ดิฉันมีเพื่อนสนิทหนึ่งคน ซึ่งเป็นมนุษย์ผู้มีแนวทางอนุรักษ์ธรรมชาติสุดประหยัด เช่นเดียวกันกับดิฉัน คือ เราสองคนนิยมเสื้อผ้ามือสองค่ะ ในครั้งนี้เพื่อนสนิทของดิฉัน ได้ชักชวนให้ไปเดินชมร้านขายเสื้อผ้ามือสอง แบบชั่งน้ำหนักเสื้อผ้าอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่หัวมุมแยกคู้บอนตัดกับถนนรามอินทรา ชินจูกุ เอาท์เล็ต สาขารามอินทรา กม.8 เป็นร้านเสื้อผ้ามือสองญี่ปุ่น เกาหลี แบบคิดราคาจากน้ำหนัก ราคาขีดละ39บาท อยู่ตรงหัวมุมแยกคู้บอนตัดกับถนนรามอินทรา ตรงข้ามตลาดกม.8 อยู่ชั้นสองของโครงการ กม.8เพลส (km.8 place) เดินขึ้นบันไดไปอยู่ด้านซ้ายมือยิ่งใหญ่ เกรียงไกร ติดแอร์!เดินไปจนด้านซ้ายสุดแล้วก็จะเห็นป้ายร้านอยู่ด้านบนค่ะ เดินขึ้นบันไดมาให้เลี้ยวซ้ายค่ะ ร้านเป็นห้องกระจกติดแอร์ งดงามอลังการค่ะ มองเห็นอย่างเด่นชัดตั้งแต่ริมถนนด้านนอก มีที่ให้ฝากกระเป๋าตรงเคาท์เตอร์จ่ายเงิน ซึ่งอย่าลืมแยกของมีค่าออกมาใส่ถุงต่างหากเก็บไว้กับตัว จะได้ไม่กังวลว่าจะสูญหายนะคะ ร้านมีถุงช็อปปิ้งกับตระกร้าไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ เสื้อผ้าแบ่งเป็นโซนเสื้อผู้หญิง(โซนที่ใหญ่ที่สุด มีราวเยอะที่สุด) ซึ่งจะมีทุกรูปแบบตั้งแต่วินเทจยันเสื้อผ้าแบรนด์ เสื้อผ้าใส่ทำงาน เสื้อถัก เสื้อสำหรับฤดูหนาวแบบเสวตเตอร์ ฯลฯ ถัดมาเป็นกางเกง(แยกเป็นยีนส์กับไม่ใช่ยีนส์), กระโปรง(แยกระดับความยาว สะดวกมาก ๆ ) และเสื้อไม่มีแขน เช่นสายเดี่ยว แขนกุด เสื้อซับใน เสื้อออกกำลังกาย เสื้อนอน เสื้อกั๊ก บริเวณรอบ ๆ กำแพงร้านจะมีราวแขวนสูง ซึ่งใช้แขวนเสื้อผ้าผู้หญิงประเภทเดรสสั้น-ยาวและเสื้อคลุมยาว มีกระจกและผ้าคลุมสำหรับลองชุด ที่ชั้นล่าง สองจุดค่ะโซนถัดมาเป็นของผู้ชาย แบ่งเป็นเสื้อยืด เสื้อเชิ้ตอย่างชัดเจน และกางเกง ใกล้ๆกับโซนกางเกงผู้ชายจะเป็นกางเกงขาสั้นผู้หญิง และติดกันเป็นหมวดกางเกงขายาวประเภทกีฬา กางเกงกันหนาว และกางเกงนอน เดินขึ้นชั้นบน เป็นเสื้อกันหนาวทั้งหมด แจ็กเก็ต ฮู้ดดี้ เสว็ตเตอร์ เสื้อดาวน์ โอเวอร์โคท แต่เพดานจะค่อนข้างต่ำต้องระวังเวลาเดินไปบางมุม ด้านบนก็มีกระจกสำหรับส่งเวลาลองเสื้อเช่นกันลงมาชั้นล่างอีกที เดินให้ทั่วจะเห็นมีลังไม้หรือพาเลทไม้ใหญ่ ๆ (ในรูปคือตรงที่มีเก้าอี้สองตัวพิง) ซึ่งในนั้นมีผ้าแบบต่าง ๆ รวมกัน ดูดี ๆ มันคือบรรดาผ้าผืนใหญ่ ๆ แบบต่าง ๆ ที่ใช้ในบ้าน เช่น ผ้าคลุมโต๊ะ ผ้าคลุมเตียง ปลอกหมอน และยังมีพวกผ้าเช็ดหน้า ผ้าพันคอ หมวกไหมพรม ฯที่ร้านมีรองเท้าขายด้วย คิดว่าเป็นรองเท้าเด็กโตนะคะ แต่ใครเท้าเล็กก็ไปถอยมาได้นะคะ สภาพดีงามมาก ๆ ค่ะ ยี่ห้อ Lucky Bell มีสีขาวแถบแดง กับขาวแถบน้ำเงิน ราคาคู่ละ100บาทหากอยากเช็คราคา บริเวณใกล้ ๆ บันไดทางขึ้นชั้นสองมีตราชั่งสำหรับลูกค้าเลขที่ออก... เสื้อถัก ๆ ค่อนข้างมีน้ำหนักเลยทีเดียว ฮ่าฮ่าฮ่า เสร็จแล้วจ่ายสตางค์โดยเอาเสื้อผ้าที่เลือกวางบนตราชั่งทีละตัว แม่ค้าจะคิดเงินทีละชิ้น บิลออกมาเราจะเห็นว่าแต่ละตัวราคาเท่าไหร่บ้าง และนี้คือสิ่งที่ได้กลับบ้านกันไปในวันนี้ค่ะ สบายอกสบายใจสำหรับสุภาพสตรี ที่พาคู่เดทมาด้วย ทางร้านมีความเข้าใจในจุดนี้ จึงมีการจัดที่นั่งพักไว้ให้ด้วยนะคะ เผื่อเราเดินสักสามสี่แถวแล้วเหนื่อย นั่งพักก่อนค่อยไปเดินต่อ หรือไว้สำหรับนั่งรอ (ส่วนใหญ่เห็นเป็นผู้ชายมานั่งรอแฟนเลือก หรือไม่ก็เพื่อนสาวมานั่งช่วยเพื่อนดู) นอกร้านก็มีที่นั่งเล่นรอเช่นกันมาถึงสิ่งสำคัญ ในการเที่ยวให้เพลิดเพลิน นั้นก็คือห้องน้ำค่ะ ห้องน้ำที่นี้ดีงามอลังการมาก... มีงานวาดภาพระบายสีเลอเลิศ วิลิศมาหรามากมายค่ะ ด้านขวามือของภาพคือห้องน้ำหญิง ส่วนด้านขวามือคือห้องน้ำชายนะคะ หากมีความต้องการใช้ห้องสุขา ขอบอกว่าเดินออกจากร้านมาก็เจอห้องน้ำเลยนะคะ ห้องน้ำด้านในก็สะอาดดีงามมากเช่นกัน ราวกับห้องน้ำในห้างดี ๆ และน่าจะเพิ่งห้องน้ำพึ่งรีโนเวทใหม่ไม่นาน จึงได้มีสภาพดีงามเช่นนี้ ดิฉันและเพื่อนมีความประทับใจร้านชินจูกุ เอาท์เล็ต สาขารามอินทรา กม.8 เป็นอย่างยิ่งค่ะ ใครที่ชื่นชอบเสื้อผ้ามือสอง แต่ไม่สามารถทนแดดร้อน ๆ ได้ ร้านชินจูกุเอาท์เล็ต คือ สรวงสวรรค์เสื้อผ้ามือสองของคุณค่ะ ใครไม่ชินเส้นทาง (แบบดิฉัน) สามารถศึกษาเส้นทางการเดินทางและข่าวสารของทางร้านได้โดยตรง จากเพจ ShinjukuOutlet นะคะ *ถ่ายภาพโดย pruesa ได้รับการอนุญาตให้ใช้ประกอบบทความแล้ว