ประวัติ จังหวัดสระแก้ว ดินแดนโบราณกว่าพันปี สุดภาคตะวันออกของไทย
หนึ่งในจังหวัดของ ภาคตะวันออก ที่เราอาจจะไม่ได้แวะเวียนไปกันมาเท่าไหร ถ้าเทียบกับจังหวัดอื่นๆ ที่มีทะเลสวยๆ แล้ว นั่นก็คือ จังหวัดสระแก้ว ค่ะ ถ้าใครได้มารู้จักจังหวัดนี้จริงๆ ต้องสนใจอยากมาเที่ยวกันแน่ๆ เพราะมีทั้งธรรมชาติสวยๆ และความเป็นมากว่าพันๆ ปีมาแล้ว งั้นตามเรามาเที่ยวและส่อง ประวัติจังหวัดสระแก้ว ไปพร้อมๆ กันเลยค่า
ส่องประวัติ จังหวัดสระแก้ว
ย้อนรอยไปกว่าพันปี จากวันนั้นจนวันนี้
ประวัติศาสตร์ จังหวัดสระแก้ว ในยุคโบราณ
จังหวัดสระแก้ว เป็นอีกจังหวัดที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานกว่า 4,000 ปีมาแล้ว นับตั้งแต่ในยุคหินใหม่-ยุคโลหะเลยค่ะ เพราะมีการค้นพบวัตถุโบราณที่ บ้านโคกมะกอก ใน ตำบลเขาสามสิบ อำเภอเขาฉกรรจ์นั่นเอง ต่อมาก็มีการค้นพบโบราณวัตถุอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ที่อำเภออรัญประเทศและเขตอำเภอตาพระยา ซึ่งหลักฐานนี้ก็บ่งบอกว่าสระแก้วนั้น เคยเป็นที่อยู่ของชุมชนมาก่อน และมีความเจริญรุ่งเรืองในยุคของเจนละทวารวดีนั่นเอง
รวมถึงมีอารยธรรมและวัฒนธรรมเป็นของตนเองด้วย และมีกษัตริย์หรือผู้ครองเมือง นับถือศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกายและไวษณพนิกายอีกด้วยค่ะ ดูได้จากโบราณสถานและจารึกรูปอักษรปัลลวะต่างๆ เลย เพราะจะปรากฏอยู่ใน ปราสาทเขาน้อย นั่นเองค่ะ เป็นหลักฐานบันทึกศักราชที่เก่าที่สุดในกลุ่มจารึกรุ่นแรกที่พบในไทย สร้างขึ้นเมื่อราวๆ ปี พ.ศ. 1180 มาแล้วค่ะ
นอกจากนี้ยังมีการพบหลักฐานความเจริญของอารยธรรมขอม ระหว่างปีพุทธศตวรรษที่ 15-16 ในแถบนี้ด้วย ทั้ง ปราสาทอิฐ ปราสาทหิน เตาเผาเครื่องถ้วย และ คูเมืองโปราณต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น จารึกพบที่ปราสาทสล็อกก็อกธมอีก 2 หลัก จารึกที่เกี่ยวกับอารยธรรมและศาสนา เป็นต้นค่ะ
จุดเริ่มต้นของ จังหวัดสระแก้ว
ซึ่งก่อนที่จะมาเป็น สระแก้ว ในทุกวันนี้ เมื่อก่อนนั้นจะมีฐานะเป็นตำบลค่ะ ที่ถูกตั้งให้เป็นด่านสำหรับตรวจคนและสินค้าเข้า-ออก จนมาถึงปี พ.ศ.2452 ทางราชการจึงได้ยกฐานะขึ้นเป็นกิ่งอำเภอ มีชื่อว่า "กิ่งอำเภอสระแก้ว" นั่นเอง โดยขึ้นอยู่ในการปกครองของอำเภอกบินทร์บุรีอีกที
และมีการใช้ชื่อสระน้ำเป็นชื่อกิ่งอำเภอมาจนถึงในปัจจุบัน จนเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2501 นั้น ก็ได้มีพระราชกฤษฎีกายกฐานะขึ้นเป็นอำเภอชื่อว่า "อำเภอสระแก้ว" ขึ้นอยู่ในการปกครองของจังหวัดปราจีนบุรีอีกที ต่อมาเมื่อ 1 ธันวาคม พ.ศ.2536 ก็ได้มีพระราชบัญญัติจัดตั้ง จังหวัดสระแก้ว ขึ้นมา และกลายมาเป็นจังหวัดสระแก้วจังหวัดที่ 74 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2536 นั่นเองค่ะ
vespaFoto / Shutterstock.com
ที่มาของชื่อ จังหวัดสระแก้ว
ในส่วนของชื่อ จังหวัดสระแก้ว นั้น ก็มีที่มาจากชื่อของสระน้ำโบราณในพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้วค่ะ ซึ่งมีอยู่ 2 สระ ด้วยกัน ครั้งในสมัยกรุงธนบุรี ปี พ.ศ. 2324 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อครั้งทรงเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ได้ยกทัพไปตีประเทศกัมพูชา(เขมร) และได้แวะพักกองทัพที่บริเวณสระน้ำทั้งสองแห่งนี้ ซึ่งกองทัพเอง ก็ได้อาศัยน้ำจากสระในการใช้สอยค่ะ เลยมีการขนานนามสระทั้งสองว่า "สระแก้ว สระขวัญ" และได้นำน้ำจากสระทั้งสอง ใช้ในการประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาอีกด้วย โดยถือว่าเป็นน้ำบริสุทธิ์นั่นเอง
ตราประจำจังหวัดสระแก้ว
ตราประจำจังหวัดสระแก้ว นั้น จะเป็นรูปของ พระพุทธรูปปางสรีระประทับยืนบนดอกบัว โดยด้านหลังจะเป็นภาพของพระอาทิตย์กำลังฉายแสงแรกอย่างสวยงาม ซึ่งบริเวณตรงกลางก็จะเป็นภาพโบราณสถานของ ปราสาทเขาน้อยสีชมพู โบราณสถานชื่อดังของจังหวัดค่ะ
คำขวัญจังหวัดสระแก้ว
“ ชายแดนเบื้องบูรพา ป่างาม น้ำตกสวย มากด้วยรอยอารยธรรมโบราณ ย่านการค้าไทย-เขมร ”
อย่างที่ทราบกันดีกว่า จังหวัดสระแก้ว นั้น เป็นจังหวัดที่อยู่ติดชายแดนไทยและกัมพูชาค่ะ รวมถึงเป็นจังหวัดที่มีธรรมชาติงดงาม เพราะมีทั้งน้ำตกสวย ป่าเขา เลยเป็นที่ตั้งของอุทยานฯ ชื่อดัง อย่าง อุทยานแห่งชาติปางสีดา อุทยานแห่งชาติตาพระยา นั่นเองค่ะ และถ้าพูดถึงความอารยธรรมโบราณนั้น ยิ่งลืมไม่ได้เลยค่ะ เรียกได้ว่ามีอยู่ทั่วทุกพื้นที่ ทั้ง ปราสาทหินสด๊กก๊อกธม ปราสาทอารยธรรมขอมโบราณ ที่สำคัญใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกอีกด้วยนะคะ สุดท้ายคือ ย่านการค้าไทย-เขมร นั่นก็คือ ตลาดโรงเกลือ ตลาดชื่อดัง ที่มีพรมแดนติดกับประเทศกัมพูชา ที่ใครๆ ก็ต้องรู้จักแน่นอนค่ะ
MosayMay / Shutterstock.com
สถานที่ท่องเที่ยวใน จังหวัดสระแก้ว
ถ้าให้บอกถึงที่เที่ยวดังๆ ของ จังหวัดสระแก้ว คงจะไม่มีใครไม่รู้จัก อุทยานแห่งชาติปางสีดา ที่เที่ยวธรรมชาติชื่อดัง จุดชมผีเสื้อที่สวยที่สุดของไทย ก็ว่าได้เลยค่ะ รวมไปถึงโบราณสถานอย่าง ปราสาทสด๊กก๊อกธม ปราสาทเขาน้อยสีชมพู และที่เที่ยวที่สายกรีนต้องหลงรัก กับ อ่างเก็บน้ำท่ากระบาก เขาฉกรรจ์ ละลุ และตลาดติดชายแดนชื่อดัง ตลาดโรงเกลือ นั่นเองค่ะ
อ้างอิง https://sakaeo.treasury.go.th/ , http://www.sakaeo.go.th/
ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่พักสวย
แชร์ทริปสุดชิล โพสต์ภาพสุดปัง ของคุณได้แล้วที่ แอปทรูไอดี
คลิกเลย >> TrueID Travel Community <<