อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก เลย และเพชรบูรณ์ มีสถานที่ท่องเที่ยว ที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น โรงเรียนการเมืองการทหาร บ้านร่องกล้า และโครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า วันนี้ ชาติ เช็คอิน ใช้เส้นทางการเดินทางจากฝั่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ รายละเอียดเส้นทาง 1. เริ่มต้นที่แยกภูทับเบิก เดินทางตามถนน ทางหลวงหมายเลข 2331 เป็นถนนลาดยาง คดเคี้ยวและชัน ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง 2. ผ่านจุดชมวิวภูทับเบิก แวะพักชมวิวทะเลหมอก หรือนาขั้นบันไดได้ตามจุดจอดริมทาง 3. เข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ขับต่อไปตามป้ายบอกทางสู่ โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริ เส้นทางช่วงนี้เริ่มแคบลงและมีทางขึ้น-ลงเขา 4. ถึงโครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริ มีลานจอดรถสำหรับนักท่องเที่ยว จุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินป่าและจุดชมวิวต่างๆ เคล็ดลับการเดินทาง 1. ตรวจสอบสภาพรถยนต์ ใช้รถที่มีกำลังเครื่องยนต์ดี เช่น รถยนต์ 4WD หรือรถที่สามารถรับมือกับทางชันได้ ตรวจสอบระบบเบรกและยางก่อนเดินทาง 2. เวลาเดินทางที่เหมาะสม ช่วงเช้า : เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรหนาแน่นและชมทะเลหมอก ช่วงเย็น: ระวังแสงน้อยในเส้นทางคดเคี้ยว 3. น้ำมันเชื้อเพลิง เติมน้ำมันให้เต็มก่อนขึ้นภู เนื่องจากบริเวณใกล้เคียงไม่มีปั๊มน้ำมันใหญ่ 4. เตรียมตัวให้พร้อม พกน้ำดื่ม ของว่าง และเสื้อกันหนาว เพราะอากาศบนภูเขาเย็นตลอดปี ทริปนี้ ชาติ เช็คอิน ขอแนะนำจุดเช็คพ้อยท์ เพื่อรัวชัตเตอร์ถ่ายภาพแนวพาโนรามา ณ อช.ภูหินร่องกล้า แห่งนี้ จุดเช็คพ้อยท์ (Checkpoints) ของโครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า และพื้นที่ใกล้เคียง เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวและถ่ายภาพ มีดังนี้: --- 1. จุดชมวิวเนินมหัศจรรย์ ไฮไลท์: วิวพาโนรามา 360 องศา ช่วงเช้า: ทะเลหมอกสวยงามพร้อมพระอาทิตย์ขึ้น ช่วงเย็น : แสงสุดท้ายของวัน 2. ลานหินปุ่ม ลักษณะเด่น: หินที่มีลวดลายเป็นปุ่ม ๆ แปลกตา ช่วงเย็น: บรรยากาศพระอาทิตย์ตกดิน ควรเตรียมรองเท้าที่กระชับสำหรับเดินบนพื้นที่ขรุขระ 3. ผาชูธง ไฮไลท์ : จุดถ่ายภาพวิวทิวเขาสลับซับซ้อน ความสำคัญทางประวัติศาสตร์: สถานที่ที่เคยเป็นฐานที่มั่นของพรรคคอมมิวนิสต์ ถ่ายภาพพาโนรามาได้ในมุมกว้าง 4. สวนสนสามใบ จุดเด่น: แนวสนเรียงตัวเป็นแถวอย่างงดงาม บรรยากาศ : เงียบสงบ เหมาะสำหรับถ่ายภาพมุมสงบนิ่ง 5. โรงเรียนการเมืองการทหาร สถานที่ประวัติศาสตร์ : บ้านพักและอาคารในอดีตที่ปกคลุมด้วยธรรมชาติ ปัจจุบันเป็นจุดแหล่งเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์ และเป็นจุดพักรถ แวะช้อปปิ้ง ซื้อผลผลิตทางการเกษตรของชุมชนพี่น้อง บ้านร่องกล้า จุดนี้มีห้องน้ำไว้บริการ ด้วยครับ ไฮไลท์ : ใบเมเปิ้ลแดงในฤดูหนาว ตกแต่งพื้นดินเหมือนพรมธรรมชาติ 6. จุดชมวิวลานผาชมดาว ไฮไลท์ : ชมวิวภูเขาในยามเช้า จุดถ่ายภาพกลางคืน: ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดาว เหมาะสำหรับถ่ายภาพดวงดาวและทางช้างเผือก 7. ทุ่งดอกไม้ป่าและป่าสน ฤดูกาล: ฤดูหนาว เห็นดอกไม้ป่าหลากสีเบ่งบาน เหมาะสำหรับ: การถ่ายภาพ Portrait หรือ Landscape 8. โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริ แหล่งเรียนรู้: การฟื้นฟูป่าไม้และการอนุรักษ์ธรรมชาติ ไฮไลท์ : พื้นที่ฟื้นฟูป่าไม้ที่เขียวขจีและวิวภูเขาสุดลูกหูลูกตา เคล็ดลับการเที่ยวเช็คพ้อยท์ 1. เลือกเวลาที่เหมาะสม: ทะเลหมอกช่วงเช้า และแสงพระอาทิตย์ตกช่วงเย็น 2. เตรียมอุปกรณ์: กล้องถ่ายภาพ, เลนส์มุมกว้าง, ขาตั้งกล้อง 3. รองเท้าสำหรับเดินป่า: พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทางเดินธรรมชาติ การเดินทางแต่ละจุดใช้เวลาไม่นาน แต่ควรจัดเวลาให้ดีเพื่อให้ได้สัมผัสทุก จุดเช็คพ้อยท์อย่างเต็มที่ รีวิว ความประทับใจเมื่อเดินทางและเยี่ยมชมเส้นทางแยกภูทับเบิกไปยังโครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า 1. ทัศนียภาพที่งดงาม เส้นทางจากภูทับเบิกไปยังภูหินร่องกล้าถือเป็นหนึ่งในเส้นทางที่มีวิวธรรมชาติสวยที่สุดในประเทศไทย ทิวเขาสลับซับซ้อนปกคลุมด้วยหมอกในยามเช้า และแสงแดดอบอุ่นที่สะท้อนลงบนทุ่งกะหล่ำปลี 2. อากาศบริสุทธิ์และเย็นสบาย ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยอากาศที่บริสุทธิ์ เย็นสบายตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่อุณหภูมิอาจต่ำกว่า 10 องศา สัมผัสความสดชื่นที่ไม่สามารถหาได้จากในเมือง 3. วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้าน การได้เห็นแปลงกะหล่ำปลีขนาดใหญ่ของชาวเขาบริเวณภูทับเบิก และวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ นักท่องเที่ยวมักจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวบ้านในพื้นที่ 4. จุดถ่ายภาพที่หลากหลาย มีมุมถ่ายภาพธรรมชาติที่หลากหลาย เช่น ทะเลหมอก ทุ่งกะหล่ำปลี สวนสน และจุดชมวิวพาโนรามา ลานหินปุ่มและลานหินแตกในอุทยานฯ สร้างความประทับใจด้วยลักษณะธรณีวิทยาที่โดดเด่น 5. ความสงบและความร่มรื่นของธรรมชาติ ภายในโครงการพัฒนาป่าไม้ฯ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความเงียบสงบ และเรียนรู้เรื่องการอนุรักษ์ป่าไม้ การได้เดินเล่นในป่าสนที่ลมพัดเย็นสบาย และมองเห็นวิวภูเขาที่โอบล้อม 6. ความน่าประทับใจในโครงการพระราชดำริ ได้เรียนรู้และซึมซับถึงพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการพัฒนาป่าไม้และการอนุรักษ์ธรรมชาติ ความสำเร็จของโครงการสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างคนกับธรรมชาติ 7. การผจญภัยเล็ก ๆ ในเส้นทาง สำหรับผู้ที่รักการขับรถ เส้นทางคดเคี้ยวและลาดชันเป็นความท้าทายที่สนุกสนาน ทิวทัศน์ระหว่างการเดินทางเป็นแรงบันดาลใจที่เติมเต็มความสุข การเดินทางเส้นทางนี้ไม่ใช่แค่การเที่ยวชมธรรมชาติ แต่ยังเป็นโอกาสในการเรียนรู้ ประสบการณ์เชิงประวัติศาสตร์ และการสัมผัสบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ได้พัก ได้ชาร์จแบตเตอรีชีวิตให้เต็มก้อน ซึ่งช่วยเติมเต็มพลังชีวิตให้กลับมาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง ภาพประกอบโดย สมชาติ สีสิน (ชาติ เช็คอิน เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียนบทความ) บทความโดย ชาติ เช็คอิน (สมชาติ สีสิน) อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !