เที่ยวหัวหินแบบจัดเต็ม! จุดเช็กอินยอดฮิตและพิกัดลับสุดชิคที่ไม่ควรพลาด หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นมากกว่าแค่เมืองชายทะเล แต่เป็น เมืองตากอากาศแห่งประวัติศาสตร์ ของประเทศไทยที่ยังคงเสน่ห์ความคลาสสิกของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาแบบไทยไว้ได้อย่างลงตัว การที่หัวหินตั้งอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่เดินทางง่ายและใช้เวลาเพียง 2-3 ชั่วโมง โดยรถยนต์ เป็นการหลีกหนีความวุ่นวายของเมืองหลวงที่สมบูรณ์แบบสำหรับทริปสั้น ๆ หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายชิลล์ที่ต้องการพักผ่อนริมทะเล สายกินที่หลงใหลในอาหารทะเลสด ๆ หรือสายช้อปปิ้งที่มองหาความทันสมัย หัวหินมีมิติที่หลากหลายพร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่สถาปัตยกรรมย้อนยุคไปจนถึงแหล่งช้อปปิ้งระดับพรีเมียม 1. หาดหัวหิน: เสน่ห์ทะเลคลาสสิกที่ไม่มีวันเอาท์ สวรรค์แห่งกิจกรรมและประวัติศาสตร์ หาดหัวหิน คือหัวใจสำคัญและแลนด์มาร์กที่ไม่ว่าใครมาเที่ยวก็ต้องแวะเช็คอิน เมืองนี้ถูกค้นพบและพัฒนาให้เป็นสถานที่พักตากอากาศของราชวงศ์มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 ทำให้ที่นี่มีกลิ่นอายของ ความสง่างามและความเงียบสงบ ที่หาไม่ได้จากหาดอื่น ๆ ในประเทศไทย ชายหาดทอดยาวกว่า 5 กิโลเมตร มีเม็ดทรายที่ละเอียดและน้ำทะเลที่สะอาด เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง นอกจากการเดินเล่นริมชายหาดแล้ว ที่นี่ยังเป็นศูนย์รวมกิจกรรมทางทะเลที่สนุกสนาน เช่น การ ขี่ม้าชมวิว ยามเช้าหรือยามเย็นที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของหัวหิน หรือสำหรับสายแอคทีฟ ที่นี่ยังเป็นจุดที่มี โรงเรียนสอนไคท์เซิร์ฟ เปิดให้บริการ เนื่องจากมีลมที่เหมาะสม ทำให้คุณสามารถเรียนรู้และสนุกกับกีฬาทางน้ำสุดมันส์ได้ตลอดทั้งปี สำหรับท่านผู้ใดที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและความสงบมากขึ้น ลองเดินสำรวจไปทางทิศใต้ของหาด ซึ่งจะนำคุณไปสู่บริเวณใกล้เคียง เขาตะเกียบ ชายหาดแถบนี้จะเงียบสงบกว่ามาก เหมาะกับการนั่งปิกนิกใต้ร่มไม้ อ่านหนังสือ หรือแค่ปล่อยใจไปกับเสียงคลื่นในบรรยากาศที่ผ่อนคลายอย่างแท้จริง และในช่วงเช้าตรู่ อย่าพลาดที่จะมาชม พระอาทิตย์ขึ้น ที่สวยงามจับใจ ที่คุณอาจได้เห็นภาพชาวประมงท้องถิ่นกำลังลากอวนขึ้นจากทะเล ซึ่งเป็นภาพวิถีชีวิตดั้งเดิมที่น่าประทับใจ 2. BluePort Hua Hin & Market Village: 2 ห้างสรรพสินค้าตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ หัวหินไม่เพียงแต่มีทะเล แต่ยังมีแหล่งช้อปปิ้งที่ทันสมัยถึงสองแห่งที่ตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน: BluePort Hua Hin Resort Mall: สวรรค์นักช้อปสุดพรีเมียม BluePort ถูกออกแบบมาภายใต้แนวคิด “รีสอร์ทมอลล์” ที่หรูหราและมีสไตล์ การตกแต่งภายในเน้นบรรยากาศแบบเมืองชายทะเลระดับโลก ทำให้การเดินช้อปปิ้งรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในรีสอร์ท ที่นี่เป็นศูนย์รวมของ แบรนด์แฟชั่นระดับโลก และร้านค้าพรีเมียมชั้นนำ เหมาะสำหรับสายช้อปที่มองหาสินค้าคุณภาพและไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีโซนร้านอาหารระดับ Fine Dining และคาเฟ่เก๋ ๆ มากมาย ส่วนโซน Gourmet Market ก็เป็นแหล่งรวมของกินท้องถิ่นหายากและสินค้านำเข้าชั้นดีที่เหมาะสำหรับซื้อของฝากหรือวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม Market Village Hua Hin: แหล่งรวมความต้องการแบบครบวงจร Market Village เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่เป็นที่คุ้นเคยทั้งของคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ที่นี่มีเอกลักษณ์ในการเป็น One-Stop Service ที่แท้จริง เพราะมีทั้งซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ ร้านอาหารแบรนด์ดังที่หลากหลาย โรงภาพยนตร์ และโซนกิจกรรมสำหรับครอบครัวและเด็ก จุดเด่นคือความครบครันและราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า ทำให้เหมาะสำหรับการมาเที่ยวแบบครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องการใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกันในวันฝนตก หรือวันที่อยากพักจากการเผชิญแสงแดดจ้า นอกจากนี้ สถานีขนส่งรถตู้/มินิบัสแห่งใหม่ (Bus & Van Station) ก็ตั้งอยู่บริเวณ Market Village ทำให้เป็นจุดนัดพบและจุดเดินทางที่สำคัญมาก 3. Hidden Gems ที่ซ่อนตัว: 4 พิกัดลับสุดชิคที่ไม่ควรพลาด นอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวหลักแล้ว หัวหินยังมีพิกัดลับ ๆ ที่จะทำให้ทริปของคุณไม่ซ้ำใคร และได้ภาพถ่ายสวย ๆ ที่ไม่ซ้ำกับใคร: โรงหนังสุดคูลใน Blue Port (Hidden Spot) หลายคนมา Blue Port เพื่อช้อปปิ้ง แต่พลาดการใช้เวลาในโรงภาพยนตร์ที่นี่ ซึ่งได้รับการออกแบบมาอย่างดีและให้ประสบการณ์การรับชมที่หรูหราและสะดวกสบาย การดูหนังในโรงภาพยนตร์ที่มีคุณภาพสูงถือเป็น Hidden Spot สำหรับการหลบร้อนที่ดีที่สุด เป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลายและได้ทำกิจกรรมเบา ๆ หลังจากการสำรวจเมืองมาทั้งวัน มอบความรู้สึกเหมือนเป็น การพักผ่อนแบบพรีเมียม ที่ซ่อนตัวอยู่ภายในศูนย์การค้า วัดเขาถ้ำพระประทุน (Serene Cultural Escape) แทนที่จะเป็นวัดยอดนิยม ลองเปลี่ยนมาสำรวจ วัดเขาถ้ำพระประทุน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ให้ความรู้สึกสงบเงียบและศักดิ์สิทธิ์ ที่นี่มีจุดเด่นคือ ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป และมีทิวทัศน์ของธรรมชาติรอบด้านที่สวยงาม การเดินทางไปยังวัดอาจต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเล็กน้อย แต่ความสงบที่ได้รับจะคุ้มค่ากับการเดินทางอย่างแน่นอน เหมาะสำหรับมาสเตอร์ที่ต้องการเข้าถึงความศรัทธาและความงามทางธรรมชาติที่ยังไม่ถูกรบกวนจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ตลาด Cicada Market (Art & Indie Vibe) ตลาดนัดศิลปะสุดชิค แห่งนี้เปิดให้บริการเฉพาะวันศุกร์-อาทิตย์เท่านั้น บรรยากาศของตลาด Cicada เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ (Creative Vibe) ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ที่นี่แบ่งโซนชัดเจนทั้งโซน Art A La Mode สำหรับงานศิลปะและงานฝีมือแฮนด์เมดสุดคิ้วท์ โซน Food Court ที่มีอาหารหลากหลาย และโซนการแสดงสด (Performance) ที่มี ดนตรีสดและโชว์ศิลปะ หมุนเวียนมาให้ชมตลอดคืน แสงไฟที่ประดับประดาอย่างสวยงาม ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดีย และเป็นศูนย์รวมของคนรักงานศิลปะและดนตรี หาดลับใกล้ที่พัก Dusit D2 (Private Beach Feel) หากเบื่อความวุ่นวายของหาดหัวหินหลัก และอยากได้ฟีลลิ่งเหมือนมี หาดส่วนตัว แนะนำให้ลองสำรวจบริเวณชายหาดที่อยู่ใกล้กับโรงแรม Dusit D2 Hua Hin โซนนี้มักจะมีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากกว่าหาดอื่น ๆ ในตัวเมือง เนื่องจากเป็นบริเวณที่อยู่ติดกับที่พักและคอนโดมิเนียม ทำให้คนนอกพื้นที่ไม่ค่อยเข้าไปพลุกพล่าน คุณสามารถมาปูเสื่อนั่งเล่น ปล่อยใจไปกับเสียงคลื่น หรือลงเล่นน้ำทะเลได้อย่างสบายใจโดยไม่มีผู้คนมากมายมารบกวน เป็นสถานที่ลับ ๆ สำหรับการพักผ่อนแบบแท้จริง 4. อาหารทะเลและสตรีทฟู้ด: สวรรค์ของสายกินที่หัวหิน หัวหินได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในแหล่งอาหารทะเลที่อร่อยและสดใหม่ที่สุดในประเทศไทย เพราะอยู่ใกล้กับแหล่งทำการประมงที่อุดมสมบูรณ์ เมนูเด็ดที่พลาดไม่ได้นอกจาก กุ้งเผา ตัวโต, ปูม้านึ่ง เนื้อหวานฉ่ำ, และ ปลาหมึกย่าง หนึบ ๆ แล้ว ที่นี่ยังมีเมนูท้องถิ่นอย่าง หอยเชลล์อบเนยกระเทียม หรือ แกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว ที่ต้องลอง สำหรับร้านอาหารที่มีชื่อเสียงและเป็นตำนาน เช่น ร้านอาหารเจ๊เขียว และ ร้านอาหารครัวหัวหิน ก็ยังคงเป็นตัวเลือกหลักที่รับประกันความสดใหม่และรสชาติจัดจ้าน แต่เสน่ห์ที่แท้จริงของหัวหินนั้นอยู่ที่ สตรีทฟู้ด และตลาด: ตลาดโต้รุ่งหัวหิน:ในช่วงค่ำคืน ถนนสายนี้จะกลายเป็นสวรรค์ของนักชิม ที่นี่คุณสามารถหาอาหารทะเลปรุงสำเร็จที่สดใหม่ อาหารอีสานรสแซ่บ ขนมไทยโบราณ ไปจนถึงของที่ระลึกที่น่าสนใจ บรรยากาศคึกคักและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เหมาะกับการเดินชิมไปเรื่อย ๆ อย่างเพลิดเพลิน ตลาดเช้าหัวหิน: สำหรับมาสเตอร์ที่อยากสัมผัสวิถีชีวิตชาวหัวหินแบบแท้จริง ควรตื่นเช้ามาสำรวจตลาดนี้ ซึ่งเป็นแหล่งรวมอาหารพื้นบ้านรสชาติดั้งเดิม อาทิ โจ๊ก ข้าวเหนียวปิ้ง หรืออาหารตามสั่ง ในราคาที่ย่อมเยา ทำให้คุณได้เริ่มต้นวันใหม่ด้วยรสชาติแบบโลคอลที่หาไม่ได้จากที่ไหน 5. การเดินทางไปหัวหิน จากกรุงเทพฯ: ครบทุกทางเลือกที่สะดวกสบาย หัวหินเป็นจุดหมายปลายทางที่เข้าถึงง่ายมาก ทำให้คุณสามารถเลือกวิธีการเดินทางที่เหมาะสมกับงบประมาณและเวลาของคุณ: รถยนต์ส่วนตัว (Driving) * ระยะทางและเวลา: ประมาณ 198 - 220 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเพียง 2.5 – 3.5 ชั่วโมง * เคล็ดลับ: แนะนำให้ใช้ เส้นทางที่ 1 ผ่านถนนพระราม 2 (ทางหลวงหมายเลข 35) และต่อเข้าถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) เนื่องจากเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดและเลี่ยงการจราจรติดขัดในตัวเมืองชั้นในของกรุงเทพฯ การจ่ายค่าทางด่วนในบางช่วงจะช่วยร่นระยะเวลาได้มาก รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟมอบประสบการณ์ที่แตกต่าง เพราะคุณจะได้ชมวิวทิวทัศน์ชนบทตลอดเส้นทาง * สถานีต้นทาง: ปัจจุบันสามารถขึ้นได้จาก สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีหลักแห่งใหม่) ซึ่งมีรถไฟที่ทันสมัยกว่า และยังคงมีบริการจาก สถานีหัวลำโพง และ สถานีธนบุรี ในบางขบวน * ราคาและเวลา: มีราคาตั้งแต่ 42 บาท สำหรับรถไฟธรรมดา (ชั้น 3 พัดลม) ไปจนถึง 330 บาทขึ้นไป สำหรับรถด่วนพิเศษปรับอากาศ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.5 – 5 ชั่วโมง * ความพิเศษ: เมื่อไปถึง สถานีรถไฟหัวหิน อย่าลืมใช้เวลาถ่ายรูปกับอาคารสถานีไม้สีแดงสลับขาว ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบวิคตอเรียที่สวยงามและเป็นสัญลักษณ์ของเมือง รถโดยสารสาธารณะ (Bus/Minibus/Van) เป็นทางเลือกที่ประหยัดและสะดวกสบายที่สุด เนื่องจากมีความถี่ในการเดินรถสูง * จุดขึ้นรถ: สามารถขึ้นได้จากสถานีขนส่งหลัก ๆ ทั้ง สถานีขนส่งหมอชิต 2, สถานีขนส่งสายใต้ใหม่, และ สถานีขนส่งเอกมัย * การบริการ: มีทั้งรถตู้/มินิบัส และรถทัวร์ปรับอากาศให้บริการ โดยมีราคาเริ่มต้นประมาณ 180 – 215 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง * จุดลงรถในหัวหิน: ปัจจุบันจุดลงรถที่สำคัญคือ สถานีขนส่งฯ ใหม่ (Bus & Van Station) ที่อยู่บริเวณ Market Village Hua Hin ซึ่งเดินทางต่อไปยังที่พักหรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ได้ง่าย เครดิตรูปภาพทั้งหมด ภาพถ่ายจากครีเอเตอร์ทั้งหมด อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !