สวัสดีครับนักเที่ยวสายบุญทั้งหลายวันนี้ผู้เขียนจะพาท่านมาดูพระธาตุอินทร์แขวนที่ประเทศพม่าครับ....ล้อเล่นครับพม่าไกลไปมาใกล้ ๆ กันก่อนก็แล้วกัน มาดูพระธาตุอินทร์แขวนจำลองต้องที่นี้เลยครับ ....อำเภอเชียงดาว สถานที่ที่ตั้งพระธาตุอินทร์แขวนจำลองนี้ ตั้งอยู่ที่วัดพระธาตุดอยมอญจิ่ง ตั้งอยู่ที่ตำบล ทุ่งข้าวพวง อำเภอ เชียงดาว เชียงใหม่มาดูกันครับว่าแต่ละจุดภายในวัดมีจุดที่น่าสนใจอะไรกันบ้าง จุดที่หนึ่ง พระพุทธรูปรอบโพธิ์ (ผู้เขียนตั้งชื่อเอาเองครับ) จุดนี้จะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่หลายองค์แต่ถ้าท่านนักเที่ยวสังเกตดี ๆ ท่านจะเห็นว่าพระพุทธรูปทุกองค์จะมีพุทธศิลป์ที่เป็นแบบไทใหญ่สวยงามมากซึ่งมักจะเห็นไม่บ่อยนักสำหรับวัดโดยทั่ว ๆ ไป จุดที่สอง เมื่อท่านเข้ามายังบริเวณวัดแห่งนี้จะพบพระธาตุอินทร์แขวน ใช่ครับ...พระธาตุอินท์แขวนจริง ๆ จำลองมาจากประเทศพม่า (อ่อ..ผู้เขียนลืมบอกไปว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีพุทธศิลป์แบบไทใหญ่นะครับ ) ไม่ว่าจะเป็นศาสนถานต่าง ๆ ภายในวัดจะเป็นศิลปะแบบไทใหญ่ (ผู้เขียนว่าได้รับอิทธิพลมาจากพม่าด้วยก็น่าจะว่าได้) พระธาตุอินทร์แขวนนี้นะครับจะมีลักษณะเป็นองค์สีทองทั้งองค์จะตั้งอยู่บนหน้าผาธาตุพระธาตุจะเป็นทรงกลมเหมือนก้อนหิน และบนปลายพระธาตุจะเป็นเหมือองค์พระธาตุที่เราพบเห็นโดยทั่วไป ปลายยอดสุดจะมีฉัตรสีทอง (สวยงามมากครับ) อีกทั้งบริเวณด้านล่าง (ฐานองค์พระธาตุท่านสามารถเข้าไปชมทัศนียภาพโดยรอบ ๆ ซึ่งเป็นภูเขาล้อมรอบมองดูสวยงาม สดชื่น สงบ ร่มเย็นอย่างบอกไม่ถูก (สุขใจจริง ๆ ) จุดนี้เป็นจุดแรกนะครับต้องมากราบให้ได้เพราะหากไม่ได้กราบสักการะขอพอท่านจะรู้สึกเหมือนกับว่ายังมาไม่ถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ จุดที่สาม พระเจดีย์ทองเป็นพระเจดีย์สีทองทั้งองค์ประดิษฐานอยู่ภายในวัดซึ่งมีความสวยงาม และโดดเด่นมากอีกจุดหนึ่งที่เมื่อมาแล้วต้องหาโอกาสกราบสักการะให้ได้ นอกจากนี้ด้านข้างพระเจดีย์ยังมีรูปปั้นของเทพทันใจ (โบโบยี ) อยู่บริเวณด้านข้างพระวิหารตรงนี้ผู้เขียนทราบว่าเทพทันใจนี้คนไทใหญ่จะเรียกว่า โบโบยี แปล “พ่อปู่” หรือ “พ่อใหญ่” คนมอญ-พม่านับถือ การสร้างรูปปั้นนี้ขึ้นเพื่อรำลึกคุณงามความดี และมีความเชื่อว่าโบโบยีนี้เป็นกึ่งผีกึ่งเทพ โบโบยีมีใบหน้ายิ้มแย้ม ท่าทางใจดี มือซ้ายถือไม้เท้า มือขวาชี้ไปข้างหน้า คนไทยพากันเรียกว่า “เทพทันใจ” ผู้เขียนทราบว่าหากจะขอพรเมื่ออธิษฐานเสร็จแล้วต้องเอาหน้าผากไปสัมผัสกับนิ้วชี้ของเทพทันใจก็จะได้รับพรสมปรารถนาตามที่ตนขอ (อาจจะเป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ) จุดที่สี่ ท่านจะพบกับศาลาธรรมซึ่งทางวัดใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานบุญ งานสำคัญทางพระพุทธศาสนาโดยศาลาหลังนี้จะมีความต่างจากศาลาหลังอื่น ๆ ที่ผู้เขียนเคยพบมานะครับศาลาแห่งนี้มีความเป็นเอกลักษณ์คือจะเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทใหญ่ผสมผสานแบบพม่า ด้านในจะมีการประดับตกแต่ไว้อย่างวิจิตรงดงามมาก และหากสังเกตดี ๆ พระที่ประดิษฐานในศาลาธรรมแห่งนี้บางองค์จะมีพุทธศิลป์ที่งดงามมากเป็นศิลปะแบบไทใหญ่ .....ทราบแล้วจะช้าอยู่ใยครับมาแล้วกราบขอพรทันทีเพื่อความเป็นสิริมงคลแห่งชีวิตตนเอง ครอบครัว เห็นหรือยังครับว่าแม้อำเภอเชียงดาวจะเป็นอำเภอเล็ก ๆ แต่ยังมีวัดที่รอให้ท่านนักเที่ยวสายบุญมาค้นหา (มาตามบุญ) กันอีกหลายวัดเลยนะครับ....เอาหละครับสำหรับวันนี้เท่านี้ก่อนนะครับ...แล้วพบกันใหม่ ธรรมะสวัสดีครับ เครดิตภาพทั้งหมดจากผู้เขียน ดร.อาบแสงจันทร์ ต.