-19 กับเมนูแบ่งปันเพื่อพี่น้องชาวเกาะพีพี :::ภาพโดยเพจGARLIC 1992 RESTAURANT ในสถานการณ์การที่ทุกอย่างหยุดชะงักเช่นนี้ แน่นอนว่าพี่น้องทั้งชาวไทยและแรงงานต่างด้าว ต้องขาดรายได้โดยสิ้นเชิง แต่ถึงขาดรายได้อย่างไรก็ยังต้องกินทุกวัน ป้าใจได้สั่งให้พนักงานในร้าน ออกโปรโมชั่น “อาหารแบ่งปันเพื่อพี่น้องชาวเกาะพีพี” ขายข้าวไข่เจียวเพียงกล่องละ 25 บาท ( ใส่ข้าวเยอะ ๆ ) ขายข้าวกระเพราไก่ 45 บาท เพิ่มไข่ดาวคิด 50 บาทเท่านั้น นับว่าเป็นราคาที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย สำหรับเกาะพีพีแห่งนี้ เรียกได้ว่าเป็นราคาที่ช่วยเหลือพี่น้องในยามยากจริง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ของพี่น้องที่อาศัยอยู่ในเกาะพีพีทุกคนได้อิ่มท้อง และพอประทังให้ก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน ร่วมกิจกรรมสังคม :::ภาพโดยเพจGARLIC 1992 RESTAURANT ร้านGARLIC 1992 RESTAURANT (กาลิค 1992) เกาะพีพี เป็นร้านอาหารที่ไม่ใช่แค่ตั้งหน้าตั้งตาขายอาหารเท่านั้น ในส่วนของงานสังคมไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางเทศบาลเกาะพีพีจัดขึ้น อาทิเช่น วันรักษ์พีพี (จัดขึ้นทุกวันที่ 26 ธันวาคมของทุกปี) งานลอยกระทง งานวันสงกรานต์ งานวันเด็ก ฯลฯ ทางร้านยินดีเข้าร่วมโดยไม่มีข้อแม้ใด ใด ทั้งสิ้น เรื่องราวของร้านGARLIC 1992 RESTAURANT (กาลิค 1992) เกาะพีพี เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย ป้าใจได้ฝากข้อความให้ได้คิดว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเราก็ตาม เพียงแค่เรามีคำว่า “สู้” อยู่ในหัวใจแค่คำเดียว ก็ไม่มีอะไรมาทำร้ายเราได้ "สู้" :::ภาพโดยเพจGARLIC 1992 RESTAURANT ผู้เขียนมักจะเก็บเรื่องราวของป้าใจ ไว้เตือนตัวเองเสมอ ถึงแม้วันนี้จะเจอทั้งพิษเศรษฐกิจและโควิด-19 ในคราวเดียวกัน แต่ยังแอบนึกเข้าข้างตัวเองว่าอย่างน้อย ก็ยังมีคนที่เคยผ่านเหตุการณ์ร้าย ๆ มามากกว่าเรา ขอทิ้งท้ายบทความนี้สำหรับเพื่อน ๆ ทุกท่าน หากใครที่กำลังท้อแท้หรือสิ้นหวัง อยากให้มองเรื่องราวของร้านGARLIC 1992 RESTAURANT (กาลิค 1992) เกาะพีพี ไว้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ เก็บเอาความเข้มแข็งของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่าง “ป้าใจ” ไว้เป็นแรงพลังให้ลุกขึ้น “สู้” ในวันที่ท้อแท้และล้มลง “เมื่อล้มจงรีบลุก” ขอบคุณภาพประกอบจากแอดมินเพจ https://web.facebook.com/Garlic-1992-Restaurant