คนต่างถิ่น น้อยคนจะรู้จักและไปถึง "วัดป่าวิเวกภูนางงำ" อำเภอชนบท ขอนแก่น แต่ถ้าได้รู้จักแล้วจะประทับใจค่ะ...ด้วยความพิเศษของสถานที่ ทำให้การไปเช็กอินครั้งหนึ่ง จะได้ทั้ง ไปตามรอยตำนานต่าง ๆ ได้ชมสถานโบราณลักษณะพิเศษแห่งเดียวในไทย ได้เห็นทัศนียภาพแปลกตาที่ไม่ค่อยได้พบเห็นที่ไหน และอาจได้สัมผัสประสบการณ์ดินแดนลี้ลับค่ะรู้จักตำนาน "เจ้าแม่ภูนางงำ"เมื่อผู้เขียนได้เห็นได้ยินชื่อวัดในตอนแรก ๆ นั้น ยอมรับว่าจำยากค่ะ...แต่พอรู้ที่มาของชื่อแล้ว ก็จำได้ทันทีไม่มีลืม...ชื่อวัดมาจากสถานที่ตั้งที่มีลักษณะเป็นลานหินกว้างด้านบนสุดของภูเขาหินที่ชื่อว่า "ภูระงำ"...มีตำนานว่า ในยุคที่ขอมเรืองอำนาจในบริเวณนี้ สมัยหนึ่งมีพระธิดาเจ้าเมืองที่มีรูปโฉมงดงามมาก (ตรงกับคำว่า "นางงาม") เป็นที่หมายปองของเจ้าเมืองอื่น ๆ...เจ้าเมืองผู้เป็นพ่อเกรงจะเกิดสงครามแย่งชิง จึงนำตัวพระธิดามาซ่อน (ตรงกับคำว่า "งำ") ที่ภูเขาแห่งนี้...เป็นที่มาของชื่อ "ภูนางงำ" จนกลายมาเป็น "ภูระงำ" นั่นเองค่ะเป็นที่นับถือสืบต่อกันมายาวนานว่า ดวงวิญญาณของพระธิดาท่านนั้น ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่า "เจ้าแม่ภูนางงำ" เป็นผู้ปกปักรักษาบริเวณ "ภูระงำ" แห่งนี้...ในบริเวณวัดมีศาลเจ้าแม่ มองจากระยะไกลคิดว่าเป็นบ้านหรือกุฏิ เพราะมีขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ...ชาวอำเภอชนบทจัดพิธีบูชาเจ้าแม่เป็นประจำทุกปี เรียกว่า "งานประเพณีบุญเดือนหกบูชาเจ้าแม่ภูนางงำ" เพื่อเป็นสิริมงคลก่อนเริ่มฤดูเพาะปลูก...ตอนที่แวะไป ก็เห็นคนหลายกลุ่มเดินทางไปสักการะเจ้าแม่กัน ของถวาย ของแก้บน ที่เห็นเด่นชดคือชุดไทย ก็มีอยู่ไม่น้อยค่ะชมพุทธสถานโบราณลักษณะพิเศษแห่งเดียวในไทยตามตำนานบอกว่า เจ้าเมืองซ่อนพระธิดาไว้ข้างใน "ภูระงำ" ซึ่งมีช่องทางเป็นเครือข่ายโยงใยไปยังจุดต่าง ๆ ของภูเขาและป่าไม้บริเวณนี้...ปากช่องทางอยู่บนยอดเขาแห่งนี้ ถูกเจ้าเมืองสร้างวิหารครอบปิดเอาไว้ ซึ่งตามความเชื่อก็คือตำแหน่งที่ตั้งโบสถ์โบราณ ที่มีมานานบนภูเขานี้นั่นเองค่ะ...อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันข้างในโบสถ์ก็ไม่ได้มีร่องรอยของช่องทางลงไปสู่ข้างในภูเขาแต่อย่างใดค่ะโบสถ์ที่เราเห็นในตอนนี้ ได้รับการบูรณะต่อเติมจากโครงสร้างโบราณที่พังลงมาเมื่อไม่นานมานี้ แต่ผนังหินทรายที่เป็นของโบราณยังอยู่ค่ะ...ลักษณะก็เหมือนเอาหินที่มีขนาดไม่เท่ากันมาเรียงต่อกัน ก่อขึ้นเป็นรูปทรง มองผิวเผินเหมือนผนังถ้ำค่ะ...อ่านจากป้าย เขาบอกว่า โบสถ์โบราณนี้น่าจะเป็นโบสถ์หินทรายที่หลงเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในประเทศไทยเลยทีเดียวนะคะเห็นทัศนียภาพแปลกตาในพื้นที่วัด เราจะเห็นลานหินขนาดใหญ่ระหว่างสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เป็นเพราะวัดตั้งอยู่บนภูเขาหิน...สุดเขตวัดก็จะเป็นหน้าผาหินกว้าง ตัดตรงดิ่งลงไปด้านล่าง เราก็จะเห็น "วนอุทยานภูหัน - ภูระงำ" อีกมุมหนึ่งก็จะเห็น "แม่น้ำชี" ไหลอยู่ท่ามกลางแมกไม้และพื้นที่เกษตรกรรม นับเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามค่ะ...ตรงหน้าผานั้น ไม่มีอะไรกั้น ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเวลาไปยืนชมวิวนะคะ...วนอุทยานด้านล่างนั้น ทราบว่ามีเส้นทางสำรวจธรรมชาติ นำไปชมหินขนาดใหญ่รูปร่างแปลก ๆ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และภาพเขียนสีโบราณ ตามตำนาน "ภูหัน - ภูระงำ" ค่ะ...อย่างไรก็ตาม บน "ภูระงำ" เอง ก็มีสถาปัตยกรรมหินธรรมชาติท่ามกลางแมกไม้ เป็นจุดไฮไลท์ให้ได้ไปเช็กอินกันค่ะเยี่ยมสถานที่บำเพ็ญภาวนาของครูบาอาจารย์สายธุดงคกรรมฐานจากจุดชมวิวไม่ไกล เราก็จะเห็นป้ายชี้ทางลงไปยัง สถานที่เจริญวิปัสสนากรรมฐานของ "หลวงปู่ฝั้น อาจาโร"...เขาก็จะทำทางให้เราเดินลงไป มีราวเหล็กให้เกาะด้วย ถ้าไปหน้าฝนก็ต้องใช้ความระมัดระวังกันหน่อย เพราะลาดชันและบางช่วงเป็นทางเดินบนพื้นหิน...กิจกรรมท่องเที่ยวแบบนี้ให้ความรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เหมือนกับเดินตามเส้นทางสำรวจธรรมชาติ ออกแนวผจญภัยนิด ๆ เลยค่ะ...ถ้าใครแพ้ยุงแพ้แมลง ก็แนะนำให้พกยาทากันยุงกันแมลงมาด้วยนะคะสถานที่เจริญวิปัสสนาเป็นเหมือนถ้ำตื้น ๆ หรือเงื้อมหินขนาดย่อม ๆ ใต้ภูเขา ท่ามกลางป่าไม้ค่ะ...เขามีพระพุทธรูปขนาดย่อม และหุ่นจำลองเหมือนองค์จริงของหลวงปู่ฝั้น เอาไว้ให้สักการะด้วยค่ะ...นอกจากสถานที่เจริญภาวนาของหลวงปู่ฝั้น ที่มีอยู่บน "ภูระงำ" แล้ว ก็ยังมีสถานที่เจริญภาวนาของครูอาจารย์สายธุดงคกรรมฐานหลายรูป มี "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" เป็นต้น อยู่ในเขตวนอุทยานด้วยค่ะ...มิน่าล่ะคะ เขาถึงได้มีรูปเหมือนองค์จริงของครูอาจารย์องค์สำคัญอยู่ที่โบสถ์...นับเป็นเรื่องราวมี่น่าสนใจ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะผู้เขียนเห็นว่า สภาพภูมิประเทศป่าเขาบริเวณนี้ มีลักษณะพิเศษ ดูหลีกเร้นจากโลกภายนอกเหมือนเป็นคนละโลก บรรยากาศก็ทำให้ใจรู้สึกถึงความสงบเงียบเป็นอย่างดี เหมาะแก่การเจริญภาวนาค่ะสัมผัสความลี้ลับของดินแดนลับแลบังบดอีกจุดไฮไลท์ที่ใครจะพลาดไม่ได้ก็คือ บริเวณที่เป็นเหมือนช่องหินแยกขนาดใหญ่ ระหว่างทางเดินจากด้านบนเขาซึ่งเป็นที่ตั้งวัด ลงไปสู่ถ้ำเจริญภาวนาของหลวงปู่ฝั้นค่ะ...จากการบอกเล่าของคนในพื้นที่ โดยเฉพาะในวันพระ ที่เขาเห็นคนลึกลับเดินเข้า - ออกบริเวณนี้ แถมยังเคยมีคนจริง ๆ หายตัวไปหลายวัน เพราะเดินผ่านบริเวณนี้แล้วเกิดหลงทางขึ้นมา ทำให้เขาเชื่อกันว่า บริเวณนี้เป็นเหมือนประตูมิติระหว่างเมืองมนุษย์กับเมืองลับแลบังบดค่ะ...อันนี้ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะจากที่ได้ไปสัมผัสมาสด ๆ ร้อน ๆ ก็คือ...พวกเราที่เดินผ่านบริเวณนั้นไปด้วยกัน มีคนที่ได้ยินเสียงเหมือนมีใครคุยกันอยู่ใกล้ ๆ หู แต่ไม่เห็นตัว แต่ก็มีคนที่ไม่ได้ยินอะไร ทั้ง ๆ ที่ไม่มีนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นอยู่แถวนั้นเลย...ที่สำคัญคือ พวกเราไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่ตรงนั้นมาก่อน แถมคนที่ได้ยินก็เป็นพวกมีจิตสัมผัสเสียด้วยสิคะในบริเวณวัดยังมีสิ่งโบราณให้ดูคือ บ่อน้ำโบราณ เหมือนตาน้ำอยู่ในซอกหิน อะไรประมาณนั้น และยังมีเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุให้ได้สักการะค่ะ...ถ้าใครสนใจอยากไปเยี่ยมชม "วัดป่าวิเวกภูนางงำ" แห่งนี้ อาจควบรวมกับการไปเดินดูธรรมชาติแปลกตาและตามรอยตำนาน "ภูระงำ" และ "ตำนานพญานาค" ที่ "วนอุทยานภูหัน - ภูระงำ" ด้วย น่าจะเป็นทริปที่สนุกตื่นเต้น มีสีสัน และน่าพิสูจน์มาก ๆ สำหรับสายท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและสายมูค่ะ.มรรษยวรินทร์พิกัด วัดป่าวิเวกภูนางงำ อำเภอชนบท ขอนแก่นภาพปก และ ภาพประกอบที่ 2 - 9 โดย มรรษยวรินทร์ภาพประกอบที่ 1 นำมาจากแผนที่ GoogleMaps อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !