เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีโอกาสได้ลาพักร้อนสั้นๆ 3 - 4 วัน เลยเลือกหาที่เที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพ เน้นธรรมชาติ สงบ สวย ชิคๆ เลยมาสรุปที่กาญจนบุรี บ้านกกกอดรีสอร์ต ที่เคยพลาดจองมาหลายครั้งมาก ครั้งนี้จองได้ เย่ๆ โดยครั้งนี้จองเครื่องจากตรัง มาลง ดอนเมืองและ นั่งรถตู้สวยๆ ไปลงกาญจนบุรี ทริปนี้เราตั้งใจชิว โดยการย้อนวัยเยาว์กันสักนิด เน้นนั่งรถประจำทาง และเช่ามอเตอร์ไซด์ เพราะจากการศึกษาเส้นทางแล้วจุดท่องเที่ยวในทริปนี้ไม่ไกลกันสักเท่าไหร่ และอากาศของกาญจนบุรีในเดือน กุมภาพันธ์นั้น ก็เย็นๆ กำลังดี เราจึงตัดสนใจเช่ามอเตอร์ไซด์กัน จากนั้นก็เรียกรถมอเตอร์ไซด์รับจ้างไปลงร้านเช่ารถแถวๆ โค้งปะปา ซึ่งมีหลายร้านมากๆ เราก็ตามรีวิวในเน็ต ไปเช่าร้าน จ่าชา ซึ่งบริการดี มีรถให้เลือกเยอะ เราตัดสินใจเลือกรถออโต้เมติก ฟีโน่ ตัวใหม่ ประหยัดน้ำมันสุดๆ แถมนั่งสบายมาก เบาะกว้างขับไกลๆ ไม่เหนื่อยไม่เมื่อยเลย ราคาเช่าต่อวันถ้าจำไม่ผิด 350 นะคะ ไม่แน่ใจ อิอิ จากนั้นเมื่อทำสัญญาเช่ารถและเตรียมรถเรียบร้อยก็ใส่หมวกนิรภัย แล้ว google map ไปยัง กกกอดรีสอร์ต กันเลย ซึ่งถนนหนทางก็ไม่ได้ลำบากอะไร รถน้อย เนินไม่สูงโค้งไม่แรง ขับเรื่อยๆ ความเร็ว 50 ตลอดทาง เน้นชิวๆ ชมวิว ประมาณ หนึ่ง ชั่วโมง เราก็ถึงรีสอร์ต ทำการเช็คอิน เราเลือกบ้านวิวเขื่อน ติดกับริมน้ำ ห้องน้ำร่วมแต่มีน้ำอุ่นเครื่องทำน้ำอุ่นแบบแก๊สร้อนเร็วร้อนดี มากๆ โดยรวมห้องที่พักนั้นบรรยากาศดี ราคาไม่แรงมาก ห้องที่เราเลือกคือห้องกอดน้ำ ซึ่งวิวกำลังดี แต่ต้องทำใจนิดเรื่องคนเดินผ่านหน้าห้อง หรือ อาจะมีหยุดถ่ายภาพกับห้องพักเรา เพราะมันเป็นทางเดินไปท่าน้ำ ซึ่งทางเดินเป็นสะพานไม้ไผ่ทำให้มีเสียงดังอยู่บ้าง แต่ช่วงที่ไป เป็นวันธรรมดาคนน้อย จึงไม่ค่อยกระทบเท่าไหร่ รับได้ค่ะ จัดแจงสัมภาระเสร็จเราก็ไปถ่ายรูป จุดถ่ายรูปเยอะจุกๆ กันเลย ถ่ายยังไงก็สวยค่ะ จากนั้นก็ลงเรือพายเล่น ระวังใส่ชูชีพด้วยนะคะ น้ำลึกมากๆ ค่ะ จากนั้นเราก็ขับมอเตอร์ไซด์ไปสำรวจเส้นทางๆ ต่างๆ และไปหาอาหารเย็นทาน ก็ได้อาหารง่ายของร้านชาวบ้านเป็นก๋วยเตี๋ยวและตามสั่งง่ายๆ จบ 1 วันเข้าที่พักนอน ในห้องไม่มีทีวีนะ สัญญาณมือถือเต็มทุกค่ายค่ะ ตื่นเช้ามาอากาศหนาวเลยค่ะ วันที่ไป ประมาณ 15 องศา ในตอนกลางคืนและตอนเช้าหนาวมาก สำหรับคนใต้อย่างเราค่ะ ก็ต้องอาบน้ำอุ่นเอาค่ะ จากนั้นก็ไปรับประทานอาหารเช้าของรีสอร์ต จะเป็นข้าวต้ม ขนมปัง ไข่ดาว กาแฟ โอวัลติน ซึ่งจะมีน้องๆ พนักงานช่วยเสิร์ฟ มาให้นะคะ กินเต็มทีค่ะ อิ่มมากๆ แล้วก็เดินถ่ายภาพย่อยกันหน่อย จากนั้นเราก็เดินทางไป ถ้ำกระแซ ขับมอไซด์ช่วงหน้า หนาวเอาเรื่องอยู่ค่ะ แล้วต่อด้วยปราสาทเมืองสิงห์ มีค่าเข้าชมด้วยนะคะ แต่แดดหน้าหนาวก็ร้อนเอาเรื่องนะคะ เพราะฟ้าโปร่งไม่มีเมฆ มาบังเลย เราจึงต้องถอยไปตั้งหลักก่อน โดยเดินทางกลับที่พักกาญจนบุรี Bamboo House เราเลือกที่พักในแพ ลูกน้ำเค็มอย่างเราที่เคยเติบโต กับทะเล นั่งเรือมาค่อนชีวิต ก็ยังต้องยอมกับการนอนแพ ช่วงแรก มีอาการเมาแพ เล็กน้อย เนื่องจากแพ ถูกจอดผูกติดไว้กับริมตลิ่ง พอมีเรือวิ่งมาจะเกิดคลื่นทำให้แพไหว ตามคลื่น ทำเอามึนไปเลย พอขึ้นมาบนฝั่งก็เกิดอาการเมาบก ต้องจูดร่างสักพักก็จะชิน สำหรับ Bamboo House มีห้องพักให้เลือกหลายแบบนะคะ ทั้งห้องพักแบบตึก แบบบังกาโล มีแอร์ไม่มีแอร์ หรือ แบบแพที่เราพัก เท่าที่ดู ลูกค้าจะเป็นต่างชาติ เสียส่วนใหญ่ เนื่องจากที่พักติดกับแม่น้ำแคว สามารถเห็นสะพานข้ามแม่น้ำแควได้ชัดเจนเลย โดยเฉพาะท่านที่พักแบบแพ ไม่ว่าจะ นั่ง นอน เดิน ก็เห็นชัดๆ ที่พักแบบแพจะมีข้อเสียอีกอย่างคือ เราได้ยินเสียงเครื่องยนต์เรือชัดมาก เพราะเรานอนบนแม่น้ำ ทั้งยัง ร้อนมากๆ ในช่วงสาย เที่ยง จนถึงบ่ายแก่ๆ แต่ข้อดีมากๆ ของการนอนแพคือ ชิว ประหยัด และ วิวพาโนรามาของแม่น้ำแควค่ะ เมื่อ นั่ง นอน เดิน ชมวิว ที่พักจนสมใจแล้ว แดดร่ม ลม โชย เย็น เราก็ไปรับประทานอาหารเย็น เป็นอาหารอีสานที่ร้าน แซ่บ แซ่บ โค้งประปา ร้านประจำทุกครั้งที่ไปกาญจบุรี อิ่มแล้วก็ขับรถเที่ยวในตัวเมือง เข้าที่พักนอน วันรุ่งขึ้นถ่ายรูปยามเช้า เช็คเอ้าท์ หาของกินง่ายๆ ที่เมืองเก่า ถนนปากแพรก ร้านฮั้วฮง บ้านสิทธิสังข์ และแวะซื้อของฝาก สะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งจะเป็นพวกพลอยต่างๆ ขนมขบเคี้ยวง่ายๆ จากนั้นเราก็ขับรถไปทานอาหารเที่ยงกันที่ ร้านคีรีมันตรา ร้านสวย วิวสวย อาหารอร่อย เสร็จก็คืนรถ กลับ กทม. แล้วขึ้นเครื่องกลับต่อ เต็มอิ่มไปเลยกับทริป กาญนะจ๊ะ เป็นจังหวัดที่หนาวๆ กำลังดี เดินทาง ง่าย ผู้คนน่ารัก ธรรมชาติยังสวยอยู่ ยังไงก็แวะไปเที่ยวกันได้ กาญจนบุรี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ไปเที่ยวบ่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกก และเป็นจังหวัดต้นๆ ที่เลือกไปเที่ยว ไปกี่ครั้งก็เที่ยวไม่หมด ใหญ่จริงๆ ของดีเยอะจริง เอาใจเราไปเลย