อำเภอแม่สายเป็นอำเภอหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย ด้วยมีอาณาเขตที่เป็นพรมแดนติดกับประเทศพม่า จึงก่อเกิดเป็นแหล่งซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าที่น่าสนใจมากแห่งหนึ่ง อีกทั้งการจะเดินทางไปเที่ยวยังประเทศพม่าก็ง่ายนิดเดียวเพียงแค่เสียค่าทำหนังสือผ่านทางชั่วคราว 30 บาทเท่านั้นก็ข้ามไปเที่ยวชมเที่ยวซื้อสินค้าราคาถูกที่ฝั่งประเทศพม่าได้แล้ว แต่ก็ใช่ว่าชายแดนแม่สายจะมีดีแต่เรื่องการค้าขายเท่านั้น ตรงจุดพรมแดนนี้เองยังมีสถานที่สถานที่หนึ่งที่น่าสนใจและควรไปเที่ยวชมอย่างยิ่งนั่นก็คือ วัดพระธาตุดอยเวา ศาสนสถานสำคัญของอำเภอแม่สาย ซึ่งจะขอแนะนำให้ทุกท่านมาเที่ยวหลังจากสถานการณ์โรคโควิด-19 คลี่คลายกันครับ ในการเดินทางมาวัดพระธาตุดอยเวานั้นก็ไม่ยากเลย เพียงแค่ท่านเดินทางมาจากตัวเมืองเชียงรายมาตามถนนเชียงราย-แม่สายจนสุดเส้นถนน ก่อนถึงด่านพรมแดนแม่สาย-พม่าประมาณ 50 เมตร ตรงซ้ายมือที่เป็นตลาดขายของจะมีซอยสำหรับเดินทางขึ้นสู่วัดพระธาตุดอยเวา ทางจะแคบนิดหนึ่งเพราะจะมีแต่ร้านขายของอยู่เต็มสองข้างทางแต่รถยนต์ก็พอไปได้อยู่ จากปากซอยขึ้นมาบนวัดก็จะใช้ระยะทางประมาณ 200 เมตร ภายในวัดมีจุดที่น่าสนใจดังนี้ 1. พระธาตุเจดีย์ดอยเวา เป็นพระเจดีย์เก่าแก่ที่สร้างโดยพระองค์เวา กษัตริย์เมืองนาคพันธุ์สิงหนวัติ (เชียงแสนโบราณ)พระองค์หนึ่งเมื่อหลายร้อยปีก่อน ต่อมาได้เกิดการชำรุดทรุดโทรมจึงมีการบูรณะขึ้นมาใหม่เป็นศิลปะแบบล้านนาหุ้มด้วยแผ่นทองจังโกฎิ ด้วยความเก่าแก่ของพระเจดีย์องค์นี้จึงมีผู้คนจากทั่วสารทิศมาสักการะขอพรไม่ขาดสาย 2. รูปปั้นแมงเวา เป็นรูปปั้นแมงเวาขนาดใหญ่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของวัด แมงเวาในภาษากลางก็คือแมงป่องยักษ์ ในสมัยที่พระองค์เวาผู้สร้างวัดยังทรงพระเยาว์ ทรงชอบขุดรูแมงเวาเล่นจึงมีผู้นำชื่อแมงเวามาเรียกเป็นชื่อของพระองค์ และเมื่อพระองค์มาสร้างวัดแห่งนี้จึงได้ตั้งชื่อวัดตามพระนามของพระองค์ด้วย 3. วิหารพระเจ้าอินทร์สาน วิหารหลังนี้เป็นวิหารทรงไทลื้อประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่เรียกว่าพระเจ้าอินทร์สาน เป็นพระพุทธรูปที่แตกต่างจากพระพุทธรูปทั่วไปคือ จะใช้ไม้ไผ่ในการสานขึ้นรูปให้เป็นพระพุทธรูป ผู้ที่เป็นคนสร้างจึงต้องอาศัยความรู้ความชำนาญและใช้เวลาพอสมควรจึงจะสร้างให้เสร็จและสวยงามได้ เหตุที่เรียกว่าพระเจ้าอินทร์สานก็เพราะมีความเชื่อว่าหากไม่มีพระอินทร์มาช่วยเนรมิตก็คงจะสร้างไม่สำเร็จแน่นอน 4. พิพิธภัณฑ์หมูป่า พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสถานที่จัดแสดงภาพถ่าย ประวัติ การดำเนินงานช่วยเหลือนักฟุตบอลทีมหมูป่าที่ติดอยูในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนเมื่อปี 2561ไว้ทั้งหมด ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้สามารถเข้าชมได้ฟรีทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. 5. จุดชมวิว หากใครได้มาเที่ยววัดพระธาตุดอยเวาแล้วไม่ได้มาชมวิวที่จุดชมวิวถือว่าพลาดมาก ๆ เพราะจุดชมวิวของวัดพระธาตุดอยเวานั้นหันหน้าไปทางฝั่งประเทศพม่า ท่าจะได้เห็นทิวทัศน์ป่าเขา อาคารบ้านเรือน วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวพม่าทั้งหมด นับว่าเป็นจุดชมวิวที่น่าสนใจมาก ๆ หลังจากที่ท่านเยี่ยมชมจุดต่าง ๆ ภายในวัดพระธาตุดอยเวาเสร็จแล้ว ขากลับก็ขอแนะนำให้มาแวะชอปปิ้งที่ตลาดแม่สายตรงด่านพรมแดน มีสินค้ามากมายหลากหลายให้ท่านเลือกซื้อกัน เช่น ขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ เสื้อผ้าแฟชั่น กระเป๋า นาฬิกา เครื่องเล่นดิจิตอล เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องประดับ เครื่องรางของขลังต่าง ๆ ฯลฯ ราคาถูก ๆ ทั้งนั้น เรียกว่ามาเที่ยววัดพระธาตุดอยเวาไม่มีคำว่าเสียเที่ยวแน่นอนครับ หมายเหตุ รูปภาพทุกรูปภาพถ่ายโดยนักเขียน มิได้คัดลอกมาจากที่อื่นแต่อย่างใด