กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง......ฮัลโหล เพื่อน....เรากำลังจะไปหาเพื่อนที่เชียงใหม่นะ ฉันอยากไปเที่ยวแม่กำปอง เช่ารถแล้วขับขึ้นเขากัน เดี๋ยวฉันขับเอง หลังจากวางสายนั้นลง เราก็รีบจัดการลาพักร้อนพร้อมเตรียมเก็บกระเป๋าเสื้อผ้า หาข้อมูลที่พักแบบโฮมสเตย์ หลังจากหาไปหามาผ่านไป 3 วัน เราก็ได้ที่พักที่ว่างและลงตัวอย่างที่สุดสำหรับเราสองคน ทริปแม่กำปองทริปนี้เราเลือกนอนโฮมสเตย์ชื่อว่า "เฮือนฮิมน้ำ" หรือภาษากลางคือ เรือนริมน้ำ นั้นเอง เป็นที่พักริมน้ำจริง ๆ คือหน้าโฮมสเตย์มีสายน้ำตกไหลผ่าน น้ำเย็นและใสมาก แถมมีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นแซมเต็มไปหมด ระหว่างทางเข้าโฮมสเตย์มีสะพานข้ามน้ำตก ให้ได้ยืนชมนกชมไม้แบบเพลิน ๆ ด้านหน้าสุดของโฮมสเตย์จะมีซุ้มทางเข้าบอกว่า "เฮือนฮิมน้ำ" หากเดินข้ามสะพานมาด้านขวามือเห็นเรือนไม้ 2 ชั้น ขนานคู่กันไปกับสายน้ำ มองตรงไปคุณจะพบโฮมสเตย์หลังอื่น ๆ ซ่อนตัวอยู่ในร่มไม้ สลับกับน้ำตกและกล้วยป่า แทงยอดรับแสงอาทิตย์กับไผ่ป่าขนาดลำเท่าน่องขา ยืนต้นลู่ลม ปลิวไหวไปมา หลังจากรอเจ้าของโฮมสเตย์ออกมาต้อนรับพร้อมทั้งเปิดห้องให้ เราได้ห้องอยู่ชั้น 2 ของตัวเรือน ตอนแรกคิดในใจอยากจะขอเปลี่ยนเป็นชั้นล่างแบบขอใกล้น้ำตกซะหน่อย แต่คิดไปคิดมา ได้แบบไหนก็แบบนั้นแล้วกัน หลังจากขับรถขึ้นเขาพร้อมทั้งหาที่จอดรถในแม่กำปองกันนานพอสมควร ทำให้หมดพลังไปเยอะ พอได้ห้องเรียบร้อย ก็ไม่รอช้ารีบวางกระเป๋าสัมภาระ จัดแจงเลือกมุมนอนคนล่ะมุม นอนพักเอาแรงกันก่อนสัก 2-3 ชั่วโมง ตื่นมาคงหิวพอดี ( ขับรถมาถึงตอนสาย ๆ ) ต้องขอชมว่าเจ้าของจัดเตรียมห้องได้เป็นอย่างดี เพื่อน ๆ บางคนอาจจะคิดว่าพอเป็นโฮมสเตย์แล้วจะสะอาดไหม หมอนมุ้ง ผ้าห่ม ห้องน้ำ ล่ะจะใช้ได้ไหม ขอบอกตรงนี้ว่า สะอาดน่านอนมาก สำหรับราคาที่พักของเฮือนริมน้ำ ราคาอยู่ที่คืนละ 1,200 บาท ต่อห้องรวมอาหาร 2 มื้อ ราคานี้เราถือว่าคุ้มมากถึงมากที่สุด พอบอกว่ามีอาหารให้ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก คิดว่าคงมาแบบถ้วยเล็ก ๆ หรือไม่ก็คล้าย ๆ อาหารตามสั่งแบบจานเดียว หลังจากนอนพักเอาแรงสักพัก สองสาวอย่างเราออกปฏิบัติการเดินท่องตามหมู่บ้านทันที เริ่มตั้งแต่ต้นทางหมู่บ้าน เห็นร้านไหนน่าสนใจก็แวะเข้าไปทักทาย ถ้าแลดูอาหารน่ากินเราก็ซื้อมาชิมรองท้องกันไป เจอวัดก็แวะเข้าไปสักการะไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล เมื่อเดินเที่ยวจนหนำใจแล้วจึงกลับที่พักรอเวลาอาหารเย็นกัน พี่เจ้าของบอกว่าให้เรานั่งรอหน้าห้องพักได้เลย ประมาณ 6 โมงเย็นจะนำอาหารมาให้ พอได้เวลาอาหารมาวางหน้าห้องอย่างที่นัดแนะกันไว้ เราสองคนตกใจมาก เพราะอาหารอลังการมาก มาเป็นถุง ๆ ก็จริงแต่ปริมาณนั้นเยอะเท่ากับ 3-4 คนกินอิ่ม สำหรับมื้อเย็นมื้อแรกคือ แกงฮังเลหมู น้ำพริกอ่องหมู ผัดผักรวมมิตร ไข่เจียว ข้าวสวย 1 ถุงใหญ่และข้าวเหนียว 1 กระติ๊บ รสชาติอาหารอร่อยนะคะ โดยเฉพาะแกงฮังเลหมู หวานเค็มกลมกล่อม เขาใช้หมูสามชั้นกับหมูติดกระดูก อร่อยมาก อิ่มท้องเสร็จนั่งคุยกันอยู่หน้าห้อง ฟังเสียงน้ำตกเพลิน ๆ แล้วจึงเข้านอน เสียงน้ำตกยามค่ำคืนเปรียบเสมือนบทเพลงขับกล่อมให้นักท่องเที่ยวอย่างเราหลับเคลิ้มจนถึงรุ่งเช้า ตื่นมาพร้อมกับพลังชีวิตอย่างเต็มเปี่ยม วันนี้เราวางแผนกันว่าจะนั่งเล่นน้ำริมน้ำตกหน้าโฮมสเตย์กัน ออ....มื้อเช้าเขาจัดอาหาร 4 อย่างแต่เพิ่มโอวัลติน กาแฟ และน้ำเต้าหู้พร้อมปาท่องโก๋ให้อีก อิ่มสิค่ะ อิ่มมาก ๆ แอบคิดในใจ ให้ลูกค้าเยอะแบบนี้เอากำไรมาจากไหนหนอ สาย ๆ เราออกมานั่งเล่นหย่อนเท้าลงไปในน้ำตก ความเย็นของน้ำตกซึมผ่านเท้าทำให้อยากลงไปเล่นทั้งตัว แต่ติดตรงที่ว่าน้ำลึกแค่ 2 คืบเท่านั้นเอง หย่อนเท้าไป ปล่อยหัวใจลอยไปกับเสียงไผ่ลู่ลม เสียงนกร้องอีกทั้งจิ้งหรีดเรไร สบตากับเพื่อนแล้วยิ้มให้กัน โดยไม่ต้องเอ่ยวาจา แต่กลับเข้าใจถึงความสุขนั้น อยากไปนอนฟังเสียงน้ำตกเชิญที่ : เฮือนฮิมน้ำ แม่กำปอง ราคาห้อง 1200 บาท / คืน / 2 คน อาหาร 2 มื้อ : เช้าและเย็น เครื่องดื่ม : มี น้ำเปล่า โอวัลติน กาแฟ Wifi : มี ที่จอดรถ : มี แต่ต้องแจ้งก่อน ทางโฮมสเตย์จะจองพื้นที่ให้ ภาพหน้าปก : โดยผู้เขียนเอง ภาพที่ 1-6 : โดยผู้เขียนเอง