ผู้เขียนเป็นคนชอบเข้าอควาเรียม (Aquarium) หรือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำค่ะ ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน หากที่ที่ไปนั้นมีอควาเรียม มันเป็นจะต้องไปเยือน เพราะมันเป็นอะไรที่รื่นรมย์มากสำหรับการไปเดินทอดน่อง ลอดอุโมงค์ใต้น้ำ ดูปลาแปลก ๆ สีสวย ๆ เฝ้ารอคุณกระเบนหน้ายิ้ม คอยเล็งหาพี่ฉลาม แถมบางแห่งยังมีดาวเด่นประจำแท๊งค์ที่ไม่สามารถไปพบเจอที่อื่นอีกด้วย อควาเรียมจึงนับว่าเป็นสวรรค์ของผู้รักปลา รักสัตว์น้ำทุกเพศ ทุกวัย ที่ไม่มีโอกาสได้ไปสัมผัสสวรรค์ใต้น้ำของจริงแบบที่นักดำน้ำเค้าไปกัน โดยในบทความนี้ผู้เขียนจะมาแชร์ข้อมูลอควาเรียมที่ผู้เขียนเคยไปเยือนมา ซึ่งจะขอแบ่งเป็น 2 ตอนนะคะ เพื่อไม่ให้บทความยาวเกินไป จนทำให้ผู้อ่านเบื่อไม่อยากอ่าน โดยตอนแรกจะเป็นอควาเรียมที่ประเทศเกาหลี และญี่ปุ่น ส่วนตอนที่สอง จะขอข้ามทวีปไปฝั่งออสเตรเลีย ยุโรป และอเมริกาค่ะ ทั้งนี้นับเป็นเรื่องตลกมากที่พอผู้เขียนรวบรวมอควาเรียมที่เคยไปมา และพบว่าชื่ออควาเรียมแต่ละแห่งมักคล้ายคลึง หรือเกือบเหมือนกันไปหมดเลยค่ะ โดยส่วนมากจะตั้งชื่อขึ้นต้นด้วยคำว่า Sea Life ตามด้วยชื่อเมือง และปิดท้ายด้วยคำว่า Aquarium หรือขึ้นต้นด้วยชื่อเมือง ตามด้วย Sea Life และปิดท้ายด้วย Aquarium วนเวียนอยู่ประมาณนี้ ผู้อ่านอ่านแล้วอาจจะเอ๊ะว่าผู้เขียนเขียนซ้ำสถานที่กันรึเปล่า ขอบอกว่าไม่ซ้ำนะคะ มันคือ คนละที่กันจริง ๆ เด้อค่ะ ฉะนั้นเพื่อป้องกันความสับสน ผู้อ่านเน้นดูชื่อเมืองเป็นหลักนะคะ ว่าอันนี้คืออควาเรียมที่เมืองใด ประเทศใด 1. Aqua Planet 63, Seoul - South Korea ต้องยอมรับว่า Aqua Planet 63 เป็นชื่ออควาเรียมที่เก๋ที่สุดในบรรดาอควาเรียมแห่งอื่นที่จะกล่าวถึงต่อไปในบทความนี้ ชนะเลิศเพราะหลุดพ้นจากกรอบชื่อแบบเดิม ๆ มาแล้ว (แต่เดิมเคยชื่อ 63 Sea World มาก่อนเหมือนกันนะ) ที่มีเลข 63 ห้อยท้าย เพราะตั้งอยู่ที่ตึก 63 (63 Building) บนเกาะ Yeouido ริมแม่น้ำฮัน ถ้าใครไปเที่ยวโซลแล้วนั่งรถ Airport Bus จากสนามบินเข้าเมือง หรือนั่งรถไฟสายที่วิ่งข้ามแม่น้ำฮัน อาจจะเคยสะดุดตากับตึกสูงสีทองรูปทรงแปลกตาบ้าง ซึ่งก็คือตึก 63 นั่นเองค่ะ จุดเด่นของ Aqua Planet 63 คือ การแสดงโชว์นางเงือก (Mermaid Show Performance) ในแท็งค์น้ำขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีการแสดงเป็นรอบ ๆ สามารถเช็กรอบการแสดงได้ที่ http://www.aquaplanet.co.kr ผลพวงจาก Mermaid Show Performance ทำให้ที่นี่ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์เกี่ยวกับนางเงือกสุดฮิต อย่างเรื่อง Legend of the blue sea ที่มีพระเอกสุดหล่ออย่างคุณอีมินโฮ และนางเอกสุดสวยตลอดกาลอย่างคุณจอนจีฮยอนนำแสดง ผู้อ่านท่านใดเป็นแฟนซีรีส์เรื่องนี้ หรือเป็นแฟนพระ-นางสามารถไปตามรอยกันได้นะคะ อีกจุดเด่นหนึ่งที่ไม่รู้จะบอกว่าชอบหรือไม่ชอบดี คือที่นี่จะมีบริเวณที่เป็นพื้นกระจกและข้างล่างเป็นน้ำมีปลาแหวกว่าย ซึ่งพอเราเดินเข้าไปเหยียบบริเวณกระจกจะมี effect เสียงกระจกแตก เพล้งงง อย่างดัง ดังมาก ดังจนผู้เขียนตกใจ ขวัญกระเจิง กระเด้งตัวออกจากบริเวณพื้นกระจกแทบไม่ทัน พร้อมร้องเสียงหลงดังลั่นอาณาบริเวณ ~ ค่ะอายก็อายแต่ก็ประทับใจนะคะ ทำดีจริง ๆ ค่ะ เหมือนมาก เหมือนกระจกแตกจริง ๆ 😅 การเดินทางไป Aqua Planet 63 สามารถนั่งรถไฟใต้ดินสาย 5 สีม่วงไปลงสถานี Yeouinaru ออกทางออก 4 แล้วเดินตรงต่อไปยังตึก 63 ระยะทางประมาณ 1 กิโล ซึ่งใช้เวลาเดินประมาณ 15-20 เท่านั้นค่ะ วัน-เวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน 10:00 - 22:00 น. ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 25,000 KRW / เด็กอายุ 14-19 ปี 23,000 KRW / เด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี 21,000 KRW 2. Lotte World Aquarium, Seoul - South Korea ตั้งอยู่ที่ชั้นใต้ดิน 1 (B1) ของห้าง Lotte World ในบรรดาอควาเรียมที่โซล ผู้เขียนชอบที่นี่ที่สุดเลยค่ะ เพราะ Lotte World Aquarium กินพื้นที่กว้างมาก ใหญ่สะใจ มีแท็งค์น้ำขนาดบิ๊กเบิ้ม มีอุโมงค์ใต้น้ำให้เดินลอด (ชอบตรงนี้) และเป็นอควาเรียมที่ผู้เขียนใช้เวลาเดินชมนานที่สุด (เพลินแหละดูออก) ไฮไลต์ของที่นี่ คือ การแสดงของน้องวาฬเบลูก้า (Beluga) ซึ่งตอนที่ผู้เขียนไปถึงตรงกับรอบการแสดงของน้องพอดี นับว่าโชคดีมาก ๆ เพราะไม่ได้เช็กตารางไปก่อน ที่สำคัญคือน้องน่ารักมาก ๆ ถึงผู้เขียนจะฟังภาษาเกาหลีรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ในรูปด้านล่าง เจ้าหน้าที่เค้าบอกให้น้อง โป๊ะโป๊ะเฮ (뽀뽀해) หรือคิสกันนั่นเองค่ะ 😘😘 ผู้เขียนไม่อยากให้ใครที่จะไปที่นี่พลาดการแสดงของน้องเลยจริง ๆ ค่ะ เลยอยากให้เช็กตารางโชว์ตัวของน้องก่อนไป ซึ่งสามารถเข้าไปเช็กได้ที่ http://www.lotteworld.com/aquarium/en/index.asp การเดินทาง: ให้ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว (Circle Line) หรือสาย 8 สีชมพู มาลงที่สถานี Jamsil ออกทางออก 1 จากนั้นเดินตรงเข้าไปยังตึก Lotte World และเดินตามป้ายบอกทางไป Lotte World Aquarium เรื่อย ๆ หาไม่ยากเลยค่ะ วัน-เวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน 11:00 - 20:00 น. แต่บางวันก็ปิด 19:00 น. เพื่อความชัวร์สามารถเข้าไปเช็กเวลาก่อนไปได้ที่เว็บไซต์ที่ให้ไว้ด้านบนนะคะ ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 31,000 KRW / เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี และผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 65 ปี 27,000 KRW 3. COEX Aquarium, , Seoul - South Korea ชื่อก็บอกยี่ห้ออยู่แล้ว ว่าต้องตั้งอยู่ภายในห้าง COEX แน่ ๆ โดยห้างนี้รายล้อมไปด้วยสถานที่สุดฮิตอย่าง Starfield Library ห้องสมุดขนาดใหญ่ ที่มีดีไซน์เก๋ไก๋ หรือ SMTOWN & Sum Shop ที่จำหน่ายสินค้าของศิลปินค่าย SM อาทิ EXO, TVXQ, Girl Generations, Red Velvet, SHINEE เป็นต้น (ผู้เขียนไปเยือนบ่อยมาก ในฐานะ EXO-L 😄) อย่างไรก็ดี COEX Aquarium กลับไปค่อยโดดเด่นโดนใจผู้เขียนเท่าที่ควร หนึ่งเพราะค่อนข้างเล็ก มีพื้นที่แสดงสัตว์น้ำไม่มากเท่าสองที่แรก และการจัดแสดงดูเหมาะกับเด็ก ๆ มากกว่า ดูอย่างในรูปด้านบนสิคะ น้อง ๆ เด็กน้อยเพียบเลย 😆 แต่ COEX Aquarium มีความได้เปรียบด้านสถานที่ตั้ง ที่อยู่ใจกลางเมือง ประกอบกับมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ อยู่ใกล้ ๆ ทำให้คนเกาหลีรวมทั้งนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมที่นี่กันค่อนข้างมาก นอกจากนี้ที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์หลายเรื่อง โดยเรื่องที่ผู้เขียนประทับใจ คือ เรื่อง I hear your voice นำแสดงโดย คุณอีโบยอง และคุณอีจงซอก ฉากที่ทั้งสองคนยืนล่ำลากันอยู่ใต้อุโมงค์มันเศร้ามาก ๆ เลยค่ะ การเดินทางมา COEX Aquarium ซึ่งจริง ๆ อยู่ไม่ไกลจาก Lotte World Aquarium เท่าไหร่เลยค่ะ ห่างกันเพียง 3 สถานีเท่านั้น โดยสามารถมาที่ COEX Aquarium ได้โดยขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว (Circle Line) มาลงที่สถานี Samseong ออกทางออก 5 หรือ 6 จากนั้นเดินเข้าไปในห้าง COEX แล้วเดินตามป้ายบอกทางได้เลยค่ะ ซึ่งอควาเรียมจะตั้งอยู่บริเวณชั้นใต้ดินของห้างค่ะ วัน-เวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน 10:00 - 21:00 น. ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 28,000 KRW / เด็ก 24,000 KRW Official Website: https://www.coexaqua.com/ 4. Busan Sea Life Aquarium, Busan - South Korea ออกจากโซลมาที่ปูซานกันบ้างค่ะ การเดินทางจากโซลมาปูซานสามารถมาได้โดยรถไฟความเร็วสูง (KTX) จากสถานี Seoul มาลงที่สถานี Busan โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง หรือจะนั่งเครื่องบินภายในประเทศจากสนามบินกิมโปที่โซล มาลงสนามบินกิมแฮที่ปูซานก็ได้ค่ะ ใช้เวลาบินแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เมื่อครั้งผู้เขียนไปเที่ยวเกาหลี ก็นั่ง KTX จากโซลมาเที่ยวปูซานแบบ 1-Day-Trip และที่พลาดไม่ได้ คือ การไปเยือน Busan Sea Life Aquarium (ตั้งชื่อตามตำราเป๊ะ) ซึ่งตั้งอยู่ริมหาดแฮอุนแด สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็น a-must ของปูซาน เมื่อเข้าสู่ Busan Sea Life Aquarium จะมีบันไดเลื่อนพาเราลงไปสู่ชั้นใต้ดิน และความตื่นตาตื่นใจก็บังเกิด โดยที่นี่มีอุโมงค์ใต้น้ำเหมือนที่ COEX Aquarium และมีการแสดงโชว์นางเงือกเหมือนที่ Aqua Planet 63 ถึงแม้สถานที่จะไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็มีสัตว์น้ำจำนวนมาก ตู้ปะการังขนาดใหญ่ และการแสดงต่าง ๆ มากมาย และไฮไลต์ของที่นี่ คือ การนั่งเรือท้องกระจกดูปลาฉลามค่ะ ซึ่งที่นี่เป็นอควาเรียมแห่งเดียวในเกาหลีที่มีกิจกรรมนั่งเรือท้องกระจกเหนือแท็งค์น้ำขนาด 3,000 ตัน โดยการนั่งเรือท้องกระจกจะใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีต่อรอบ โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มคนละ 7,000 KRW ซึ่งถือได้ว่าไม่แพงเลยค่ะ สำหรับประสบการณ์ชมปลาอย่างใกล้ชิด ใครที่มาเที่ยวหาดแฮอุนแด อย่าลืมแวะเข้า Busan Sea Life Aquarium กันด้วยนะคะ การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินปูซานสาย 2 สีเขียว มาลงสถานี Haeundae ออกทางออก 3 จากนั้นเดินตรงมาจนสุดถนน ซึ่งจะผ่านร้านอาหารมากมายสองข้างทาง ให้อดใจไว้ก่อน จนเมื่อเห็นทะเลแล้วให้ข้ามถนนไป แล้วเดินไปทางขวามือ ก็จะเห็น Busan Sea Life Aquarium ตั้งอยู่ค่ะ วัน-เวลาเปิดทำการ: วันธรรมดาเปิด 10:00 - 18:00 น. / วันเสาร์-อาทิตย์เปิด 09:00 - 19:00 น. ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 29,000 KRW / เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี 23,000 KRW Official Website: https://www.busanaquarium.com/en/ 5. Osaka Aquarium Kaiyukan, Osaka - Japan กว่าผู้เขียนจะไปถึง Osaka Aquarium Kaiyukan ก็ตอนที่อควาเรียมใกล้จะปิดแล้วค่ะ จำได้ว่าเหลือเวลาแค่ไม่ถึง 1 ชั่วโมง กับอควาเรียมขนาด 9 ชั้นของโอซาก้า หลังจากซื้อตั๋วที่ช่องจำหน่ายตั๋วที่ปราศจากคิวแล้ว ผู้เขียนก็รีบรุดตรงเข้าด้านในของไคยูคังทันที ซึ่งต้องหักห้ามใจไม่หยุดถ่ายรูปกับผนังที่เต็มไปด้วยภาพวาดลวดลายสัตว์น้ำน่ารัก ๆ ตรงทางเดินเข้า ทั้ง ๆ ที่ไม่มีผู้คน และเหมาะกับการถ่ายรูปเป็นที่สุด เพราะต้องเซฟเวลาไปชมด้านใน ดาวเด่นของไคยูคังที่ทุกคนที่มาเยือนจะต้องมายลโฉม คือ พี่ฉลามวาฬตัวใหญ่เบิ้ม นาม จินเบซัง ที่แหวกว่ายอยู่ในแท็งค์น้ำขนาดใหญ่ โดยขนาดตัวของจินเบซังนั้น ใหญ่มากจนแทบจะกินพื้นที่ของทั้งแท็งค์เลย ซึ่งตอนที่ไปผู้เขียนเห็นจินเบซังว่ายผ่านไปผ่านมา คือ ตื่นเต้นมาก มือไม้สั่น ถ่ายรูปไม่ชัด เลยไม่มีรูปสวย ๆ ของจินเบซังมาอวดผู้อ่าน ได้แต่ถ่ายรูปตุ๊กตามาให้ชมแทน 😅 นอกจากดาวเด่นอย่างจินเบซังแล้ว ที่ไคยูคังยังมีให้เก็บตรา stamp น่ารัก ๆ ในแต่ละจุดที่เราไปชมด้วยค่ะ ถึงจะมีเวลาน้อย ผู้เขียนก็เดินชมจนทั่วนะคะ แวะทุกจุด ปั๊มทุกจุด ใครไปแนะนำให้พกสมุดส่วนตัวไปด้วยสำหรับเก็บตรา stamp ผู้เขียนไม่ได้เตรียมไป เลยต้องปั๊มใส่กระดาษแผนการเดินทางท่องเที่ยวที่พกติดกระเป๋าไว้ซะอย่างงั้น ก่อนจะออกจากไคยูคัง จุดสุดท้ายตรงทางออก หากผู้มาเยือนเงยหน้าไปมองด้านบนเหนือศีรษะ จะเห็นน้องแมวน้ำสีขาวตัวอวบอ้วนแต่งตึง คอยยิ้มส่งแขก ให้ผู้มาเยือนเดินทางกลับอย่างปลอดภัย (น้องน่ารักมาก ๆ เลยค่ะ อยากเอากลับมาเลี้ยงที่บ้าน) Osaka Aquarium Kaiyukan เป็นอควาเรียมที่ผู้เขียนอยากกลับไปเยือนซ้ำอีกรอบ และครั้งหลังจะต้องเผื่อเวลาเยอะ ๆ เลย ใครจะมาแนะนำว่าให้เผื่อเวลาเดินชมซัก 2-3 ชั่วโมง เพราะที่นี่ใหญ่มากจริง ๆ ค่ะ แถมท้ายนิดนึงค่ะ พอออกมาด้านนอก ข้าง ๆ ไคยูคังจะมีชิงช้าสวรรค์เท็มโปซังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นตั้งอยู่ สามารถขึ้นไปนั่งชมวิวเมืองโอซาก้าได้ ใช้เวลาหมุนรอบละประมาณ 15 นาที วันที่ผู้เขียนไป คือ มืดแล้ว และฝนก็ตกปรอย ๆ ทำให้มองไม่ค่อยเห็นวิวเท่าไหร่ค่ะ แต่ก็ถือว่าได้นั่งพัก หลังจากรีบเดินขาขวิดชะโงกดูสัตว์น้ำในไคยูคังมาจนเหงื่อตก 😢 การเดินทาง: ไคยูคังตั้งอยู่ที่สถานีโอซาก้าโค (Osakako) รถไฟใต้ดินสาย Chou Line สีเขียว เมื่อลงรถไฟแล้วต้องเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที วัน-เวลาเปิดทำการ: เปิด 10:00 - 20:00 น. (ตรวจสอบวันปิดทำการได้ผ่าน Official Website ซึ่งตอนนี้ปิดชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 2-22 มีนาคม 2563) ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 2,400 ¥ / ผู้สูงอายุที่อายุ 65 ปีขึ้นไป 2,200 ¥ / เด็กอายุระหว่าง 7-15 ปี 1,200 ¥ / เด็กอายุระหว่าง 3-6 ปี 600 ¥ / เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ฟรี Official Website: https://www.kaiyukan.com/language/eng/ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบโลกใต้น้ำ อควาเรียม คือ สถานที่ที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย การได้ไปเดินและหยุดนั่งชมบรรดาสัตว์น้ำตัวเล็กตัวน้อย สีสันสวยงาม รูปร่างแปลกตา แหวกว่ายไปมา ไปจนกระทั่งพวกพี่เบิ้มขนาดใหญ่ ที่ว่ายช้า ๆ วนไปวนมา สามารถช่วยให้เรารู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจ เหมือนกับเราได้ไปแหวกว่ายอยู่ในท้องทะเลอย่างอิสระด้วยตนเองเลยค่ะ แล้วพบกันใหม่ในตอนที่ 2 นะคะ ภาพประกอบทั้งหมดในบทความนี้เป็นของผู้เขียน: Little Rabbit