ททท. จับมือ สดร. ปักหมุด 18 พื้นที่ดูดาว กับโครงการ AMAZING DARK SKY IN THAILAND

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จับมือกับ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.)
เปิดตัวโครงการ AMAZING DARK SKY IN THAILAND #Season 2 เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 ที่ ห้องประชุมจารุวัสตร์ ชั้น 10 อาคาร ททท. พร้อมเปิดลิสต์ 18 พื้นที่ดูดาวแห่งใหม่ทั่วไทย และมอบโล่ประกาศแก่พื้นที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์ และปลุกกระแสการเดินทางมิติใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสความงดงามของธรรมชาติยามค่ำคืนค่ะ
โครงการ AMAZING DARK SKY IN THAILAND #Season 2 เป็นโครงการส่งเสริมการตลาดต่อเนื่อง ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง ททท. และ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร. เพื่อสนับสนุนรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) โดยมุ่งเน้นไปที่การท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์ (Dark Sky Tourism) ให้เป็นหนึ่งในประสบการณ์ท่องเที่ยวมิติใหม่ ที่เสริมสร้างให้การท่องเที่ยวในไทยมีคุณค่าที่แตกต่าง และน่าประทับใจมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการตอบโจทย์ความสนใจของนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มได้อย่างครอบคลุม สอดรับกับแนวทางการขับเคลื่อนปีท่องเที่ยวไทย 2566 ด้วยเช่นกันค่ะ
ภายใต้โครงการนี้ ททท. จะชวนนักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีความสนใจพิเศษ ผู้ที่สนใจดาราศาสตร์ ชื่นชอบ
การดูดาว และนักท่องเที่ยวทั่วไปเดินทางออกไปสร้างความสุขท่ามกลางธรรมชาติ สัมผัสความสวยงามของท้องฟ้าประเทศไทย เรียนรู้ระบบสุริยจักรวาล ชมปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ครั้งสำคัญ เช่น สุริยุปราคา จันทรุปราคา ฝนดาวตก และ ชมความสวยงามของกลุ่มดาวจักรราศีและดวงดาวต่างๆ ที่ปรากฏในท้องฟ้าแต่ละเดือน นอกจากจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับท้องฟ้าในยามค่ำคืนในสถานที่ดูดาวทั่วไทยแล้ว ยังได้สนุกสนานไปกับกิจกรรมที่ให้ความรู้อีกด้วย
สำหรับเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ อุทยานท้องฟ้ามืด ชุมชนอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ส่วนบุคคล และ เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ชานเมือง สถานที่ที่ขึ้นทะเบียนแต่ละประเภทจะต้องมีความมืดของท้องฟ้าที่เหมาะสม มีการบริหารจัดการแสงสว่างอย่างมีประสิทธิภาพ ปราศจากแสงรบกวน มีพื้นที่เปิดโล่งสังเกตท้องฟ้าได้โดยรอบ มองเห็นดาวเหนือ และวัตถุท้องฟ้าเด่นๆ ได้ด้วยตาเปล่า มีบุคลากรในพื้นที่ที่สามารถให้ความรู้ทางดาราศาสตร์เบื้องต้นแก่นักท่องเที่ยวได้ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ครบครัน เช่น เส้นทางคมนาคม ห้องน้ำ ที่พัก ร้านอาหาร เป็นต้น
และในปี 2566 นี้ก็ได้มีเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนถึง 18 แห่งด้วยกัน ได้แก่
- อุทยานท้องฟ้ามืด (Dark Sky Park) จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ (ลานชมดาว)
จ.กำแพงเพชร, อุทยานแห่งชาติตาพระยา (ลานกลางเต้นท์กลางดง) จ. สระแก้ว, อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ. นครราชสีมา, อุทยานแห่งชาติศรีน่าน (ดอยเสมอดาว) จ. น่าน และวนอุทยานน้ำตกผาหลวง จ. อุบลราชธานี - เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ส่วนบุคคล (Dark Sky Properties) จำนวน 11 แห่ง ได้แก่ มีลา การ์เดน รีทรีท คอทเทจรีสอร์ท จ. สระบุรี , คีรีมาลา อีโค่ แคมป์ จ. ราชบุรี, ฟาร์มแสงสุข จ. ระยอง, ไร่เขาน้อยสุวณา
จ. นครราชสีมา, ต้นข้าวหอมบ้านอ้อมดอย จ. เชียงใหม่, วิลลา เดอ วิว บูทีค รีสอร์ท เชียงดาว จ. เชียงใหม่, เชียงดาวฟาร์มสเตย์ จ. เชียงใหม่, บ้านสวน ป่าโป่งดอย จ. เชียงใหม่, เดอะ ทีค รีสอร์ท จ. เชียงใหม่, พูโตะ จ. เชียงใหม่ และ
อ่าวโต๊ะหลี จ. พังงา - เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ชานเมือง (Dark Sky Suburbs) จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ สวนสัตว์ขอนแก่น จ. ขอนแก่น และ ซัมมิท กรีนวัลเล่ย์ เชียงใหม่ จ. เชียงใหม่
สำหรับใครที่สนใจและชื่นชอบความงดงามของท่องฟ้าในยามค่ำคืน สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติม และสมัครเพื่อขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทยได้ที่ https://darksky.narit.or.th/ หรือดาวน์โหลดหนังสือคู่มือการท่องเที่ยวดูดาว “ชวนเธอไปชมดาว” ในรูปแบบ e-book ได้ที่ https://citly.me/81xbd