ถ้าพูดถึงจังหวัดสุโขทัยคงหนีไม่พ้นอุทยานประวัติศาสตร์ที่เป็นที่บ่งบอกถึงรากเหง้าและวิถีชีวิตของชาวไทย วันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ในจังหวัดสุโขทัยและจังหวัดใกล้เคียงจากประสบการณ์การเที่ยวสุโขทัย 3 วัน 2 คืนของเรากัน วันแรก เราออกจากบ้านตอนเวลา 10.30 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงก็ถึงจังหวัดสุโขทัย เมื่อถึงแล้วเราเลือกที่จะเข้าที่พัก check in ให้เรียบร้อยโดยครั้งนี้เราเลือกพักคืนแรกที่โรงแรมบลู เฮาส์ สุโขทัย (Blue House Sukhothai) ราคาห้องไม่แพง บรรยากาศที่พักดีมากแถมใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวอีกด้วย หลังจากนั้นช่วงเย็นๆ เราเลือกที่จะออกไปเที่ยวใกล้เคียงหรือก็คืออุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ซึ่งห่างจากที่พักไม่กี่นาที เราไปที่อุทยานประมาณ 16.00 น. แดดไม่ร้อนอย่างที่คิด ค่าเข้าอุทยาน คนไทยคนละ 20 บาท พวกเราเลือกที่จะเช่าจักรยานปั่นชมรอบอุทยานและเนื่องจากว่าเรายังเป็นนักศึกษาอยู่จึงไม่เสียค่าเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์เพียงแค่แสดงบัตรประจำตัวนักศึกษาให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเพียงเท่านั้น ในช่วงที่เราไปเที่ยวนั้นเป็นช่วงสัปดาห์แรกของเดือนที่ทางอุทยานจะมีแสดงไฟในตอนกลางคืนที่เกาะกลางน้ำอีกด้วย ในช่วงเย็นจะมีถนนคนเดินเปิดด้านในอุทยานซึ่งอาหารไม่แพงและยังเป็นอาหารขึ้นชื่ออีกด้วย นั่งกินอาหารไป ฟังดนตรีที่นักเรียนบรรเลงไป ได้บรรยากาศนั่งทานอาหารริมน้ำพร้อมกับได้ชมทิวทัศน์ช่วงฟ้ามืดของอุทยานประวัติศาสตร์อีกด้วย วันที่ 2 เราออกจากที่พักประมาณ 10.00 น. เตรียมเดินทางไปอุทยานประวัติศาสตร์อีกแห่งซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 60 กิโลเมตร โดยเราใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงจากตัวเมืองสุโขทัยมุ่งหน้าไป "อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย" โดยอุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่อำเภอศรีสัชนาลัยเป็นอุทยานประวัติศาสตร์อีกแห่งที่มีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์รวมทั้งการวางผังเมืองที่ค่อนข้างแปลกสำหรับเรา โดยอุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้มีบริการเช่าจักรยานปั่นชมรอบอุทยานเหมือนกันหรือใครต้องการนั่งรถรางชมรอบอุทยานก็มีบริการเช่นกัน โดยค่าเข้าชมอุทยานอยู่ที่คนละ 20 บาทและแน่นอนว่านักเรียน นักศึกษาเพียงแสดงบัตรก็ได้เข้าชมฟรี สถานที่ที่เราแนะนำให้ขึ้นไปชมเลยคือ โบราณสถานวัดเขาสุวรรณคีรี วัดนี้จะตั้งอยู่บนเนินเขาต้องปั่นจักรยานขึ้นไปและเดินเท้าขึ้นไปอีกเล็กน้อยถึงจะพบตัววัด บรรยากาศบริเวณวัดเงียบสงบมากแถมยังดูขลังมากๆ อีกต่างหาก ใครที่ต้องการมาเสพบรรยากาศพร้อมกับการปล่อยใจ วัดนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าไปเยี่ยมชม สถานที่ต่อไปที่แนะนำเลยคือ โบราณสถานวัดช้างล้อม ช่วงที่เราไปถึงเป็นช่วงที่รถรางพานักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมพอดี คุณลุงที่ขับรถรางบอกเราว่าให้ลองนับช้างรอบๆ ดูว่ามีกี่เชือกแถมคุณลุงยังบอกอีกด้วยว่าแต่ละคนที่นับมักจะนับได้ไม่เท่ากัน บางคนนับขาด บางคนนับเกิน ซึ่งเราก็ไม่เท่าจริงๆ ตอนที่ลุงเฉลยว่าต้องมีกี่เชือกเรายังตกใจเลยว่าทำไมถึงมีเท่านั้นแต่บรรยากาศของวัดดีมาก รอบๆวัดจะมีต้นไม้ใหญ่ซึ่งเราชอบมาก ใช้หลบร่มพักผ่อนได้เป็นอย่างดี และอีกหนึ่งสถานที่ที่เราแนะนำ คือ โบราณสถานวัดเจดีย์เจ็ดแถว ซึ่งวัดนี้เป็นวัดขนาดใหญ่ที่มีเจดีย์ทรงต่างๆ มากถึง 33 องค์ ที่วางตัวเป็นระเบียบตามคติจักรวาล เราประทับใจกับวัดนี้มากยิ่งหากใครชอบศึกษาประวัติศาสตร์หรือชอบเที่ยวสถานที่ประวัติศาสตร์ โบราณสถานก็คงชื่นชอบเหมือนกัน เราชอบที่ผู้สร้างสามารถสร้างเจดีย์หลายทรงให้มารวมอยู่ในสถานที่เดียวกันได้โดยไม่รู้สึกถึงความแตกต่างหรือติดขัดอะไร ตัววัดจะอยู่เหมือนเป็นเกาะต้องเดินเท้าข้ามสะพานไปเล็กน้อยแต่เป็นอีกหนึ่งวัดที่เราแนะนำ เรากลับจากอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยช่วงประมาณ 13.00 น.และเดินทางกลับที่พัก โดยที่พักวันที่ 2 เราเลือกที่จะเปลี่ยนโรงแรมเป็นอีกโรงแรมนึงชื่อว่า สักสุกสไมล์ รีสอร์ต ซึ่งโรงแรมนี้อาจอยู่ไกลตัวเมืองกว่าโรงแรมแรกเล็กน้อยแต่โดยรวมของโรงแรมดีมาก ในช่วงเย็นเนื่องจากรู้สึกว่ายังอยากเสพบรรยากาศริมน้ำพร้อมชมอุทยานประวัติศาสตร์อยู่เราเลยเลือกที่จะไปทานอาหารเย็นกันที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยอีกครั้ง ทานอาหารไป ชมบรรยากาศทิวทัศน์ยามค่ำคืนของโบราณสถานไป เป็นบรรยากาศที่ดีเลยทีเดียว วันที่ 3 วันนี้เป็นวันที่เราต้องเดินทางกลับบ้านแล้ว เราเลือกที่จะ check out ช่วง 11.00 น. เพื่อเดินทางกลับบ้านซึ่งในวันนี้พวกเราคุยกันว่าจะไม่แวะพักไหนเนื่องจากเราไม่ได้แพลนที่เที่ยวช่วงขากลับไว้แต่บังเอิญขณะขับรถผ่านจังหวัดกำแพงเพชร พวกเราเห็นว่าในจังหวัดนี้มีอุทยานประวัติศาสตร์เหมือนกันจึงลองแวะไปดู "อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร" สำหรับเรารู้สึกได้ถึงความแตกต่างของบรรยากาศได้ชัดเจนระหว่างที่นี่และอีกสองแห่งที่ผ่านมา โดยค่าเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์เสียค่าเข้าชมเท่ากัน คือ 20 บาท ส่วนนักเรียน นักศึกษาแสดงบัตรเข้าชมฟรีเหมือนกัน ภายในอุทยานประกอบไปด้วยโบราณสถานที่น่าสนใจมากมายและหากใครต้องการที่จะเช่าจักรยานเพื่อปั่นชมรอบอุทยานสามารถทำได้เช่นกันและอุทยานประวัติศาสตร์นี้ค่อนข้างพิเศษเนื่องจากสามารถนำรถยนต์ส่วนบุคคลเข้าไปเยี่ยมชมได้โดยเสียค่านำรถยนต์เข้าที่ราคา 50 บาท แลนด์มาร์คสำคัญของอุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้คงหนีไม่พ้น วัดช้างรอบ ซึ่งเป็นวัดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเนินสูง ภายในประดิษฐานพระเจดีย์ขนาดใหญ่ ล้อมรอบไปด้วยรูปปั้นช้างอีกกว่า 68 เชือก เป็นสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์ที่น่าเยี่ยมชมมากๆ ภาพประกอบทุกภาพถ่ายโดยผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !