มีเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่ยังมีรถม้าเป็นพาหนะไปตามถนนหนทาง เนื่องมาจากพม่าเพิ่งเปิดประเทศได้ประมาณ 10 ปี วิถีการสัญจรของผู้คน จึงยังคงไว้ซึ่งความโบราณ หนึ่งในรูปแบบนั้นคือการโดยสารรถม้า ในเมืองท่องเที่ยวเด่น ๆ ที่ยังมีรถมาให้เห็นได้แก่ เมืองพุกาม เมืองเจดีย์สี่พันองค์ เมืองอังวะ ตำนานแห่งความรุ่งเรือง และเมืองพินอูลวิน เมืองตากอากาศของเจ้าอาณานิคมอังกฤษ รถม้าเมืองพุกามเปิดท้าย จากการสังเกตและเคยได้ใช้บริการรถม้ารับจ้างใน 3 เมือง จึงสามารถเห็นความแตกต่างได้ รถม้าเมืองพุกาม เป็นแบบเหมาเต็มวัน พาเที่ยวแวะชมตามเจดีย์ต่าง ๆ จุดแวะเจดีย์ใหญ่ได้แก่ เจดีย์ชเวสิกอง วัดมนูหะ วิหารธรรมยางจี เจดีย์ติโลมินโล เจดีย์ชเวซันดอว์ ในหนึ่งวันจะได้ประมาณ 4-5 เจดีย์ใหญ่ และเจดีย์เล็กระหว่างทาง แล้วแต่สารถีจะพาแวะชม ในการชมเจดีย์ที่มีอยู่มากมายนับพัน ถ้ามีเวลาสามวันสามารถแวะชมเจดีย์ใหญ่ ๆ ได้แบบไม่ซ้ำ ในการโดยสารรถม้าที่พุกามจะต้องมีทริคในการเกาะรถม้าให้ดี เพราะเวลาม้าเริ่มวิ่ง ห้องโดยสารด้านหลังจะลาดเทลงเล็กน้อย ทำให้ต้องใช้มือและขาเกาะเกี่ยวตัวรถไว้ให้ดี เพราะด้านท้ายรถม้าของเมืองพุกามจะเปิดโล่ง รถม้าเมืองอังวะมีบานปิดข้างท้าย รถม้าเมืองต่อมาคือรถม้าเมืองอังวะ แม้ว่าเมืองนี้จะเคยรุ่งเรืองมากในอดีต แต่ปัจจุบันมีโบราณหลงเหลือเพียงไม่กี่แห่ง แต่สิ่งที่น่าสนใจคือความเป็นอยู่ของผู้คน บ้านเรือนและวิถีชีวิตแบบชนบท รถม้าของเมืองอังวะ รูปร่างคล้ายรถม้าเมืองพุกาม ต่างกันตรงที่ข้างท้ายมีบานปิด ทำให้หาที่จับกันตกรถได้ง่ายกว่า รถม้าอีกเมืองท่องเที่ยวที่แตกต่างออกไปจากสองเมือง คือรถม้าของเมืองพินอูลวิน รถม้าของเมืองนี้มีห้องโดยสารแบบรถม้าของฝรั่ง คล้ายรถม้าเจ้าหญิงที่มีบานประตูเปิด ผู้โดยสารขึ้นไปนั่งได้อย่างสบาย เนื่องจากเมืองพินอูลวินเป็นเมืองที่อังกฤษเลือกเป็นเมืองตากอากาศ ด้วยสภาพอากาศค่อนข้างเย็นสบาย เมืองนี้ยังมีสถาปัตยกรรมแบบอังกฤษหลงเหลืออยู่หลายแห่ง หอนาฬิกาเพอร์เซลถือเป็นจุดเด่นของเมือง อีกทั้งยังมีที่พักบางแห่งเป็นตึกสไตล์โคโลเนียล รถม้าเมืองพินอูลวินแบบมีห้องโดยสาร ปัจจุบันรถม้าในแต่ละเมืองค่อยมีจำนวนลดน้อยลง เป็นไปตามยุคสมัยและกาลเวลา ม้าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องการการเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี เมื่อเขาหมดอายุขัย หลายคนหันมาออกรถรับจ้างทดแทน