คณะหมอลำเสียงอิสาน ที่นำโดย คุณแม่นกน้อย อุไรพรนั้น เชื่อว่าเกือบทุกคนที่ได้ยินชื่อ จะต้องรู้จักกันอย่างแน่นอน ด้วยความที่เป็นวงหมอลำที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ ที่ประวัติการก่อตั้งวงยาวนานมาแล้วกว่า40ปี ผู้เขียนเองก็เคยได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสถึงเบื้องหลังของการแสดงกับบรรยากาศในหลังเวทีของวงหมอลำวงนี้อยู่บ่อย ๆ จึงตั้งใจนำภาพเบื้องหลังที่เคยถ่ายเก็บเอาไว้มาเขียนเล่าให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน "เสียงอิสาน" เป็นหมอลำที่มีบ้านพักตั้งอยู่ที่ บ้านหนองใส ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ซึ่งก็อยู่ห่างออกมาจากตัวเมืองไม่ไกลนัก สามารถขับรถหรือนั่งรถโดยสารเข้าไปได้ง่าย ๆ ที่บ้านพักนี้สร้างเอาไว้สำหรับเป็นที่พักอาศัยของสมาชิกภายในวง และเป็นที่สำหรับซักซ้อมการแสดงใหม่ ๆ ตอนที่พักการเดินสายแสดงในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม ซึ่งในเวลานี้ที่บ้านพักจะคึกคักเป็นพิเศษจากเสียงซ้อมของเหล่าแดนเซอร์และหมอลำที่ดังมาตลอดทั้งวัน ภาพด้านบนคือการเตรียมซักซ้อมการแสดงตลอดเดือนสิงหาคมถึงตุลาคมของทุกปี ในสมัยก่อนเวทีของเสียงอิสานนั้น ใช้โครงเหล็กก่อเป็นเวทีขึ้นมา แต่ด้วยปัญหาด้านเวลาและจำนวนของคนงาน ในปี2551 ทางวงจึงเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ระบบไฮโดรลิกสองคันมากางออกเป็นเวทีแทน จึงทำให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก ถือว่าเป็นหมอลำวงแรกในประเทศไทยที่ใช้ระบบเวทีแบบนี้ ซึ่งจากที่ผู้เขียนได้ไปสัมผัสมา การตั้งเวทีด้วยการใช้รถไฮโดรลิกนั่นใช้เวลาตั้งแค่หนึ่งชั่วโมงกว่า ๆ เอง และยังแข็งแรงทนต่อลมพายุได้ดีกว่าเวทีที่ก่อด้วยโครงเหล็กเป็นอย่างมาก รูปแบบของการทำงาน เมื่อขบวนคาราวานพากันขับรถมาถึงสถานที่ทำการแสดง ตามที่เจ้าภาพได้ติดต่อว่าจ้างล่วงหน้าเอาไว้ สมาชิกในวงที่มีหน้าที่รับผิดชอบก็จะพากันออกไปทำงานตามแผนกของตัวเอง ทั้งแผนกเวที แผนกระบบไฟและเครื่องเสียง แผนกคอสตูม แผนกครัว จะถูกแบ่งการทำงานกันอย่างเป็นระบบ ทำให้เวลาในการเตรียมความพร้อมสำหรับการแสดงในค่ำคืนที่จะมาถึง สามารถเสร็จลุล่วงได้อย่างรวดเร็ว เมื่อแผนกแรก ๆ เตรียมงานกันเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว คราวนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของแผนกม่าน แผนกนักดนตรี แผนกแดนซ์เซอร์ และแผนกหมอลำ ที่จะต้องเตรียมตัวจัดเวที จัดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและสิ่งของของตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง ไปอาบน้ำแต่งหน้าแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนเวลาสองทุ่ม ซึ่งเป็นเวลาที่วงจะเริ่มเปิดแสดง เมื่อถึงเวลาทำการแสดง บนเวทีก็จะอลังการไปด้วยแดนซ์เซอร์และไฟแสงสีตระการตา ที่จะมามอบความบันเทิงให้กับคนดูไปตลอดคืนจนถึงเวลาเช้า ภาพบนคือรูปแบบของเวทีในปัจจุบัน ตกแต่งด้วยลวดลายของดอกกล้วยไม้และไหบ้านเชียง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำจังหวัดอุดรธานี ภาพบนคือ บรรยากาศการแสดงบนเวทีในงานประจำปีวัดโกรกกราก จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อจบการแสดงแล้ว ทุกแผนกก็จะตื่นนอนขึ้นมาเก็บสิ่งเก็บของตามหน้าที่ของตัวเอง ส่วนทั้งแดนซ์เซอร์และหมอลำก็จะพากันอาบน้ำและขึ้นไปนอนบนรถบัสที่จอดรอเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นเรียบร้อยหมดแล้ว ก็เตรียมเคลื่อนย้ายขบวนรถคาราวานไปยังสถานที่ที่จะทำการแสดงที่ต่อไป โดยสมาชิกในวงทั้งหมดก็จะอาศัยเวลาตอนที่รถกำลังวิ่งไปนี้เป็นเวลาหลับนอน เพื่อพักผ่อนเอาเรี่ยวเอาแรงหลังจากที่ทำงานเหนื่อยกันมาตลอดทั้งคืน หลังจากที่ผู้เขียนได้ไปสัมผัสเบื้องหลังมาซักระยะ ก็ได้เห็นว่าชีวิตของคนที่ทำงานในวงหมอลำนั้นค่อนข้างที่จะลำบาก ทั้งจากเรื่องของที่พักและอาหารการกิน บ่อยครั้งหลายคนก็มักจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพตามมาจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เจตนารมณ์ของสมาชิกในวงที่ต้องการจะสืบสานวัฒนธรรมของภาคอิสานให้หดหายลงไปได้เลย จึงทำให้ทุกวันนี้วงหมอลำคณะ "เสียงอิสาน" ที่แม้จะเคยเจอกับมรสุมหลากหลายอย่างมาแล้ว ก็ยังคงสามารถยืนหยัดรับใช้แฟน ๆ มาได้ตลอด40กว่าปี ถือว่าไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ ภาพบนคือคนที่กำลังมาจับจองพื้นที่ในการดูการแสดงของวงเสียงอิสาน จะเห็นได้ว่าเสื่อนั้นถูกเอามาปูจนเต็มพื้นที่ของวัด รูปภาพทั้งหมดเป็นของผู้เขียน