“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” สุขสันต์วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม 2564 หนุ่ม-สุทนยังคงอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลกครับ วันนี้พาท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์เมื่อประมาณ 800 ปีที่ผ่านมา ไปกันที่ "วัดกลาง" ชื่อสั้น ๆ อยู่ในอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลกวัดกลาง ผมขอเริ่มต้นด้วยเรื่องราวความเป็นมาของ "วัดกลาง" เชื่อว่าเมื่อครั้งเป็นเมืองบางยางพ่อขุนบางกลางหาวหรือพ่อขุนบางกลางข้าว เจ้าเมืองบางยางเมื่อครั้งกระนู้น!!! คงจัดสร้างวัดนี้ขึ้นมาแล้วต่อมาพ่อขุนบางกลางหาวได้รวบรวมผู้คนเพื่อยกทัพไปตีเมืองสุโขทัยแต่ก่อนจะยกทัพไปนั้น สันนิษฐานว่าพ่อขุนบางกลางหาวได้ตั้งจิตอธิษฐานปลูกต้นจำปาไว้ 1 ต้น ถ้าหากยึดเมืองสุโขทัยได้ขอให้ต้นจำปาออกดอกเป็นสีขาว!!! แล้วก็ยึดเมืองสุโขทัยได้เป็นผลสำเร็จจึงปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์พระองค์แรกของเมืองสุโขทัยทรงพระนามว่า "พ่อขุนศรีอินทราทิตย์" ราชวงศ์พระร่วงแห่งกรุงสุโขทัยสำหรับต้นจำปาพอเติบโตขึ้นมาก็ออกดอกสีขาวเต็มต้นดังที่ตั้งจิตอธิษฐานไว้ บริเวณโดยรอบวัดกลาง"วัดกลาง" พอหมดยุคของกรุงสุโขทัยแล้วเข้ามาในสมัยอาณาจักรแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีสมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดฯ ให้อัญเชิญองค์พระพุทธรูปแกะสลักด้วยหินทรายหรือศิลาแลงสมัยลพบุรีขึ้นหลังช้างมาประดิษฐานในพระอุโบสถวัดกลางเพื่อประกาศให้รู้ว่านี่คืออาณาจักรแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาครับท่านผู้อ่านสนใจไปเที่ยวอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ต้องแวะเข้าชมและกราบบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของ "วัดกลาง" เป็นวัดเก่าแก่อายุประมาณ 800 ปี เมื่อเข้ามาภายในบริเวณของวัดกลางต้องเข้าชมโดยเริ่มต้นจุดที่ 1 กราบขอพรพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ กษัตริย์พระองค์แรกของกรุงสุโขทัยพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนศรีอินทราทิตย์จุดที่ 2 ชมต้นจำปาจะออกดอกสีขาว ในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคมของทุกปีทางวัดกลางเรียกว่า 1 พรรษาคือ 3 เดือน ต้นจำปาจุดที่ 3 พระพุทธรูปลอยน้ำ เป็นพระพุทธรูปแกะสลักด้วยศิลาแลงชาวบ้านพบในลำน้ำแควน้อยจึงเรียกหลวงพ่อลอยน้ำ พระพุทธรูปลอยน้ำจุดที่ 4 เข้าชมในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปซึ่งเป็นพระประธานอายุ 800 ปี เรียกว่า "หลวงพ่อใหญ่หรือหลวงพ่อโตปางมารวิชัย" เป็นศิลปะผสมผสานเชียงแสนกับล้านช้างเพราะแผ่นดินเชื่อมติดกับล้านช้างปัจจุบันคือ สปป.ลาว องค์พระพุทธรูปหลวงพ่อใหญ่หรือหลวงพ่อโต แต่หนุ่ม-สุทนขออนุญาตเรียก "หลวงพ่อสามยิ้ม" เพราะว่าพอเรานั่งอยู่หน้าพระพักตร์ท่านจะยิ้มให้หรือไปอยู่ด้านซ้ายหรือขวาท่านก็จะยิ้มให้เหมือนเดิมถอยหลังไปสุดท่านก็ยิ้มให้อีกเช่นกัน ผมจึงขอเรียก "หลวงพ่อสามยิ้ม" ส่วนองค์พระพุทธรูปสมัยลพบุรีปางสมาธิที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดฯให้อัญเชิญมาก็ประดิษฐานหน้าองค์พระประธานในพระอุโบสถครับหลวงพ่อใหญ่พระพุทธรูปสมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดฯ ให้อัญเชิญมาภาพเขียนผนังอุโบสถมีคำกล่าวกันว่าชาวบ้านในย่านอำเภอนครไทยจะไม่บนบานศาลกล่าวแต่จะเข้ามาทำบุญกราบบูชาขอพรต่อองค์พระพุทธรูปประดิษฐานในพระอุโบสถและขอพรพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เพราะเชื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก เช่น ขอให้ประสบผลสำเร็จ เจริญในหน้าที่การงาน ครอบครัวมีความสุขหรือสอบเข้าทำงาน เป็นต้น น่าสนใจไปเที่ยวมาก ๆ ครับ "วัดกลาง" อำเภอนครไทย จ.พิษณุโลก ได้ศึกษาเรื่องราวประวัติศาสตร์เมื่อครั้ง 800 ปี จากเมืองบางยาง-สุโขทัย-อยุธยา-กรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์-สยามประเทศและต่อมาเป็น "ประเทศไทย" สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดพิษณุโลกสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก โทรศัพท์ 055-252-742-3 ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ขอขอบคุณ ผอ.ญาติกา แก้วบริสุทธิ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก ที่ให้การต้อนรับคณะสื่อมวลชนชมรมนักข่าวท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย “เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป...กับ...ผมหนุ่ม-สุทน” ขอบคุณและสวัสดีครับกราบบูชาขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ที่ "วัดกลาง" จ.พิษณุโลก เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์แฟนเพจเฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/#ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น.#ติดต่อวิทยากรด้านการท่องเที่ยวได้ที่ได้ที่แฟนเพจเฟซบุ๊ค#เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel #Tourism local life ชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวไทยยั่งยืนกำลังหาที่เที่ยวหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !