วัดเอ็นเกียวจิ (Engyoji Temple) สร้างขึ้นเมื่อราว 1,000 ปีมาแล้ว โดยพระโชกุ โชนิน ตั้งอยู่บนยอดเขาโชชะ (Mt. Shosha) แต่ยังคงความเดิม ๆ แทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงใด ๆ ถึงจะได้รับการบูรณะมาแล้วเมื่อประมาณ 60 ปีก่อนก็ตาม วัดเอ็นเกียวจิ ได้ถูกเลือกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศมากมายหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่ทำให้วัดแห่งนี้ได้เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกก็คือ The Last Samurai นำแสดงโดย ทอม ครูซ และ เคน วาตานาเบ้ ในปี 2003หากได้มีโอกาสมาเที่ยวจังหวัดเฮียวโงะ ปราสาทฮิเมจิ เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยม แต่วัดเอ็นเกียวจินั้นก็เป็นวัดสวยซึ่งอยู่ห่างจากสถานีฮิเมจิไปเพียงประมาณ 30 นาทีเท่านั้น เดินลงมาจากสถานี ด้านหน้าด้านซ้ายของสถานีฮิเมจิ จะมี Bus information สามารถเดินเข้าไปซื้อ Pass การเดินทางได้เลย (Pass นี้จะถูกกว่าการซื้อแยก) โดยจะรวมตั๋วรถเมล์ (สายที่เราต้องขึ้นคือ สาย 8 ที่ป้ายหมายเลข 10) และ Ropeway ขาไปและกลับ ในราคา ผู้ใหญ่ 1,420 เยน เด็ก 710 เยนเมื่อลงจากรถเมล์แล้ว เดินไปนิดเดียวถึงสถานี Ropeway ด้านบนเราจะเจอจุดชมวิวมองเห็นทิวทัศน์อันงดงาม จุดนี้จะมีห้องน้ำบริการ หลังจากนั้นต้องเดิน เดินต่อไปเรื่อยๆเมื่อเจอหอระฆังก็จะถึงทางเดินขึ้นเขา ระหว่างสองข้างทางจะเจอประติมากรรมเจ้าแม่กวนอิมปางต่าง ๆ ไปตลอดทาง เมื่อเดินเจอกับประตูนิโอมอง Niomon Gate อีกสักพักก็จะถึงอาคาร Maniden เป็นอาคารไม้เก่าแก่ สวยงามสร้างอยู่บนเขา บริเวณนี้จะมีร้านอาหารให้บริการอยู่บ้าง สามารถนั่งพักรับประทานอาหารได้เมื่อเดินเขาไปอีกไม่ไกลตามเส้นทางเดินในป่า ก็จะพบกลุ่มอาคารไม้ 3 หลัง Daikodo, Jikido และ Jogyodo อาคาร Daikodo เป็นอาคารหลังทางขวา จุดที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Last Samurai จะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ภายในค่อนข้างมืด เพื่อป้องกันแสงทำลายภาพจิตรกรรม และสีของพระพุทธรูปที่ทำจากไม้อาคาร Jikido เป็นอาคารหลังกลาง มี 2 ชั้นที่มี 15 ห้องพัก สำหรับให้พระนักปฏิบัติธรรมได้ใช้รับประทานอาหารและพักผ่อน ชั้นบนนั้นมีการแสดงพระพุทธรูปโบราณ ทั้งทำจากสำริด และไม้ ส่วนอาคาร Jogyodo เป็นอาคารหลังทางซ้าย ที่ใช้เป็นโรงฝึกตนสำหรับพระสงค์ในสำนักวัดเอ็นเกียวจิ (Engyoji Temple) อาคารแต่ละหลังของวัดอยู่กระจายไปทั่วทั้งภูเขาโชชา ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของญี่ปุ่น และยังเดินชมความงามของธรรมชาติได้ในเวลาเดียวกันอีกด้วยวัดเอ็นเกียวจิ (Engyoji Temple)ค่าเข้าชม : 500 เยนเปิด-ปิด : 8:30 - 18:00 น.วิธีเดินทาง : ขึ้นรถบัส Shinki Bus สาย 8 ลงที่ Mount Shosha Ropeway จากนั้นต่อกระเช้าขึ้นไปด้านบนภูเขารูปประกอบโดย : เจ้าของบทความเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !