ทนายพาเที่ยว: "ท่องเที่ยววัดปัญญาฯจาริกไกลไปอินเดีย" เรื่อง/ภาพ: ทนายน้อยหน่า ทุกครั้งที่ไปนั่งเวรศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปทุมธานีที่คลองหก ถนนรังสิต-นครนายกจะผ่านป้ายทางเข้าวัดปัญญานันทารามคลองหก เราเองปกติจะไปวัดชลประทานรังสฤษดิ์ของหลวงพ่อปัญญา(พระพรหมมังคลาจารย์) ที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และได้ทราบว่าหลวงพ่อมาสร้างวัดปัญญาฯที่ตำบลคลองหก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จึงให้ความสนใจและตั้งใจว่าจะเข้าไปเยี่ยมชมให้ได้ เมื่อโอกาสเหมาะจึงได้ตั้งใจไปวันอาทิตย์เพราะเป็นวันหยุดและรถไม่ติด หากขับรถมาเองจากกรุงเทพฯให้มาทางถนนรังสิต-นครนายกแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางคลองหกขับมาเรื่อยๆตามถนนคลองหกตะวันตก เมื่อถึงปากซอยคลองหกตะวันตก 59 จะมีป้ายทางเข้าวัดปัญญาฯก็ขับรถเลี้ยวซ้ายเข้าซอยแล้วตรงเข้าไปประมาณ 500 เมตรก็ถึงประตูวัด สิ่งแรกที่มองเห็นแต่ไกลเลยคือพระมหาเจดีย์พุทธคยาจำลอง ก่อนเข้าวัดจะมีลานจอดรถขนาดใหญ่รองรับผู้มาเยี่ยมชมแล้วเดินเข้าไปชมสถานที่ต่างๆในวัดได้อย่างสะดวก พระมหาเจดีย์จำลองนี้สร้างจำลองมาจากพระมหาเจดีย์พุทธคยาที่ตั้งอยู่ที่เมืองคยาประเทศอินเดียอันเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณสำเร็จเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็น 1 ใน 4 สังเวชนียสถานที่แสดงถึงสถานที่เหตุการณ์สำคัญในพระพุทธศาสนาคือ 1.ประสูติ 2.ตรัสรู้ 3.ประกาศพระธรรม 4.ปรินิพพาน ภายในพระมหาเจดีย์จำลองนี้ประดิษฐานพระพุทธเมตตาจำลอง ซึ่งองค์จริงประดิษฐานอยู่ภายในพระมหาเจดีย์พุทธคยา พระพักตร์พระพุทธเมตตานี้ได้แสดงถึงพระเมตตาอันเปี่ยมล้นของพระพุทธเจ้า หากใครเคยเห็นรูปพระพุทธเมตตาองค์จริง เมื่อได้มากราบองค์จำลองก็น่าจะรู้สึกประหนึ่งว่าได้กราบองค์จริงทีเดียวเนื่องจากจำลองได้เหมือนองค์จริงมาก เมื่อกราบพระพุทธเมตตาจำลองแล้ว หากเดินออกจากพระมหาเจดีย์จำลองก็จะพบเสาพระเจ้าอโศกมหาราชจำลองอยู่ทางขวาของพระมหาเจดีย์ฯซึ่งมีพระพุทธเจ้าน้อยจำลองประดิษฐานอยู่ เบื้องหน้ามีสระโบกขรณีจำลอง ทั้งเสาพระเจ้าอโศกมหาราชจำลอง พระพุทธเจ้าน้อยจำลอง และสระโบกขรณีจำลอง ได้จำลองมาจากของจริงที่สวนลุมพินีวัน ประเทศเนปาล อันเป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งถือกำเนิดเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ จากนั้นก็เดินเข้าไปที่ลานแสดงธรรม จะมีธัมเมกขสถูปจำลองประดิษฐานอยู่โดยจำลองมาจากของจริงซึ่งประดิษฐานอยู่ที่เมืองสารนาถประเทศอินเดียอันเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมจักรกัปปวัตนสูตรแก่ปัญจวัคคีย์จนโกณฑัญญะได้ออกบวชเป็นภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนาทำให้พระรัตนตรัยครบ 3 ประการคือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สังเวชนียสถานจำลองสุดท้ายที่ได้ชมคือมหาสถูปปรินิพพานจำลองซึ่งได้จำลองมาจากของจริงที่เมืองกุสินาราอันเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ทำให้นึกถึงปัจฉิมโอวาทของพระพุทธเจ้าที่ถือเป็นมรดกธรรมที่ว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลายที่ยังเวียนว่ายในสังสารวัฏ เราขอเตือนท่านทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ขอท่านจงยังประโยชน์ตนและผู้อื่นด้วยความไม่ประมาทเถิด" ภาพมหาสถูปปรินิพพานจำลอง ขอบคุณภาพจาก fb สังเวชนียสถาน วัดปัญญานันทาราม ในช่วงที่เดินชมสังเวชนียสถานจำลองนี้ได้มีพระภิกษุมาอธิบายที่มาของพุทธอุทยานจำลองนี้ว่าเกิดจากแนวคิดของพระปัญญานันทมุนีเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดปัญญาฯที่ต้องการให้ผู้ที่ไม่มีโอกาสได้ไปชมของจริงที่อินเดียได้มีโอกาสเข้าถึงและสัมผัสได้เสมือนหนึ่งได้ไปจาริกที่อินเดียจริงๆ เพราะการได้ชมสังเวชนียสถานเป็นการตอกย้ำศรัทธาว่าพระพุทธเจ้ามีตัวตนจริง เป็นมนุษย์จริงๆที่มีความเพียรจนสามารถค้นพบสัจธรรมและวางแนวทางให้มนุษย์ผู้ปรารถนาความพ้นทุกข์สามารถปฏิบัติได้จริงไม่ใช่เรื่องเหลือวิสัย เพราะหากคนเราเข้าใจเรื่องธรรมะที่พระพุทธเจ้าสอนแล้ว เช่น เรื่องกฎไตรลักษณ์ คนจะทุกข์น้อยลง เพราะเข้าใจความจริงว่าสุขก็อยู่ไม่นาน ทุกข์ก็อยู่ไม่นาน ดังนั้นเมื่อพบเหตุการณ์ที่ทำให้มีความสุขก็จะตระหนักได้ว่าวันหนึ่งความสุขอาจจะไม่ยั่งยืน เมื่อวันที่เกิดความเปลี่ยนแปลงจนความสุขลดน้อยลงก็จะไม่เสียใจมาก ในทำนองเดียวกันเมื่อพบเหตุการณ์ที่ทำให้มีความทุกข์ก็จะตระหนักได้ว่าความทุกข์ก็ไม่ยั่งยืนเดี๋ยวมันก็ผ่านพ้นไป ขอเพียงอดทนฝ่าฟันไปให้ได้ ไม่นานความทุกข์ก็จะค่อยๆลดลงจนหมดไป ที่วัดปัญญาฯนี้นอกจากมีพุทธอุทยานสังเวชนียสถานจำลองให้พุทธศาสนิกชนและผู้สนใจเยี่ยมชมแล้ว บรรยากาศภายในวัดยังร่มรื่นติดริมน้ำเหมาะแก่การทำจิตใจให้สงบ หากเหนื่อยกับการทำงานต้องการเพิ่มพลังจิตพลังใจให้ตัวเองที่เรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่าชาร์จแบต สถานที่สงบร่มรื่นแห่งนี้น่าจะช่วยได้มากทีเดียว สำหรับผู้ที่ชอบอ่านหนังสือที่นี่มีศูนย์หนังสือจัดจำหน่ายหนังสือหมวดธรรมะหลากหลายสำนักพิมพ์ให้เลือกสรรตามใจชอบ การเยี่ยมชมสังเวชนียสถานจำลองในครั้งนี้ได้จุดประกายความอยากไปเยือนอินเดียเพื่อเยี่ยมชมสังเวชนียสถานจริงที่มอดไหม้ในใจเราให้กลับมาลุกโชนอีกครั้งหนึ่ง